พาราสาวะถี

ผ่านไปตามคาดร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 251 เสียง ขณะที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านงดออกเสียง มีเพียง กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ 1 เสียงเท่านั้นที่แหกมติไปโหวตรับร่างกฎหมายดังกล่าว จนหัวหน้าทีมของพรรคสีส้มเมืองชลต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กไล่ให้ไขก๊อกพ้นเก้าอี้ด้วยเหตุผลทรยศต่ออุดมการณ์และผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน


อรชุน

ผ่านไปตามคาดร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 251 เสียง ขณะที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านงดออกเสียง มีเพียง กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ 1 เสียงเท่านั้นที่แหกมติไปโหวตรับร่างกฎหมายดังกล่าว จนหัวหน้าทีมของพรรคสีส้มเมืองชลต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กไล่ให้ไขก๊อกพ้นเก้าอี้ด้วยเหตุผลทรยศต่ออุดมการณ์และผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

ส่วนผู้บริหารของพรรคอนาคตใหม่ ขอรอให้เสร็จศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 นครปฐมที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคมนี้เสียก่อน ค่อยกลับมาพิจารณาโทษกัน ดูเหมือนว่าจะทันทีทันใดเหมือนกันกับข่าวปล่อยโดยอ้างแหล่งข่าวจากพรรคสีส้มว่า กำลังเกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนักภายในพรรค เนื่องจากส.ส.เขตไม่พอใจกระบวนการบริหารจัดการของพรรคที่อ้างว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รวบทุกอย่างไว้กับตัวเองและให้เกียรติส.ส.บัญชีรายชื่อมากกว่าส.ส.แบบแบ่งเขต

เป็นปกติธรรมดาของพรรคการเมืองหน้าใหม่และเปิดกว้างทางความคิดในหลายเรื่อง แต่เพื่อความเป็นเอกภาพและต้องไม่ลืมกันเงินที่นำมาใช้ดำเนินการนั้นเป็นการกู้ยืมมาจากหัวหน้าพรรคที่ชื่อธนาธรแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น บางเรื่องจึงอาจต้องเงี่ยหูฟังกันบ้าง อย่างไรก็ตาม หากติดตามการพิจารณาคดีถือครองหุ้นสื่อของธนาธรที่ศาลรัฐธรรมนูญเปิดการไต่สวนมิติใหม่ด้วยการไลฟ์สดให้คนทางบ้านได้ชมกันด้วย น่าจะทำให้เราได้เห็นทิศทางอะไรบางอย่าง

หากจับความเห็นของ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเจ้าประจำของคนเสื้อแดง ต่อพิรุธในการชี้แจงของธนาธรกับศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะทำให้บรรดากองเชียร์สีส้มใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กันอยู่ไม่น้อย และความเห็นของ วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.สอบตกของพรรคประชาธิปัตย์ต่อการไลฟ์สดการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ไม่ต้องการให้มีใครนำไปบิดเบือนหลังมีคำวินิจฉัย ยิ่งน่าจะทำให้มองภาพปลายทางได้ง่ายมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ยังได้ปูดอีกว่า อีกไม่นานจะมีพรรคการเมืองถูกยุบและส.ส.ที่ทำตัวเป็นลิงหรืองูเห่าไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไป หากพรรคถูกยุบสามารถที่จะไปเลือกกินกล้วยที่คนเลี้ยงพร้อมจะป้อนให้ได้อย่างสะดวกโยธิน และไม่ต้องถูกใครต่อว่า เพราะเมื่อพรรคไม่มีแล้ว ก็เป็นความชอบธรรมของนักการเมืองคนนั้นที่จะตัดสินใจอนาคตของตัวเอง ผิดกับสภาพปัจจุบันที่เมื่อไปแหกมติพรรคเข้า ก็ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ครั้นจะลาออกจากพรรคสภาพความเป็นส.ส.ก็จะหมดไปทันที พอจะรอให้พรรคขับพ้นจากชายคา เพื่อตัวเองจะได้มีหัวโขนไปหาสังกัดใหม่ได้ก็ยากและคงเป็นไปไม่ได้หรือไม่มีพรรคไหนบ้าที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้น ข้อมูลของเจิมศักดิ์ที่ปูดออกมาจึงน่าจะทำให้พวกงูเห่าชั่วคราวและลิงกินกล้วยทั้งหลายยิ้มไม่หุบ เพียงแต่ว่ากว่าจะไปถึงตรงนั้น ต้องใช้เวลารอหน่อย แต่หากติดตามกระบวนการพิจารณาขององค์กรที่จะตัดสินแล้วคงไม่ช้า

ความจริงเรื่องอนาคตใหม่ถูกยุบนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เนื่องจากเรื่องที่โดนร้องเรียนนั้นมีเป็นกระบุง หลุดจากเรื่องหนึ่งก็มีโอกาสที่จะโดนอีกเรื่อง ขณะที่ทางการข่าวก็พบว่ามีแนวโน้มที่จะ    ไม่รอด” สิ่งที่น่าจับตากันมากกว่า คงเป็นประเด็นที่ว่ายุบแล้วจะโดนเล่นงานและพ้นสภาพส.ส.เฉพาะหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น หรือส.ส.ที่มีอยู่ในมือทั้งหมดจะโดนหางเลขไปด้วย ก่อนหน้ามีข่าวว่าจะเป็นอย่างหลัง แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันอาจไม่เป็นเช่นนั้น

จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรต้องปิดลับ เพราะพรรคประสบการณ์สูง (ในการถูกยุบ) อย่างเพื่อไทย เคยพูดบนเวทีเสวนาทางวิชาการไปก่อนหน้านี้ เตือนเพื่อนร่วมฝ่ายค้านให้ระวังการถูกยุบให้ดี จนระดับนำของพรรคสีส้มต้องออกมาเตือนให้ระวังเรื่องมารยาทไม่วิจารณ์ข้ามพรรค เมื่อกระบวนการงวดเข้ามาทุกขณะ เชื่อว่าธนาธรและแกนนำสำคัญน่าจะอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง และได้วางแนวทางการต่อสู้รูปแบบใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว

การบรรยายอันเผ็ดร้อนของ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องยังไม่สร่างซา ปรากฏว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ทำให้ร้อนขึ้นไปอีกเมื่อโยนหินก้อนโตว่าด้วยทายาทของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจต่อไป กับคำตอบที่ว่า ถ้าเป็นได้ก็ดี” พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ งานนี้ถือเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว ประการแรกคือ เป็นการการันตีว่ารัฐบาลมีโอกาสน้อยที่จะถูกรัฐประหาร

เป็นการยืนยันว่าผบ.ทบ.หนุนหลังผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในทุกกรณี ขณะที่อีกทางเป็นการขู่ไปยังฝ่ายที่จ้องจะปรับลดงบประมาณของกองทัพลง แม้ร่างพ.ร.บ.จะผ่านความเห็นชอบในวาระแรก แต่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ยังมีโอกาสที่จะถูกตัดทอนลงไปได้ ดังนั้น การปูดประเด็นนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่าถ้ากดดันกันมากไป ระวังอำนาจจะเปลี่ยนมือและเดือดร้อนกันทุกฝ่าย ซึ่งต้องไปพิสูจน์หัวใจของนักการเมืองที่อ้างประชาธิปไตยว่ากล้ากันขนาดไหน

กระบอกเสียงพรรคสืบทอดอำนาจทำกันเป็นแค่ขุดปมจำนำข้าวมาโต้กลับพรรคคู่กัด ควันหลังจากศึกอภิปรายกฎหมายงบเป็นประเด็นที่มีการอ้างว่าเหตุที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจต้องกู้เงินมามากนั้น เป็นเพราะส่วนหนึ่งต้องนำไปใช้หนี้จากโครงการดังว่าของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันก็ถูกแค่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเป็นนักการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจะไม่ยกเอาประเด็นนี้มาโจมตีคู่แข่ง

ต้องอย่าลืมว่า แม้จะมีการวางกลไกสืบทอดอำนาจไว้นานจากนี้ไปอีกนับสิบปี แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เกิดในอนาคตรัฐบาลไม่ใช่พรรคของเผด็จการ ผู้นำไม่ได้ชื่อประยุทธ์แล้วมีการกล่าวหาว่าประเทศต้องเป็นหนี้มหาศาล เพราะต้องกู้มาเพื่อใช้หนี้นโยบายอภิมหาประชานิยมที่แจกแหลกของเผด็จการแปลงร่างจะรู้สึกกันอย่างไร อ้างการเมืองยุคปฏิรูปแต่คนรุ่นใหม่ของพรรคยังเดินเกมการเมืองแบบโสมม

Back to top button