พาราสาวะถี
ดาหน้าออกมาปฏิเสธกันเป็นแถวไล่ตั้งแต่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปจนถึงบรรดากระบอกเสียงของพรรคการเมืองซีกรัฐบาล ยืนยันการตัดสิทธิจีเอสพีของสหรัฐอเมริกากับสินค้าเกือบ 600 รายการของไทย ไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษอันตรายในภาคการเกษตร ขณะที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอ้างว่ารู้ตัวมานานแล้วว่าต้นตอปัญหามาจากเรื่องแรงงาน โดยที่รัฐบาลได้พยายามทำให้ถูกต้องมาโดยตลอด แต่ก็ยอมรับสภาพหากไม่เป็นที่พอใจเอกชนต้องรับมือกันเองและพร้อมจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
อรชุน
ดาหน้าออกมาปฏิเสธกันเป็นแถวไล่ตั้งแต่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปจนถึงบรรดากระบอกเสียงของพรรคการเมืองซีกรัฐบาล ยืนยันการตัดสิทธิจีเอสพีของสหรัฐอเมริกากับสินค้าเกือบ 600 รายการของไทย ไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษอันตรายในภาคการเกษตร ขณะที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอ้างว่ารู้ตัวมานานแล้วว่าต้นตอปัญหามาจากเรื่องแรงงาน โดยที่รัฐบาลได้พยายามทำให้ถูกต้องมาโดยตลอด แต่ก็ยอมรับสภาพหากไม่เป็นที่พอใจเอกชนต้องรับมือกันเองและพร้อมจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
เป็นการพูดบนโลกแห่งความเป็นจริง แต่สิ่งที่ท่านผู้นำบอกมาอีกเรื่องเกี่ยวกับกรณีนี้ที่ว่า เหตุที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพีเป็นเพราะเห็นว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น โดยพิจารณาจากรายได้ต่อหัวของประชากรสูงขึ้นใช่หรือไม่ ถ้าคิดเช่นนั้นจริงนี่ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับคนไทยโดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ดีกินดี ไม่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจพยายามทำไอโอแต่อย่างใด
พอมีประเด็นตรงนี้ ก็ทำให้นึกถึงข้อความของ ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ระบุว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤตอย่างยิ่ง ที่เห็นเด่นชัดเป็นรูปธรรมคือ สภาพที่ประชาชนไม่มีเงินใช้สอย โรงงานต่าง ๆ ทยอยปิดตัวไม่เว้นแต่ละวัน ผู้คนฆ่าตัวตายอย่างต่อเนื่อง นี่คือความจริงที่ไอโอก็ปกปิดไม่ได้ ที่อันตรายที่สุดก็คือคนใช้ปฏิบัติการณ์ข่าวสารจะหลงเชื่อสิ่งที่ไอโอสร้างขึ้นซึ่งเป็นเพียงมายาภาพ
ความจริงกรณีนี้ก็ต้องมองย้อนกลับไปตั้งแต่การสร้างวิกฤตเทียม เพื่อโบกมือดักกวักมือเรียกเผด็จการออกมายึดอำนาจแล้ว มีการพูดเรื่องโกหกจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง พอมามีอำนาจ นั่งอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่สำคัญ เลยพาลคิดไปว่าสิ่งที่สมัครพรรคพวกตัวเองสร้างมายาภาพขึ้นมาในอดีตนั้น เป็นเรื่องจริงเลยอินจัด ประเด็นดังกล่าวนี้ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าท่านผู้นำไปมองจากมุมไหนจึงกล้าพูดว่าสหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพีเพราะเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือน เพิ่งยอมรับสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต่อให้ผู้นำสิงคโปร์ประเทศที่พัฒนาแล้วมาแก้ไขก็ทำไม่ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งความย้อนแย้งในตัวของผู้นำเผด็จการรายนี้ที่ก็มีมาตลอดการบริหารประเทศกว่า 5 ปีที่ผ่านมา หรือว่าช่วงนี้ฟังการรายงานจากทีมเศรษฐกิจของพรรคสืบทอดอำนาจบ่อย โดยเฉพาะโครงการชิมช้อปใช้ เลยฝันหวานว่ามาตรการที่ได้ดำเนินไปนั้นประสบความสำเร็จ และทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากกันได้แล้ว
คงต้องฝากให้ทีมงานใกล้ชิดไปกระตุกต่อมความฝันของท่านผู้นำเสียหน่อย ลองหันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริงที่แท้จริง ปมสหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพีนั้น ปล่อยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการในการแก้ไขสถานการณ์ โดยฝ่ายบริหารทำหน้าที่ผู้ประสานและหาเวทีเพื่อทำความเข้าใจ ชี้แจงต่อพี่เบิ้มของโลกน่าจะดีกว่า เช่นเดียวกับ การคิดหาหนทางหรือสรุปผลกระทบร่วมกับภาคเอกชน เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมอันจะสะเทือนถึงตัวเลขจีพีดีปีนี้ที่รัฐบาลพยายามจะปั้นให้สวยหรูอยู่
จะว่าไปแล้ว การตัดสิทธิจีเอสพีนั้นสหรัฐฯ จะดำเนินการต้องรอเวลาอีก 6 เดือน ดังนั้น เวลานี้จึงไม่น่าจะมีผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ตัวเลขต่าง ๆ ที่ออกมาโดยเฉพาะภาคส่งออกหากยังคงหดตัวต่อเนื่องก็ต้องหันกลับมาดูว่าเกิดจากอะไรเป็นสำคัญ ที่นักวิชาการและนักธุรกิจมองตรงกัน โดยที่ไม่รู้ว่าภาครัฐเห็นและมีมาตรการอย่างใดหรือไม่คือ เงินบาทที่แข็งโป๊ก หากยังเห็นว่าต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกอีกระยะ ก็ไม่รู้ว่าผู้ประกอบการทั้งหลายจะสามารถยืนระยะกับเวลาที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นั้นได้หรือไม่
หันกลับมามองภาคการเมือง ฝ่ายตรงข้ามอาจมองว่าช่วงนี้เป็นกระแสขาลงของพรรคอนาคตใหม่ เพราะล่าสุด อดีตผู้สมัครส.ส.และสมาชิกพรรคกว่า 100 ชีวิต ก็ไปยื่นใบลาออกจากความเป็นสมาชิกที่สำนักงานกกต. โดยให้เหตุผลว่าอุดมการณ์ของพรรคเปลี่ยนไป ฟาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้อินังขังขอบต่อเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมองว่านี่เป็นเรื่องปกติทางการเมือง โดยเฉพาะกับพรรคที่พรรคมีอายุการทำงานได้ 1 ปี 6 เดือน
เป็นเรื่องธรรมดาที่ทีมผู้บริหารของพรรคกับสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ยังไม่สามารถปรับจูนทิศทางและทำความเข้าใจกันได้ครบ แต่สิ่งที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่มาแรงข้องใจคือ พรรคการเมืองอื่นมีเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคอยู่เหมือนกัน พอพรรคอนาคตใหม่มีปัญหาภายในก็ถูกนำมาโจมตี ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต จึงขอให้มองสถานการณ์การเมืองอย่างเป็นธรรมด้วย ซึ่งจะว่าไปหากมองอีกมุมการถูกตีมาก ๆ ก็น่าจะผลดีต่อพรรคและธนาธรไม่ควรหงุดหงิด
เพราะนี่เป็นภาพสะท้อนว่า พรรคการเมืองแห่งนี้มีความสำคัญ พรรคการเมืองแห่งนี้เป็นที่สนใจของคนทั่วไปทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู หากยังคงยึดมั่นในแนวทางที่วางไว้อย่างแน่วแน่ ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อกระแสที่ถูกปั่นถาโถมเข้าใส่ อย่างที่ธนาธรว่า มีคนลาออกไปก็ยังมีคนใหม่ที่ต้องการจะเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก หนทางทางการเมืองนั้นทุกครั้งต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะการอยู่มานานหรือไม่ไม่ใช่คำตอบที่ประชาชนต้องการ
มิเช่นนั้น บางพรรคการเมืองที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศคงไม่ล้มลุกคลุกคลานมาจนถึงทุกวันนี้ พ่ายแพ้พรรคคู่กัดมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ในจังหวะที่คิดว่าคู่แข่งถูกจับมัดมือมัดเท้าแล้ว ตัวเองน่าจะช่วงชิงความได้เปรียบ ก็กลับถูกพวกเดียวกันหักหลังไปตั้งพรรคแข่ง มิหนำซ้ำ ยังดูดคนของตัวเองและฐานเสียงไปอีกต่างหาก นี่คือตัวอย่างการเมืองเป็นเรื่องของความตั้งใจ การสร้างผลงาน ที่สำคัญคือต้องเคารพในเสียงของประชาชน
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ด้วยอานุภาพแห่งพลังดูด เป้าส.ส.ของพรรคสืบทอดอำนาจไม่ได้อยู่ในจำนวนที่มีอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าจะเพียบพร้อมไปด้วยความได้เปรียบสารพัด แต่การเมืองที่ไม่สามารถไปจับมือประชาชนให้กาเลือกใครก็ได้ ก็ได้ให้บทเรียนว่าอย่ามาดูถูกประชาชน ดังนั้น ธนาธรและชาวสมาชิกอนาคตใหม่ก็เช่นกัน ต้องเรียนรู้และสรุปบทเรียนว่าพอใจกับสิ่งที่ได้มาเท่านี้ จบแค่นี้หรือจะยืนหยัดสู้ต่อไปบนแรงเสียดทานขนาดมหึมาที่ถาโถมเข้าใส่ทุกทิศทุกทาง