เรือล่มในหนอง BTS
ปรากฏการณ์ “เรือล่มในหนอง” เริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากดีลครอบครัวเดียวกัน ระหว่างบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB กับบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โดยทั้ง 2 บริษัทมีบริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน) หรือ VGI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดย VGI ถือหุ้น MACO สัดส่วน 33.17% และถือหุ้น PLANB สัดส่วน 18.80% ขณะปลายยอดพีระมิด VGI มีกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือหุ้น 66%
พลวัตปี 2019 : สุภชัย ปกป้อง
ปรากฏการณ์ “เรือล่มในหนอง” เริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากดีลครอบครัวเดียวกัน ระหว่างบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB กับบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โดยทั้ง 2 บริษัทมีบริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน) หรือ VGI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดย VGI ถือหุ้น MACO สัดส่วน 33.17% และถือหุ้น PLANB สัดส่วน 18.80% ขณะปลายยอดพีระมิด VGI มีกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือหุ้น 66%
ดีลผสานผลประโยชน์ (Synergy) ระหว่าง PLANB-MACO เริ่มต้นจาก PLANB เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน MACO มูลค่า 1,553 ล้านบาท กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 19.96% ส่วน MACO นำเงินจากการเพิ่มทุนไปซื้อหุ้นบริษัท ฮัลโล บางกอก แอลอีดี จำกัด (Hello LED) จากผู้ถือหุ้นเดิมคือบริษัท วิน ฮาร์เวส อินเตอร์แนชชั่นแนล ลิมิเต็ด จำกัด สัดส่วน 50% มูลค่ารวม 1,950 ล้านบาท ที่ว่ากันว่า..บริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทในเครือเดียวกับ PLANB นั่นเอง..!???
โดย Hello LED ทำธุรกิจให้บริการโครงสร้างสื่อโฆษณาบิลบอร์ด (Static Billboard) และสื่อโฆษณาประเภทดิจิทัล (Digital LED) มากกว่า 200 ป้ายต่อหน้าจอ
จากดีลดังกล่าวทำให้ PLANB กลายเป็นผู้ได้รับสิทธิการบริหารจัดการสื่อโฆษณาภายในประเทศทั้งหมดของ MACO ทั้งป้ายโฆษณาขนาดใหญ่, เครือข่ายสตรีตเฟอร์นิเจอร์และจอโฆษณาดิจิทัล กว่า 2,000 แห่ง พร้อมรับประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้ MACO ปีละ 700 ล้านบาทและรับส่วนแบ่งรายได้ 15% ของยอดขาย หากรวมกับเครือข่ายสื่อโฆษณาฯของ PLANB ส่งผลให้กำลังผลิตสื่อโฆษณาพร้อมให้บริการช่วงปี 2563 เพิ่มกว่า 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 7,000 ล้านบาท
ส่วน MACO จะได้สิทธิก่อสร้างและเป็นเจ้าของสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย เฉพาะประเภทบิลบอร์ด (Static Billboard) และสื่อโฆษณาบริเวณตอม่อ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และสื่อโฆษณาแบบ Flyovers ในประเทศไทยก่อน โดย PLANB เป็นผู้บริหารจัดการและขายสื่อโฆษณาบนสื่อดังกล่าวและชำระค่าตอบแทนจากสื่อโฆษณาดังกล่าวให้แก่ MACO ตามที่ได้ตกลงกันไว้
การจัดวาง “วิศวกรรมทางธุรกิจ” ครั้งนี้ เบื้องต้นดูเหมือนว่า MACO จะสูญเสียสิทธิการบริหารจัดการสื่อโฆษณาในประเทศให้ PLANB ไป แต่คงไม่ต่างอะไรกับการโยกกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวาในกลุ่มเดียว เพราะดูจากห่วงโซ่การถือหุ้น เริ่มจาก Hello LED ส่งต่อไปที่ MACO และส่งต่อ PLANB อีกที
จากนั้นผลประโยชน์จะส่งต่อไปที่ VGI ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 บริษัท และสุดท้ายผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็คือกลุ่มบีทีเอส ในนามบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS
ถือเป็นการจัดวางห่วงโซ่ธุรกิจโฆษณาของมังกรคีรี (คีรี กาญจนพาสน์) อย่างน่าสนใจ หลังจากส่ง VGI เข้าไปเก็บเล็กผสมน้อยหุ้น MACO และ PLANB ช่วงหลายปีที่ผ่านมา
น่าจับตาอีก “2 ห่วงโซ่ธุรกิจ” คือห่วงโซ่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลัง BTS เข้าถือหุ้นโดยตรงในบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ประมาณ 10% (นี่ยังไม่รวมทางอ้อม) ที่อาจได้เห็นการปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เร็ว ๆ นี้
อีกห่วงโซ่คือ “ห่วงโซ่ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์” ที่ BTS เข้าถือหุ้นโดยตรงในบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ประมาณ 7% โดย “คีรี กาญจนพาสน์” ระบุชัดว่าเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่กำลังถูกเชื่อมเข้ากับธุรกิจสื่อในเครือบีทีเอสในเวลาอันนี้เช่นกัน
เมื่อ “เรือล่มในหนอง” แล้วทองจะไปไหน..ถ้าไม่ใช่ปลายห่วงโซ่อย่าง BTS นั่นเอง.!?