ขยะใต้พรม ?
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ดันไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในจังหวะที่กำลังเดินชมนกชมไม้อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ดันไปได้ยิน เสียงตุ๊กแก..อุ๊ย..เสียงจิ้งจก ร้องทักเป็นระยะว่า ดีลหลายดีลมีอะไรลึก ๆ ซ่อนใต้พรมเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นกลาง เพื่อเป็นการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในช่วงสิ้นปีไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ดันไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในจังหวะที่กำลังเดินชมนกชมไม้อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ดันไปได้ยิน เสียงตุ๊กแก..อุ๊ย..เสียงจิ้งจก ร้องทักเป็นระยะว่า ดีลหลายดีลมีอะไรลึก ๆ ซ่อนใต้พรมเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นกลาง เพื่อเป็นการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาในช่วงสิ้นปีไงล่ะคะ
*เหมือนกับประเด็นที่ “โมนิก้า” คอยพร่ำย้ำเตือนกับแฟนคลับเป็นประจำทุกครั้งว่า พฤติกรรมของพวกกองทุนตัวจี๊ดไม่เคยไว้ใจได้อย่างไร ? วันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิมทุกประการ พร้อมกันนั้นก็อยากให้เข้าใจเรื่องมันนี่เกมที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบ ล้วนมีข้อมูลเข้ามาสนับสนุนแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ต่อจากนั้นก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง เดี๊ยนถึงไม่ชอบหวังสูงเกินไป เพราะสุดท้ายมักเกิดอาการชีช้ำกะหล่ำปีเป็นประจำเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้เดี๊ยนรู้สึกเฉย ๆ เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,629.77 จุด ต่อจากนั้นโรยตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,617.72 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปปิดที่ 1,626.87 จุด บวกไป 4.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.91 หมื่นล้านบาท เพราะในมุมของความจริงไม่มีทางที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปท่ามกลาง P/E 18 เท่า และค่า P/BV 1.80 เท่า และประเด็นนี้ก็เคยเห็นกันมาแล้วในเที่ยวก่อน จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำตัวสะดีดสะดิ้งเมื่อเห็นหนังเรื่องเดิมมาฉายซ้ำหลายรอบนะคะ
*ประเด็นที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ “โมนิก้า” คงชี้เป้าไปที่ข่าวเม้าท์เกี่ยวกับสถานการณ์ของหุ้น MACO หลังมีแมงลือพูดกันให้แซ่ดว่า มันจบแล้วครับนาย! หลังดีลสวอปหุ้นกับ PLANB เพื่อเอา “ฮัลโล บางกอก” มาอยู่ในอาณัติทำให้สถานการณ์ของหุ้นตัวนี้ทรุดโทรมลงหนักกว่าเดิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ออกอาการหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว จนทำให้เกจิอาจารย์ดังแนะนำลูกศิษย์อย่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้พะยะค่ะ
*เรื่องของเรื่องเริ่มต้นจากราคาใช้สิทธิของวอร์แรนต์ MACO-W2 สูงลิบลิ่วถึงระดับ 2.10 บาท เมื่อบวกกับวอร์แรนต์ในกระดานมีราคาแถว ๆ 0.16-0.17 บาท ก็จะทำให้ต้นทุนของหุ้นพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 2.26 บาท ส่งผลให้พวกขาลุยเกิดอาการฝ่อขึ้นมาในทันที หลังราคาหุ้นตัวแม่ยืนอยู่แค่ระดับ 1.23 บาท (ขาดทุนตั้งแต่อยู่ในมุ้ง) แถมเมื่อมองในมุมของตัวเลขการแปลงสิทธิบรรทัดต่อบรรทัด มันไม่มีมุมที่เป็นประโยชน์กับนักเล่นเลยพับผ่าซิ!
*นอกจากนี้เมื่อดูจากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่เข้ามาอีก 1 พันล้านหุ้น ก็เหมือนกับหุ้นต้องเผชิญกับไดลูชั่นเอฟเฟกต์ครั้งใหญ่เช่นกัน ผนวกกับสมาคมแมงลือเม้าท์มอยถึงเรื่องขายโฆษณาที่มัดรวมกันเป็นแพ็กใหญ่ อาจได้ในแง่ของจำนวนวอลุ่มจอโฆษณาที่ลูกค้าได้มากขึ้น แต่ในมุมของราคาขายน่าจะเสมอตัวมากกว่า เรื่องนี้เลยกลายเป็นว่า 1+1 = 1 ทั้งที่ควรจะออกมาในรูป 1+1 = 3 เขาเม้าท์กันไว้แบบนี้..คุณพี่คีรี เคยได้ยินบ้างไหมจ๊ะ
*สถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้พวกขาเผือกเม้าท์มอยไปถึงขาใหญ่ เฮีย น. เข้ามาตะลุยเก็บหุ้นตัวนี้จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ต้น ๆ ตอนนี้คงเกิดอาการจุกอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีต้นทุนในการเข้ามาเล่นค่อนข้างสูง และเมื่อดูจากประวัติเก่า ๆ ที่เคยมีเสียงร่ำลือกันอย่างหนาหูว่า ขบเหลี่ยม..ปีนเกลียว มาตั้งแต่สมัยหุ้นโรงไฟฟ้าฉาว จนเลิกสังฆกรรมทุกอย่างร่วมกัน (ไม่รู้ตอนนี้ดีกันยัง) มันเป็นเรื่องที่ทำให้แมงเม่าหูผึ่งขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวยังมีเสียงเม้าท์มอยถึงอาการผิดหวังเรื่องรถไฟเชื่อม 3 สนามบินของหัวเรือใหญ่ เฮีย ค. ยังคุกรุ่นตลอดเวลา หลังขาเผือกดันไปสืบทราบเรื่องราวเบี้ยบ้ายรายทางจากไหนก็ไม่รู้ ? ต่อจากนั้นนำมาเล่าสู่กันฟังอย่างสนุกสนาน “โมนิก้า” ในฐานะคนที่เข้าไปอยู่ในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงนำมาบอกเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับแฟนคลับ..ส่วนเรื่องไหนมีมูล หรือไม่มีมูล ก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัวกันด้วยนะคะ
*เหมือนกับเหตุการณ์จับลิขสิทธิ์ที่มีการพาดพิงบริษัท TACC เป็นคนสั่งการให้ดำเนินการกับคนละเมิดลิขสิทธิ์ “ริลัคคุมะ” แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น เอาเข้าจริงบริษัทก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว จนต้องร่อนหนังสือชี้แจงออกมาเป็นทางการ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใช้วิจารณญาณรับฟังเรื่องราวดังกล่าวอย่างมีสติ และหากต้องการรู้รายละเอียดที่ลึกกว่า ขอแนะนำให้มางานสัมมนาของ นสพ.ข่าวหุ้นเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีการอธิบายเหตุผลที่ทำให้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 5.50 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 8.9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาทด้วยนะจ๊ะ