สงครามการค้ายุติ ?
*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับการเด้งขึ้นของดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,640.88 จุด บวกไป 16.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.91 หมื่นล้านบาท มันเกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น หรือเกิดจากเรื่องจิตวิทยาในการลงทุนกันแน่! เพราะเมื่อเหลือบดูตัวแปรต่าง ๆ ที่ปรากฏให้เห็นเต็มสองลูกตา มันไม่มีเรื่องไหนเลยที่ทำให้เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะแรลลี่ยาว และวิ่งเกินกรอบ 1,650 จุด นะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับการเด้งขึ้นของดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,640.88 จุด บวกไป 16.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.91 หมื่นล้านบาท มันเกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น หรือเกิดจากเรื่องจิตวิทยาในการลงทุนกันแน่! เพราะเมื่อเหลือบดูตัวแปรต่าง ๆ ที่ปรากฏให้เห็นเต็มสองลูกตา มันไม่มีเรื่องไหนเลยที่ทำให้เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะแรลลี่ยาว และวิ่งเกินกรอบ 1,650 จุด นะจะบอกให้
*รวมทั้งกระแสข่าวที่ว่า “พญาอินทรี” กับ “พญามังกร” เห็นพ้องในเรื่องยกเว้นภาษีสินค้าบางรายการ จนทำให้ทุกคนมองเรื่องสงครามการค้ากำลังจะจบลงอย่างชื่นมื่นนั้น มันเป็นเพียงแค่ “ความเชื่อ” หรือ “ความจริง” กันแน่! เพราะเดี๊ยนได้ยินข่าวทำนองนี้มาเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายไม่เห็นเป็นโล้เป็นพายสักที จึงมองการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ไม่แตกต่างจากเที่ยวก่อน ๆ ไงล่ะคะ
*งานนี้ถึงขึ้นอยู่กับแรงซื้อของกองทุนตัวจี๊ดจะต่อเนื่องขนาดไหน ? เพราะเป็นตัวแปรหลักที่บอกให้รู้ว่า ดัชนีจะฝ่าด่านหินขึ้นไปอย่างสวยงามเพียงใด “โมนิก้า” ถึงอยากรู้เหลือเกินว่า พวกกองทุนกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ ? ถึงพยายามฝืนธรรมชาติตลาดหุ้นไทยตลอดเวลา จนสุดท้ายมักลงเอยด้วยการเห็นดัชนีรูดลงหนักแบบไม่ทันตั้งตัวเป็นประจำ มันคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริงอ๊ะป่าว!
*เหมือนกับคนที่กระโจนเข้าใส่ AWC กันอย่างหนุบหนับ แต่สุดท้ายหุ้นยืนปิดเสมอตัวได้แค่ระดับ 6.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท “โมนิก้า” ขอถามหน่อยว่า คุ้มค่ากับการลงทุนจริงเหรอ ? เพราะมองในมุมของ growth ราคาหุ้นก็ขึ้นมารอเป็นชาติแล้ว แต่กำไรก็ยังไม่มาสักที รวมทั้งประเด็นกองทุนสนใจนักสนใจหนา วันนี้ไม่เห็นกองทุนไหนพูดถึงหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับอาการเครื่องอืดที่เกิดขึ้นกับ GPSC ล้วนเป็นผลมาจากผลงานไม่ปังเหมือนที่โม้กระมัง! บรรดานักเล่นถึงไม่ไล่ราคาแบบดุเดือดเผ็ดมันเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งมองในมุมของการเทรดหุ้นบนค่า P/E 67 เท่า ยิ่งทำให้คนที่จะเข้าไล่ราคาต้องคิดมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 82 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท เพราะมันไม่มีมุมที่จะเอามาเล่นต่อน่ะซี
*ตรงกันข้ามกับในรายของ PTTGC อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ถูกถล่มขายเป็นเวลานาน จนราคาหุ้นต่ำบุ๊ก 64 บาทมากเสียเหลือเกิน ผนวกกับบริษัทกำลังจะผ่านพ้นช่วงต่ำสุดของการทำธุรกิจ “โมนิก้า” ถึงเห็นด้วยกับการทะยานขึ้นมาปิดที่ 56.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.58 พันล้านบาท พร้อมกับเชื่อว่ายังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะจะบอกให้
*อีกรายที่น่าจับตาดูสุด ๆ “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปยังหุ้นประกันภัย TQM เป็นรายถัดไปในทันที หลังหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 52.50 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 213 ล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนปิดยอดเดิมเป็นครั้งที่สอง มันตีความได้ 2 แนวทางคือ “แตะแล้วลง” กับ “แตะแล้วขึ้น” จึงอยากให้แฟนคลับตามติดสถานการณ์ของหุ้นให้ดี ๆ เพราะเที่ยวนี้เขาเม้าท์ให้แซ่ดว่า กลุ่มอัลตร้า..เป็นคนดันหุ้นนะนายจ๋า!
*ส่วนรายที่เด้งรับสงครามการค้าใกล้ยุติอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นกวงเจริญ KCE เพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่า 17.10 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 250 ล้านบาทไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะมาพร้อมกับความเชื่อเกี่ยวกับยอดสั่งซื้อสินค้าจะเพิ่มขึ้น และกำไรจะกระเตื้องขึ้นกว่าเดิม บรรดาพรายกระซิบเลยเชื่อกันว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปสร้างฐานบริเวณ 25 บาทอีกรอบ (2 เท่าบุ๊ก)..จริงเท็จอย่างไร! เดี๋ยวรู้กันเจ้าค่ะ
*สำหรับรายที่ตั้งลำขึ้นรอบใหม่อย่าง PTG ยังเป็นทีเด็ดสำหรับคนที่เน้นเข้าทำเร็ว หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 19 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 256 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 20 บาทเป็นที่แรก ต่อจากนั้นจะวิ่งขึ้นไปแถว 22-23 บาทเป็นลำดับถัดไป “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับขาลุยเฝ้าติดตามดูหุ้นตัวนี้อย่างใกล้ชิดนะจะบอกให้
*ป.ล.วานนี้เป็นอีกครั้งที่กองทุนตัวแสบไล่ซื้อหุ้นไปทั้งสิ้น 3.35 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจไม่ใช่น้อยสำหรับการขึ้นเที่ยวนี้ แถมทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า บริเวณนี้เป็นจุดขายสำหรับนักเล่นกลุ่มดังกล่าว จึงต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์บางอย่างไว้ด้วยนะจ๊ะ