เคว้งคว้าง

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*คำเดียวสั้น ๆ แต่ได้ใจสุด ๆ “โมนิก้า” คงต้องพูดว่า “เคว้งคว้าง” เกินจะบรรยาย หลังตัวแปรที่จะทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นเป็นลำดับ มันหาไม่ได้เลยจริง ๆ จนทำให้นักเล่นทิ้งหุ้นอุตลุดตลอดทั้งวัน แต่โชคดีที่มีแรงช้อนเข้ามารับหุ้นเป็นระยะ ดัชนีเลยยืนปิดที่ระดับ 1,609.47 จุด ลบไป 5.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.88 หมื่นล้านบาท กลายเป็นช็อตของความเหี่ยวเฉาอย่างแท้จริงนะจะบอกให้

*จุดที่น่าสนใจคือ ดัชนีไม่สามารถตีกลับขึ้นไปยืนปิดบวกได้เหมือนที่คาดหวัง ย่อมเป็นแรงกดดันให้นักเล่นรอบเกิดอาการหวั่นใจขึ้นมาอีกครั้งว่า แนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,600 จุด จะเอาอยู่หรือเปล่า ? เพราะปัจจัยบวกต่าง ๆ ในห้วงเวลานี้เลื่อนลอยเหลือเกิน “โมนิก้า” เลยเกิดอาการแน่นอกทุกครั้งที่เห็นดัชนีโค้งตัวลงมาเรื่อย ๆ หลังมองไม่เห็นองค์ประกอบส่วนไหนจะเข้ามาช่วยดันหุ้นขึ้นไปรอบใหม่น่ะซี

*งานนี้หากจะเม้าท์กันตรง ๆ ว่า บูลลี่ตลาดหุ้นมากเกินไปหรือเปล่า ? ก็ขอเรียนตามตรงว่า เดี๊ยนพูดจากเหตุการณ์จริงที่เห็นตรงหน้า ไม่มีการออเซาะ บีบน้ำตา เพื่อให้คนมาเห็นใจ! ผนวกกับวานนี้เป็นอีกครั้งที่กองทุนตัวจี๊ดกระหน่ำขายหุ้น “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะอธิบายมุมดี ๆ ของตลาดหุ้นไทยอยู่ตรงไหน ? เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า มักโดนนักเล่นก๊วนนี้ “จัดเบา จัดหนัก” เป็นประจำนะจะบอกให้

*ขนาดพี่เบิ้มของตลาดหุ้นไทยอย่าง PTT ทำท่าจะฟื้นตัวหลายรอบด้วยกัน แต่สุดท้ายก็โดนกดลงมาทุกทีแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องน่าห็นใจอย่างมาก ๆ เพราะหัวเรือใหญ่ก็พยายามทำทุกวิถีทางให้กำไรออกมาปังทุกงวด แต่เผอิญปัจจัยหลายอย่างอยู่เหนือควบคุม เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 44.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท น่าจะเป็นจุดทยอยเก็บของใส่พอร์ต เพราะหุ้นเทรดบนค่าพี/อี 13 เท่าเองนะคะ

*อีกรายที่อยู่ในความสนใจของ “โมนิก้า” มากสุดคงอยู่ที่หุ้นนวัตกรรมอาหาร RBF หลังประกาศงบออกมาอย่างสวยหรู ทิศทางของหุ้นก็อยู่ในลักษณะ sideway up พร้อมกับมีแรงรับเข้ามาช้อนหุ้นเมื่อย่อตัวลงมาเป็นประจำ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 4.80 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 140 ล้านบาท ยังเป็นจังหวะของการเล่นแบบ follow buy ได้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JMT พอประกาศงบออกมาปังสุด ๆ แรงซื้อก็ไหลกลับเข้ามาอีกรอบ จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 21.80 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 338 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำอีกเช่นเคย เพราะสตอรี่ของหุ้นถูกวางให้มี growth ทุกไตรมาส จึงทำให้เชื่อว่าน่าจะเห็นราคาหุ้นขึ้นไปทำ high เรื่อย ๆ นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่เจ้ามือดันกลับมาเล่นใหม่อีกรอบอย่าง AWC กลายเป็นช็อตที่ทำให้พวกเดย์เทรดกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.70 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 763 ล้านบาท “โมนิก้า” ยังไม่รู้เลยว่า เอาสตอรี่อะไรมาปั่นกระแส ? เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า เสี่ยเขามาแบบเต็มแม็คทุกอย่าง จึงมองไม่เห็นรูมที่จะทำให้คนเล่นสบายใจเลยพับผ่าซิ!

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงเรื่องหนักใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองไปยังหุ้นน้องหน้ามน ACE ที่เพิ่งเข้าเทรดอย่างสวยงามไปเมื่อวานซืน จู่ ๆ วานนี้กลับโดนทิ้งอย่างหนักในช่วงภาคบ่าย จนราคาหุ้นหลุดไอพีโอ 4.40 บาท ก่อนจะไหลลงมาปิดที่ 4.28 บาท ลบไป 0.36 บาท หรือลงไป 7.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 994 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นช็อตของการขายลดความเสี่ยง จึงต้องดูว่าวันนี้จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันหุ้นไหม ?

*คล้ายกับกรณีของหุ้นน้องใหม่ BC ถูกเทขายตั้งแต่ pre open เลยทำให้สถานการณ์ของหุ้นดูย่ำแย่ลงไปในทันที บวกกับในช่วงเปิดเทรดไม่มีแรงซื้อเข้ามาพยุงหุ้น ทำให้ตลอดทั้งวันจมอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดที่ 2 บาท ลบไป 0.86 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 185 ล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า ทั้งหมดเป็นผลมาจากบรรยากาศตลาดหุ้นไม่เอื้อ และธุรกิจอสังหาฯ ไม่เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อน อะไรหลายอย่างเลยดูไม่ดีเอาเสียเลยนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JKN ถูกขายแบบไม่มีเยื่อใยให้กับสาวสวยอย่าง “น้องแอน” เอาเสียเลยแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินกว่าจะบรรยายได้หมดทุกบรรทัด เพราะการทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 4.44 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น แสดงว่าต้องมีอะไรรอปะทุอยู่แน่ ๆ พวกนกรู้ถึงทิ้งหุ้นกันจ้าละหวั่น..อิอิอิ