ขายก่อน..ซื้อทีหลัง(อีกแล้ว)

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หลังจากต้องนั่งลุ้น นอนลุ้น ยืนลุ้น จนตัวโก่งว่าดัชนีจะวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบยอดเก่าบริเวณ 1,650 จุดได้หรือไม่? ในที่สุดก็ต้องผิดหวังไปตามกัน เพราะดัชนีดันทรุดหนักสองวันติด ๆ ก่อนจะลงมาปิดที่ 1,593.28 จุด ลบไป 27.69 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 7.66 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้นักลงทุนได้เห็นแรงขายที่ทยอยออกมาตลอดเวลานั้น “โมนิก้า” ขอสรุปตามแนวทาง “สาวมั่น คิดดี ทำดี” ว่า มีคนพร้อมจะเทกระจาดหุ้นเมื่อยกตัวสูงขึ้นเจ้าค่ะ

*ถามว่าเรื่องดังกล่าวจะดีอย่างไร? “โมนิก้า” ขอตอบว่า ทำให้การทะยานขึ้นในรอบถัดไปมั่นคงกว่าเดิม หรือพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ “สะเด็ดน้ำ” และอย่าได้กังวลการเทขายหุ้นจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากดัชนีเดินหน้าสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะสิ่งที่เห็นมาตลอดก็คือ ปีนี้ตลาดหุ้นไทยโดนจัดหนักเป็นประจำอยู่แล้ว เดี๊ยนถึงเฉย ๆ กับการโดนกดหนัก ๆ แบบไม่ทันตั้งตัวทำอะไรพะยะค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” วิเคราะห์การเคลื่อนตัวของดัชนีมีความเป็นไปได้ทั้งรูป V-shape รูป W-shape หรือรูป M-shape จึงต้องการให้นักลงทุนทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง (อยากให้นักลงทุนคิดเป็น เพราะเป็นเรื่องเก่าที่ชอบพูดถึงเป็นประจำเมื่อดัชนีเริ่มลงหนัก) และสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังจากนี้ก็คือ “มูลค่าการซื้อขายจะเริ่มกระจุกตัว” และบรรยากาศการลงทุนจะผันผวนมากขึ้นนะจะบอกให้

*งานนี้ไม่มีใครทำอะไรได้ทั้งนั้น!!..ยกเว้นนักลงทุนรายย่อยจะช่วยกันรับของดี และหาจังหวะซื้อเพิ่มเป็นระยะ เพราะแหล่งข่าวของสายสืบสองสลึงยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าข้อมูลในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมายืนยันตรงกันว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่ดัชนีย่ำฐาน (ขึ้นแล้วลง กลับมาที่เดิม) พอก้าวเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ต่อเนื่องเดือนธันวาคม ดัชนีมักเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นเป็นประจำ จึงแจ้งมาให้ทราบกันโดยทั่วไปนะคะ

*สำหรับในรายของหุ้นร้อน PTTGC “โมนิก้า” วิเคราะห์จากความเป็นจริง สถานการณ์จริง และนักลงทุนตัวจริงก็พบว่า หมดเสน่ห์มานานแล้ว แถมราคาหุ้นปรับตัวลงเยอะ (ต่ำกว่าบุ๊ก 64 บาท) หากราคาหุ้นยังอ่อนตัวลงมาอีกเรื่อย ๆ ก็สมควรที่ช้อนซื้อเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะยาว..ที่สำคัญต้องจำไว้ว่า “พื้นฐานตอนนี้อาจดูไม่ดี แต่ในอนาคตน่าจะดีขึ้น” เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 49 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 838 ล้านบาท น่าทยอยเก็บเข้าพอร์ตไงล่ะคะ

*ส่วนดาวเด่นดาวดังอย่าง DOHOME ก็กลายเป็นหุ้นที่พวกขาใหญ่จับตาดูมากสุด ณ เวลานี้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแบบเว่อร์ ๆ จึงต้องติดตามข้อมูลการเคาะซื้อแต่ละไม้เป็นธรรมชาติแค่ไหน? และเผอิญเดี๊ยนไปได้ยินข่าวดังกล่าวเต็มสองรูหูพอดี ก็เลยรีบคาบข่าวดังกล่าวมาบอกตั้งแต่เนิ่น ๆ บวกกับเมื่อวันศุกร์หุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 12.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 442 ล้านบาท ชักเริ่มไม่เข้าท่าแล้วนะคะ

*ร้อนแรง แรงร้อน ต้องยกให้หุ้นน้องใหม่ RBF ว่ากันว่าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องดิสรัปชั่น จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะข่าวเม้าท์ที่พูดกันหนาหูบอกว่า กำไรจะเติบโตอย่างโดดเด่น แต่เผอิญเมื่อวันศุกร์บรรยากาศไม่เป็นใจ หุ้นถึงร่วงลงมาปิดที่ 4.04 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 พันล้านบาท “โมนิก้า” เลยเชื่อว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีช็อตแก้มือให้เห็นเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษก็คือ IVL ก่อนหน้านี้หลายคนสงสัยถึงแผนการทำกำไรอย่างยั่งยืน แต่หลายคนไม่เชื่อจะทำได้จริง จึงเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ พากันเทขายหุ้นออกมาอุตลุด ล่าสุดดูเหมือนว่า ท่าทีดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางที่แย่ลง ราคาหุ้นถึงอ่อนตัวลงมาปิดที่ 25.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท ต่ำเกินไปหรือยัง? คิดกันเอาเองเจ้าค่ะ

*อีกรายที่น่าจับตาดูก็คือ CENTEL มีเสียงร่ำลือหนาหูมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับพวกกองทุนเลิกสนใจมาระยะหนึ่ง แต่เดี๊ยนไม่ปักใจเชื่อตามกระแสข่าวที่ออกมา จนล่าสุดเห็นราคาหุ้นลงมาปิดที่ 27.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 350 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปี 8 เดือน มันทำให้ “โมนิก้า” เริ่มเกิดอาการคล้อยตามกระแสข่าวอย่างรวดเร็วแบบนี้ คงแนะนำให้แฟนคลับอยู่เฉย ๆ น่าจะปลอดภัยสุดนะตัวเอง