เส้นทางหุ้น GULF
GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
น่าจะถูกจัดเป็นหุ้นไฟฟ้าร้อนแรงแห่งปี 2562
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
ราคาหุ้นบวก 7.50 บาท ปิดที่ 167.00 บาท เปลี่ยนแปลง +4.70%
มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 3,673 ล้านบาท
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ในวันดังกล่าว ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ขึ้นไป All time high ที่ระดับ 167.50 บาทด้วย
ทำให้นับจากสิ้นปี 2561 มาจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 62 ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ วิ่งขึ้นมาแล้ว 115%
กัลฟ์ เริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ SET วันที่ 6 ธันวาคม 2560
ด้วยจำนวนหุ้นไอพีโอกว่า 533.30 ล้านหุ้น และมีราคาเท่ากับ 45.00 บาทต่อหุ้น
วันแรกที่มีการซื้อขายก็ร้อนแรงซะแล้ว
เพราะราคาพุ่งขึ้นไปถึง 57.50 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอเกือบ 28% ก่อนจะลงมาปิดที่ระดับ 53.75 บาท เพิ่ม 19.44% จากราคาไอพีโอ
ในช่วงปี 2561 หุ้นกัลฟ์ฯ ราคามีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง
แต่ก็เป็นไปตามปัจจัยบวกและลบที่เข้ามาไปตามสถานการณ์ของภาวะตลาดฯ และผลประกอบการของกัลฟ์ฯ
ราคาหุ้นวิ่งขึ้นและลงอยู่ในกรอบ 60.00-80.00 บาท
ทว่า นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ไม่เคยลงไปต่ำกว่าไอพีโอ
เมื่อดูความเคลื่อนไหวจากเดือนตุลาคม 2561 มาจนถึงปัจจุบัน (11 ตุลาคม) หากดูจากเส้นกราฟราคาของกัลฟ์ฯ จะพบว่าค่อย ๆ ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แม้จะมีบางช่วงปรับลงมาบ้าง
แต่เป็นของสัญญาณทางเทคนิคที่อาจจะมีการขายทำกำไรกันออกมาบ้าง
และบางช่วงถูกปล่อยข่าวลือในด้านลบ จนเกิดการแพนิก
เมื่อนักลงทุนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ราคาหุ้นก็จะกลับเข้าสู่เส้นทางที่ควรเป็น
ทบทวนข้อมูลกันอีกครั้ง
กัลฟ์ฯ เป็นบริษัทโฮลดิ้ง หรือ Holding Company แล้วเข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ที่ผลิตไฟฟ้าจำนวนนับสิบแห่ง
สถานะการถือหุ้นมีทั้งถือหุ้นใหญ่เกือบทั้งหมด และถือหุ้นใหญ่ที่ร่วมกับพันธมิตรรายอื่น ๆ ด้วย
ปี 2560 มีรายได้รวม 9,523 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,451 ล้นบาท
ปี 2561 มีรายได้รวม 20,229 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,028 ล้านบาท
และปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน) มีรายได้รวม 16,591 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,896 ล้านบาท
ส่วนคาดการณ์กำไรทั้งปี (2562) นักวิเคราะห์ดีดลูกคิดออกมาแล้วคาดการณ์กำไรสุทธิของกัลฟ์ฯ จะอยู่ประมาณ 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นค่อนข้างก้าวกระโดดจากปี 2561
ขณะที่ปี 2563 และปี 2564 กัลฟ์ฯ ก็ถูกคาดหมายว่ากำไรยังคงเติบโตต่อไป
กัลฟ์ฯ เองนั้นยังคงวางแผนขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น
ผ่านทั้งการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า
และรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
ว่ากันว่า แนวโน้มการเติบโตของการผลิตไฟฟ้าที่มีความมั่นคง (มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารองรับ)
และแผนการขยายธุรกิจ
ทำให้หุ้นกัลฟ์ฯ ถูกมองว่าจะยังคงมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตดีกว่าตลาดฯ ไปอีกนับ 10 ปี
ณ ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ หรือมาร์เก็ตแคปของกัลฟ์ฯ อยู่ที่ราว ๆ 373,000 ล้านบาท
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับมาร์เก็ตแคปในช่วงเข้าตลาดฯ ที่อยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
ราคาหุ้นไอพีโอที่ 45.00 บาท
เมื่อนำมาเทียบกับการปิดล่าสุด (167.00 บาท) เพิ่มขึ้นมากว่า 271% (ในช่วง 1 ปี 10 เดือน)
ไม่รู้ว่า….
จะมีนักลงทุนมากน้อยแค่ไหนที่ได้หุ้นกัลฟฯ มาตอนไอพีโอ
แล้วถือยาวมาจนถึงตอนนี้บ้าง