งบไม่สวย!

*ข้อมูลที่ “โมนิก้า” นำมาใช้เป็นประจำทุกครั้งในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบออกมาเรื่อย ๆ ล้วนพุ่งเป้าไปยังเรื่องกำไรที่โชว์ล่าสุดเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ไหม ? หรือแม้กระทั่งผลขาดทุนที่ออกมาสะท้อนถึงจุดต่ำสุดของการทำธุรกิจแล้วใช่ไหม ? ซึ่งเป็นตัวแปรที่บอกให้รู้ว่า ราคาหุ้นควรอยู่บริเวณไหน ? และตลาดหุ้นไทยพร้อมจะเดินหน้าขนาดไหน ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจกิมมิกตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ข้อมูลที่ “โมนิก้า” นำมาใช้เป็นประจำทุกครั้งในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบออกมาเรื่อย ๆ ล้วนพุ่งเป้าไปยังเรื่องกำไรที่โชว์ล่าสุดเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ไหม ? หรือแม้กระทั่งผลขาดทุนที่ออกมาสะท้อนถึงจุดต่ำสุดของการทำธุรกิจแล้วใช่ไหม ? ซึ่งเป็นตัวแปรที่บอกให้รู้ว่า ราคาหุ้นควรอยู่บริเวณไหน ? และตลาดหุ้นไทยพร้อมจะเดินหน้าขนาดไหน ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจกิมมิกตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับเรื่องการเข้าซื้อของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ เพราะฝ่ายที่มองตัวเลขเป็นธงนำในการเก็บหุ้น ก็คงไม่กล้าทุ่มซื้อหุ้นแบบสุดซอยเหมือนเมื่อก่อน ส่วนฝ่ายที่เข้ามาล่นหุ้นตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ยังยึดหลักเข้าทำสั้น ๆ เพื่อความคล่องตัวของพอร์ต “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,650 จุดแบบชิว ๆ นะคะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงมองการแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,623.99 จุด ลบไป 2.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.21 หมื่นล้านบาท คงเป็นผลมาจากความไม่ชัดเจนของผลงานที่หุ้นแต่ละตัวทำได้ “โมนิก้า” ถึงมองการฝืนขึ้นของหุ้นบางตัวที่เกิดขึ้นในเวลานี้ น่าจะเป็นเพียงการดันไปออกของเหมือนที่เคยเห็นกันมาหลายรอบ จึงขอเตือนอีกครั้งว่า อย่าหลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาดเจ้าค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้น 5 วันติดของแบงก์สีเขียว KBANK ถือเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก ๆ ในสายตาคนข้างนอกมองเข้ามาข้างใน เพราะตามรูปการณ์ยังไม่ใช่เวลาสวนกระแส “โมนิก้า” ถึงไม่สามารถอธิบายการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 48 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.34 พันล้านบาท เกิดจากปัจจัยไหนกันแน่ ? ยิ่งพิจารณาจากกนง.มีมติลดดอกเบี้ย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

*ขนาดหุ้นไฟฟ้าแรงสูงอย่าง GPSC ยังม่อยกระรอกไม่เป็นท่า และถูกรินหุ้นออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายลงมานอนกองอยู่ที่ 81.75 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาท “โมนิก้า” เข้าใจว่าผลงานไม่ปังเหมือนที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้กองทุนตัวจี๊ดพากันเทขายหุ้นเพื่อชิ่งหนีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ภาพของหุ้นถึงดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่พะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีอาการทรุดหนักขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องมองไปที่หุ้น THANI เพื่อชี้ให้เห็น “ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน พอยามชังน้ำตาลยังว่าขม” เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองการอ่อนตัวลงจากยอดเก่าที่บริเวณ 7.50 บาทลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 5.95 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 198 ล้านบาท มันใช่สถานการณ์ปกติอย่างที่ควรจะเป็นอ๊ะป่าว (กำไรไม่โตเหมือนที่หวัง) นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นปลากระป๋อง TU ถูกเทขายรอบแล้วรอบเล่าตลอดเวลา จนมองไม่เห็นหนทางฟื้นตัวอย่างบูรณาการ เพราะผลงานในช่วงหลังไม่เข้าเป้าเหมือนที่นักวิเคราะห์บางสำนักมองไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นเซถลาเป็นนกปีกหัก จนล่าสุดหุ้นยืนปิดที่ 14 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 233 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการแหยงสุด ๆ นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ GLOBAL ทำท่าทำทางเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามเป้า ? แต่เอาเข้าจริงกลับมีอาการทรง ๆ ไม่โดดเด่นฉายแสงเจิดจ้าเหมือนก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองราคาปิดที่ 14.90 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาท ท่ามกลางหุ้นอยู่ในทิศทางแกว่งตัวลง บวกกับหุ้นเทรดบนค่า P/E 33 เท่าแบบนี้..ขออยู่ห่าง ๆ ไว้ก่อนน่าจะดีที่สุดนะจ๊ะ

*อีกรายที่น่ากังวลสุด ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นโรงหมอ CHG หลังไล่ราคากันระเบิดเถิดเทิงอย่างไม่น่าเชื่อ แถมดูผลงานที่ทำได้ในเที่ยวนี้ ก็เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.52 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 50 เท่า มันไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะเข้าไปสวนกระแสเลยจริง ๆ ยกเว้นเที่ยวนี้คันไม้คันมือสุด ๆ จะลองวัดดูสักตั้งก็ได้นะคะ

Back to top button