ลืมฉันลงได้ง่ายดายเชียวหรือ
“ผีทักษิณ” โผล่ที่ยูเอ็น ณ มหานครนิวยอร์กในปีนี้อีกแล้วครับ โผล่ในที่ประชุมระดับสูงว่าด้วย “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งประชาคมโลกให้การยอมรับนับถืออย่างสูง และไทยเป็นตัวตั้งตัวตี ร่างปฏิญญาให้ยูเอ็นไปผลักดัน
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
“ผีทักษิณ” โผล่ที่ยูเอ็น ณ มหานครนิวยอร์กในปีนี้อีกแล้วครับ โผล่ในที่ประชุมระดับสูงว่าด้วย “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งประชาคมโลกให้การยอมรับนับถืออย่างสูง และไทยเป็นตัวตั้งตัวตี ร่างปฏิญญาให้ยูเอ็นไปผลักดัน
นี่ก็ทำให้นึกถึงเพลงเพลงหนึ่งในยุคซิกส์ตี้-เซเวนตี้ ที่ชื่อว่า “Am I That Easy Forget” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบทความข้างต้นนี้ “ลืมฉันลงได้ง่ายเชียวหรือไร” ขับร้องโดยจิม รีพส์
เนื้อร้องท่อนแรก เริ่มต้นมาก็เร้าใจแล้วล่ะ “They say you’ve found somebody new, but that won’t stop my loving you. I just can’t Let you walk away, forget the love I had for you”
มีคนพูดมาว่า คุณได้พบคนใหม่แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหยุดรักคุณ ผมคงไม่ยอมให้คุณเดินจากไป โดยลืมความรักที่ผมมีต่อคุณ
ท่อนต่อมา “Guess I could find somebody, too, but I don’t want no one but you. How could you leave without regret? Am I that easy to forget?”
คิดว่าผมคงพบคนใหม่ได้เช่นกัน แต่ผมไม่ต้องการใครนอกจากคุณ คุณจะจากผมไปโดยไม่เหลืออาลัยความเสียใจหรืออย่างไร คุณจะลืมผมได้ง่ายดายเช่นนั้นเชียวหรือ
ท่อนถัดมา เว้าวอนอีกว่า “Before you leave be sure you find, you want his Iove much more than mine. Cause I’ll just say we’ve never met. If I’m that easy to forget”
ก่อนคุณจะจากผมไป ขอให้คุณแน่ใจเถอะว่า คุณต้องการจะได้ความรักจากเขา มากกว่าความรักที่ผมมีให้ต่อคุณ หากผมเป็นสิ่งที่ถูกลืมได้ง่ายดายเยี่ยงนั้น ผมจะคิดซะว่า เราไม่เคยพบกันมาก่อน
และท่อนสุดท้ายก็ย้ำซ้ำ “Before you leave be sure you find, you want his love much more than mine. Cause I’ll just say we’ve never met, If I’m that easy to forget. If I’m that easy to forget”
ครับ ในโลกแห่งความเป็นจริง มันก็ไม่ได้แสนหวานและขมขื่นเชิงโรแมนติกเช่นนั้นหรอก แต่ก็คงความเป็นดราม่าไม่แพ้กันสักเท่าไหร่นัก
ผมนึกถึงทักษิณ ชินวัตร ผู้รอนแรม กับความเป็นจริงวันนี้บนเวทีสหประชาชาติ ที่ผลงาน “30 บาทรักษาทุกโรค” หรือโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้รับการยกย่องเป็นคัมภีร์ต้นแบบการพัฒนาไปทั่วโลก
โดยผู้นำเสนอและกล่าวยกย่องเชิดชูคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเพิ่งพูดจาเหยียดหยามตอนน้ำท่วมว่า “ไปเอาไอ้คนอยู่ต่างประเทศมาก็แก้ไม่ได้” ซะด้วย เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อผู้ให้กำเนิดโครงการนี้เท่านั้น
อันที่จริง โครงการนี้ก็ไม่ใช่ทักษิณคิดเองหรอก ผู้คิดค้นริเริ่มโครงการนี้แท้จริงก็คือคุณหมอสงวน -คุณหมอเลี้ยบ-คุณหมอมิ้งค์ และกลุ่มหมอชนบทนี่แหละ
เคยไปเสนอพรรคการเมืองใหญ่ที่มีอำนาจยุคนั้น ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลยุคนี้แหละ แต่พรรคการเมืองใหญ่นั้นไม่เอา แถมตอนทักษิณเอาไปทำตอนเป็นรัฐบาล ก็ยังได้รับการค่อนขอดจากพรรคนี้อีกด้วยว่า “30 บาท ตายทุกโรค”
“บิ๊กตู่” ก็เช่นกัน เคยหงุดหงิดใส่ตอนพืชผลราคาตกต่ำไม่ว่าข้าว ยาง ปาล์ม ฯลฯ ว่าไปตัดงบ 30 บาทฯ เอามาช่วยแก้ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำได้ไหม
แต่เดี๋ยวนี้เป็นความภาคภูมิใจของท่านผู้นำจังว่า โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถเข้าถึงประชากรทั่วประเทศเกือบถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และก็ยังจะขยายสิทธิประโยชน์ไปยังการให้ยาต่อต้านไวรัสเอชไอวีอีกด้วย
ความวิเศษของ “30 บาทรักษาทุกโรค” คือหลักประกันสุขภาพของปวงชนชาวไทยไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไร ก็สามารถเข้าถึงการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างทั่วถึง เพราะถือเป็นสิทธิที่รัฐต้องจัดให้
หากมิใช่ต้องวอนขอความเมตตา
หัวใจสำคัญของการบริหารเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ก็คือการจัดตั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีงบประมาณการรักษารายหัว แทนจะเป็นงบประมาณเบี้ยหัวแตกภายหลังการจัดสรรเบี้ยบ้ายรายทางต่าง ๆ ดังจารีตเดิมที่ผ่านมา
ซึ่งทำอย่างไร งบประมาณการรักษา ก็ไม่ตกถึงมือคนไข้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยสักที
เดี๋ยวนี้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงหลักประกันการรักษาโรคได้เกือบ 100% ดั่งนายกฯ ประยุทธ์ว่า ไม่ต้องขายวัวขายควายบ้านที่ดินมารักษาพ่อแม่
ชีวิตก็กินอิ่ม นอนอุ่นได้พอประมาณ สิทธิบัตรทองก็ขยายสู่การรักษาโรคร้ายแรงเช่น โรคหัวใจ การฟอกไต และการคัดกรองมะเร็งได้มากขึ้นทุกที
ไม่ต้องสงสัยเลยครับ 13 ปีที่ทักษิณระเห็จจากอำนาจ เพลงจะลืมฉันลงได้ง่ายดายเชียวหรือ “แอม ไอ แดท อีซี่ ทู ฟอร์เก็ต” ก็ยังมีมนตร์ขลัง