กลุ่มแบงก์ และ KTBลูบคมตลาดทุน
ฉบับก่อนหน้านี้เขียนเรื่อง Market Sentiment จะเป็นเชิงบวก หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ธนะขัย ณ นคร
ฉบับก่อนหน้านี้เขียนเรื่อง Market Sentiment จะเป็นเชิงบวก หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ประเด็นนี้บุคคลในวงการตลาดหุ้นต่างก็ยอมรับกันหลังไมค์ว่า จะดีขึ้นจริง ยิ่งโดยเฉพาะหากได้คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์เข้ามาคุมงานเศรษฐกิจ
บางคนบอกว่าเชื่อมั่นในตัวหม่อมอุ๋ย
แต่หม่อมอุ๋ย ก็อาจไม่เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้
เรื่องนี้ก็ว่ากันไปนั่นแหละ และต้องจับตากัน
เพราะอย่างวานนี้ ตลาดหุ้นก็เริ่มตอบรับกับข่าวการปรับครม.ไปบ้างแล้ว อาจได้ตื่นเต้นกับคนใหม่ นโยบายใหม่ หรือสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น
มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาด ดันดัชนีปิดบวกขึ้นมาได้นิดหน่อย
หันมาดูหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์กันบ้าง
วานนี้ แบงก์กรุงไทย หรือ KTB ดีดแรงมาก หลังแจ้งผลประกอบการออกมา มากกว่าที่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์กันไว้
กำไรสุทธิกว่า 8.44 ล้านบาท เพิ่ม 11-12% ถือว่าไม่ธรรมดา
นี่ขนาดในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาจะตั้งสำรองเผื่อฯ ไว้ก่อนหน้าถึง 3.7 พันล้านบาท
Coverage Ratio ดีขึ้น จาก 118% มาที่ราวๆ 125%
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมาจากระดับ 2.8% กว่าๆ มาที่ 2.9 กว่าๆ ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนบอกว่า “บวม” กว่าที่เก็งกันเอาไว้
ผมมีโอกาสได้คุยสั้นๆ กับคุณวรภัค ธันยาวงษ์ เอ็มดี KTB มาเล็กน้อย
ถามไปว่า แนวโน้มครึ่งปีหลังจะมีตั้งสำรองเผื่อฯ หรือ เอ็นพีแอลเป็นอย่างไร
คุณวรภัค ก็ตอบมาสั้นๆ ว่า แม้ผลประกอบการในครึ่งปีแรกดูแล้วจะพอใจ แต่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง และมีความไม่แน่นอน รวมถึงมีแรงกระเพื่อม
ก็น่าจะเป็นคำตอบที่แฝงนัยสำคัญไว้อยู่
บทวิเคราะห์ของโบรกฯ จำนวน 11 แห่ง พบว่า ต่างแนะนำให้ “ซื้อ” หุ้น KTB 7 แห่ง และ “ถือ” อีก 4 แห่ง
ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 20 บาท
จะว่าไปแล้ว ภาพรวมผลประกอบการกลุ่มธนาคารก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์มากเท่าไหร่นักหรอก
แบงก์บางแห่งกำไรวูบกว่าที่คิด
แต่บางแห่งก็ออกมาสวยหรูกว่าที่ประเมิน
สรุปภาพโดยรวมออกมาก็พอๆ กับที่ประเมินกันเอาไว้นั่นแหละ
ทว่า หากเรากลับมามองอีกด้าน คือ กำไรไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ของแบงก์พาณิชย์ 11 แห่ง รวมกันกว่า 5.15 หมื่นล้านบาท แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ของปี 2557 แต่ตัวเลขก็ยังอยู่ในระดับ 5 หมื่นล้านบาท
ยิ่งกำไรในช่วง 6 เดือนแรกอยู่ที่ 1.04 แสนล้านบาทก็ถือว่าน่าสนใจ
ภาวะเศรษฐกิจขาลงแบบนี้ แต่แบงก์พาณิชย์ของไทย ยังทำกำไรรวมกันได้ถึงกว่าแสนล้านบาท ก็ไม่ธรรมดานะ
เงินกองทุนส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับสูง และสูงกว่าเกณฑ์บาเซิล 3 (Basel III) เยอะ
Coverage Ratio แบงก์บางแห่งลดลงบ้าง แต่บางแห่งก็เพิ่มขึ้น เช่นในกลุ่มของแบงก์เช่าซื้อ ที่เป็นสัญญาณว่า อาจไม่ต้องตั้งสำรองเผื่อฯ พิเศษกันมโหฬารเหมือนก่อนหน้านี้กันแล้ว
หรือผ่านจุดต่ำสุดกันไปหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น TCAP–TISCO และ KKP
ก่อนหน้านี้โบรกฯ หลายแห่งต่างก็แนะนำว่า หากใครเป็นนักลงทุนระยะกลางถึงยาว ก็ให้เก็บหุ้นพวกเช่าซื้อเข้าพอร์ตซะ
ผ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่านักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นกับหุ้นกลุ่มธนาคารมากขึ้น
หากไตรมาส 3 และ 4 ยังตั้งการ์ดแน่น คุมโซนเอ็นพีแอลกันได้
หรือมีแผนรับมือกับเศรษฐกิจที่เปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอกาสที่ผลประกอบการจะออกมา แม้ว่าจะไม่ได้บวกมากอะไร แต่ก็ไม่น่าจะทรุดหรือเลวร้ายมากนัก
นายแบงก์ไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก เชื่อสิ