ท่าดี (ประจำ)

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากประเมินจากยอดขายสะสมของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. จนถึงวันล่าสุดจะเห็นว่า นักลงทุนสถาบันทั้ง 3 กลุ่มล้วนมีพฤติกรรมทิ้งหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในรายของ ฝรั่งตาน้ำข้าวที่มียอดขายสูงถึง 6 พันล้านบาท ตามมาด้วยกองทุนตัวจี๊ดที่ขายเบาะ ๆ ไปแค่ 1.40 พันล้านบาท ก่อนจะตบตูดด้วยปอบผีฟ้าที่ทยอยรินหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนยอดล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.80 พันล้านบาทนะจะบอกให้

*ถามว่าตัวเลขดังกล่าวบอกอะไร? “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันคือตัวแปรที่ทำให้ดัชนีขยับขึ้นไม่ไกล! ขืนสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปในรูปแบบนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องคาดหวังการสร้างฐานแนวรับจะมั่นคงขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เดี๊ยนถึงกล้าฟันธงในทันทีว่า ท่าดี..ทีเหลว ยังเป็นเรื่องที่เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถพบเห็นได้เป็นประจำไงล่ะคะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,631.46 จุด บวกไป 10.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.87 หมื่นล้านบาท ถึงเป็นหนังม้วนเก่าที่เอามาเล่าใหม่ไม่ต่ำกว่าสิบรอบ หรือแม้กระทั่งการเจรจาสงครามการค้าที่กินเวลามาอย่างยาวนาน ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนมองเห็นจุดจบจะออกไปในแนวพบกันครึ่งทาง (70:30 ก็ยังพอไหว) รวมทั้งการลดดอกเบี้ยของเฟดก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นสวิงสวายต่อไปอีกนานเลยทีเดียวเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้น AWC เด้งกลับมาปิดที่ระดับ 6.25 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.47 พันล้านบาท ยังเป็นช็อตกินกันเองของเหล่ากองทุน “โมนิก้า” ถึงไม่เอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับมันนี่เกมของกลุ่ม “เสี่ยเจริญ” เพราะมันไม่ใช่เกมถนัดของแมงเม่า จึงอยากปล่อยให้พวกเจ้ามือฟัดกันนัวเนียต่อไปเรื่อย ๆ เพราะมองในมุมของค่า P/E 285 เท่า มันไม่เวิร์กเลยพับผ่าซิ!

*ตรงกันข้ามกับในรายของ BGRIM ภายใต้การบริหารจัดการของคุณพี่ “ปรียนาถ” ยังคงเป็นหุ้นทีเด็ดเมื่อบรรยากาศการลงทุนเป็นใจ ผสานกับแวลูของหุ้นคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นพยายามเดินหน้าทำราคาสูงสุดใหม่ตลอดเวลา เพราะองค์ประกอบหลายอย่างผลักดันให้หุ้นไปต่อ เดี๊ยนเลยมองราคาปิดที่ 51 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 857 ล้านบาท ไม่ใช่จุดพีกของการเล่นเที่ยวนี้น่ะซี

*ส่วนที่เด้งรับกำไรอย่างรวดเร็วอย่าง BFIT กลายเป็นช็อตที่ทำให้พวกขาลุยเคาะขวารัว ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ผนวกกับก่อนหน้านี้ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงโดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า จึงเป็นจังหวะที่ต้องใช้ความคิดให้มาก ๆ เพราะเมื่อมองจากราคาปิดที่ 33.25 บาท บวกไป 5.25 บาท หรือขึ้นไป 18.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 348 ล้านบาท ท่ามกลางการเทรดบนค่า P/E 40 เท่าแบบนี้..มันเวิร์กจริงไหมคะ

*เม้าท์ถึงประเด็นนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้นักเล่นหันมามองหุ้นน้องสวย BEAUTY เด้งขึ้นมาปิดที่ 2.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 14.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 355 ล้านบาท พร้อมกับมีการเก็งผลงานจะออกมาดีในงวดนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่นักเล่นต้องติดตามกันต่อไป หลังสถานการณ์ของธุรกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้า ๆ บวกกับหุ้นเทรดบนค่า P/E 11 เท่า จึงเป็นจังหวะ follow buy พะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองย้อนไปยังหุ้น JMART เพื่อย้ำให้แฟนคลับได้เห็นถึงภาพธุรกิจที่กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผสานกับบรรดาแมงลือเม้าท์ถึงเรื่องพาร์ตเนอร์ใหม่ทางธุรกิจกำลังจะเข้ามาต่อยอดกำไร เดี๊ยนถึงมองหุ้นตัวนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการ “เล่นสั้น” และ “เล่นยาว” พร้อมกับประเมินการขึ้นมาปิดที่ 10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท ยังเล่นต่อได้เจ้าค่ะ

*อีกช็อตที่น่าสนใจคงโฟกัสไปที่หุ้น EPG ของ “ป๋าเหลียว” มีแรงซื้อแรงเทขาย “ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ” ตลอดเวลา จนราคาหุ้นอยู่ในทิศทาง sideway up พร้อมกับมีความหวังเรื่องเทิร์นอะราวด์ให้เห็นแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นบรรจุหุ้นตัวนี้ไว้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ในพอร์ตลงทุน เพราะการที่หุ้นยืนปิดเสมอตัวบริเวณ 7.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39 ล้านบาท เย้ายวนใจดีเหลือเกินนะจ๊ะ

*เรื่องนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองหุ้นน้องใหม่ RBF เพื่อชี้ให้เห็นกองทุนถือหุ้นมากมายก่ายกอง ไล่เรียงตั้งแต่ กบข. ประกันสังคม ประกันชีวิต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือแม้กระทั่งกองทุนหุ้นระยะยาว ก็มากันอย่างคับคั่ง เดี๊ยนถึงมองว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจจริง ๆ ผนวกกับธุรกิจออกไปในแนวนวัตกรรมใหม่ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องดิสรัปชั่นให้รกสมองแบบนี้..ฉลุยชัวร์!..อ้อ..อย่าลืมว่าปีหน้าบริษัทจะออกไปโตต่างแดนอย่างเต็มตัว จึงมี growth ให้เห็นแน่ ๆ จ้า!