PTG ปรับพอร์ตอาหาร
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จัดเป็นหุ้นพิมพ์นิยมอีกหนึ่งตัว ที่ครองใจนักลงทุนรายย่อยที่ชื่นชอบการเก็งกำไร...
สำนักข่าวรัชดา
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จัดเป็นหุ้นพิมพ์นิยมอีกหนึ่งตัว ที่ครองใจนักลงทุนรายย่อยที่ชื่นชอบการเก็งกำไร…
ทำให้ราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาขึ้น-ลงค่อนข้างหวือหวา เมื่อเทียบกับหุ้นน้ำมันตัวอื่น
ขณะที่ผลประกอบการช่วงที่ผ่านมา ถือว่ายังเติบโตในระดับที่ดี
ปี 2558 มีรายได้รวม 53,839 ล้านบาท กำไรสุทธิ 650 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 64,926 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,073 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 84,904 ล้านบาท กำไรสุทธิ 913 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 108,142 ล้านบาท กำไรสุทธิ 624 ล้านบาท และงวดครึ่งปี 62 มีรายได้รวม 60,623 ล้านบาท กำไรสุทธิ 947 ล้านบาท
แต่น่าเสียดายที่อัตรากำไรสุทธิน้อยไปหน่อย…โดยปี 2558 อัตรากำไรสุทธิ 1.21% ปี 2559 อัตรากำไรสุทธิ 1.65% ปี 2560 อัตรากำไรสุทธิ 1.08% ปี 2561 อัตรากำไรสุทธิ 0.58% และงวดครึ่งปี 2562 อัตรากำไรสุทธิ 1.56%
อาจเป็นเพราะ PTG ยังมีภาระต้นทุนค่อนข้างสูง
ทั้งต้นทุนจากการไปซื้อกิจการอื่นมา และต้นทุนที่ต้องไปลงทุนเพิ่มในแบรนด์ต่าง ๆ
ทำให้เป็นตัวกดดันกำไร…ซึ่งถ้าปลดเปลื้องภาระตรงนี้ได้เมื่อไหร่ คงเห็น PTG เติบโตก้าวกระโดด
ขณะที่ช่วงระยะหลังมานี้ จะเห็นว่า PTG หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจ Non-oil มากขึ้น
สาเหตุอาจเกิดจากธุรกิจการขายน้ำมันผ่านปั๊ม PT ซึ่งสิ้นปีนี้ตั้งเป้าจะขยายให้แตะ 2,000 สาขา ใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว และคาดว่าคงขยายได้ไม่มากไปกว่านี้
โจทย์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มปั๊ม PT จึงต้องหันมาเพิ่มไลน์อาหาร เครื่องดื่ม ศูนย์ล้างรถ และอื่น ๆ แทน
ทำให้ปัจจุบันในปั๊ม PT จะเห็นบางสาขามีร้านกาแฟพันธุ์ไทย บางสาขามีร้านคอฟฟี่เวิลด์ มีร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร ร้านสะดวกซื้อ Max Mart ศูนย์ซ่อมแซม Autobacs เป็นต้น
ขณะที่พัฒนาการล่าสุดของ PTG คือ ประกาศเข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท จิตรมาส แคเทอริ่ง จำกัด (JTC) ซึ่งทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ในนามบริษัทลูกอย่างบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด (PUN)
เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการบริหารจัดการเบ็ดเสร็จ และเกิดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ
ถือเป็นการปรับพอร์ตธุรกิจอาหารของ PTG…
อีกมุมหนึ่งก็ตอกย้ำว่า PTG กำลังเดินเกมรุกธุรกิจ Non-oil เต็มสูบ..!
ซึ่งไม่แน่ในอนาคตอาจขยับไปลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มเติม…
จึงน่าจับตาว่า ต่อไปธุรกิจ Non-oil จะเข้ามามีบทบาทต่อโครงสร้างรายได้ของ PTG อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนก่อนหน้านี้ที่เห็นราคาหุ้นปรับลดลง เกิดจากนักลงทุนกังวลว่า งบไตรมาส 3/62 จะออกมาไม่ดี เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ
แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า PTG จะทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 47% จากไตรมาสก่อน และจะกลับมาเติบโตสูงอีกครั้งในไตรมาส 4/62
จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท
ก็ยังมีอัพไซด์ให้เล่นอีกเพียบ…
ส่วนใครที่ขายหุ้น PTG ช่วงที่ผ่านมา อาจต้องทำใจที่ตัวเองเผลอขายหมูไป…
…อิ อิ อิ…