ERW สดใสทุกมิติ

คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW จะเริ่มกลับมาสดใสขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยนโยบายจากภาครัฐสนับสนุน รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ หนึ่งในมาตรการที่เน้นคือ “ส่งเสริมการท่องเที่ยว”

ปัจจุบันที่กำลังได้รับความนิยมคือ “ชิม ช้อป ใช้” ที่เปิดให้ลงทะเบียนมาตั้งแต่ 23 ก.ย.จนถึง 15 พ.ย. 2562 เป้าหมายคือ มีประชาชนเข้าร่วมถึง 10 ล้านคน มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และผู้ที่ได้สิทธิ์ยังสามารถนำค่าใช้จ่ายจริงจากการเดินทางท่องเที่ยวมาขอคืนเงินได้อีก 15% ของค่าใช้จ่ายไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท

ประกอบกับบวกจากมาตรการรัฐก่อนหน้านี้ ต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival รวมตลาดจีนและอินเดีย จากสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2562 เป็นสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563

รวมถึงกำลังย่างเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวดีที่สุดในไตรมาส 4/2562 และไตรมาส 1/2563

และที่สำคัญคาดว่าช่วงเดือนที่เหลือมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง โดยฐานปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ จากอุบัติเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต ต้นเดือนกรกฎาคม 2561 ขณะที่มีนักท่องเที่ยวเปลี่ยนจุดหมายจากฮ่องกงไปประเทศอื่นรวมทั้งไทยด้วย

สิ่งที่ดีคือ ไทยเป็นปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องการมามากที่สุด ซึ่งคาดปีนี้นักท่องเที่ยวจะได้ตามเป้าคือ 39-39.8 ล้านคน

ทั้งนี้นโยบายทางภาครัฐจะส่งผลให้ทาง ERW ได้รับประโยชน์ !!!

สืบเนื่องจาก ERW ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมหลายระดับราคารวมทั้งโรงแรมราคาประหยัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ

พร้อมกับเริ่มเปิดโรงแรมใหม่ในครึ่งหลังของปี 2562 ช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทมากขึ้น

อีกทั้งบริษัทมีแผนการเปิดโรงแรมใหม่อีก 9 แห่งในครึ่งหลังของปี 2562 เป็น Hop Inn 7 แห่ง Mercure ที่กรุงเทพฯ 1 แห่ง และ Ibis ที่กรุงเทพฯ 1 แห่ง ขณะที่ครึ่งปีแรก ไม่มีการเปิดใหม่เลย จะทำให้จำนวนโรงแรมเพิ่มเป็น 70 แห่ง และมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 9,559 ห้อง

สิ่งสำคัญยังเป็นจังหวะดีของ ERW มีการปรับปรุง JW Marriot แล้วเสร็จ รับไฮซีซั่น หลังจากปิดปรับปรุงไปถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560 ก็จะเปิดบริการห้องพักได้ทั้งหมดในเดือนตุลาคม 2562 เข้าสู่ฤดูกาลที่ดีที่สุด คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ดังนั้นทำให้นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่ากำไรไตรมาส 2/2562 ที่ไม่สดใสเป็นจุดต่ำสุดแล้ว แต่กำไรหลักในครึ่งหลังของปี 2562 เป็นสัดส่วน 56% จากปีนี้ แม้ปีนี้อัตราการเติบโตกำไรหลักเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนไม่สูงนักเป็น 5% แต่ปี 2563 จะสูงเป็น 24%

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายสุขกาญจน์ วัธนเวคิน 336,439,178 หุ้น 13.39%
2. บริษัท ซิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด 232,093,100 หุ้น 9.24%
3. นางวรรณสมร วรรณเมธี 149,757,004 หุ้น 5.96%
4. บริษัท ทุนมิตรสยาม จำกัด 144,488,645 หุ้น 5.75%
5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 105,472,204 หุ้น 4.20%

รายชื่อกรรมการ

1. นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ
2. นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
3. นางพนิดา เทพกาญจนา กรรมการ
4. นายสุพล วัธนเวคิน กรรมการ
5. นายกวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการ