Saudi Aramco Effect.!

สำนักงานตลาดทุนซาอุดีอาระเบีย อนุมัติให้บริษัท Saudi Aramco ให้จำหน่ายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) มูลค่าประมาณ 60 ล้านล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมคาดการณ์ว่าบริษัทจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดี อาระเบีย ภายในเดือนธันวาคมปี 2562 โดยมีเป้าหมายนำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 3 ล้านล้านบาท ไปดำเนินโครงการพัฒนาประเทศครั้งใหม่และแก้ปัญหาการว่างงานที่มีอยู่สูงกว่า 10%


พลวัตปี 2019 : สุภชัย ปกป้อง

สำนักงานตลาดทุนซาอุดีอาระเบีย อนุมัติให้บริษัท Saudi Aramco ให้จำหน่ายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) มูลค่าประมาณ 60 ล้านล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมคาดการณ์ว่าบริษัทจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดี อาระเบีย ภายในเดือนธันวาคมปี 2562 โดยมีเป้าหมายนำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 3 ล้านล้านบาท ไปดำเนินโครงการพัฒนาประเทศครั้งใหม่และแก้ปัญหาการว่างงานที่มีอยู่สูงกว่า 10%

ถือเป็นทำลายสถิติหุ้นไอพีโอ ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก หลังจาก “อาลีบาบา” ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ประเทศจีน ทำสถิติไอพีโอสูงสุดเกือบ 800,000 ล้านบาท และเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปี 2557

ด้วยความเป็นอภิมหาหุ้นไอพีโอใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนโลก นั่นจึงทำให้ Morgan Stanley Capital International (MSCI) ประกาศว่าจะนำหุ้น Saudi Aramco เริ่มเข้ามาคำนวณดัชนี MSCI เป็นกรณีพิเศษวันที่ 17 ธ.ค. 62 หากเริ่มซื้อขายภายในวันที่ 12 ธ.ค. 62  แต่หากเริ่มซื้อขายหลังวันที่ 12 ธ.ค. 62 MSCI จะเลื่อนนำหุ้น Saudi Aramco เข้าคำณวณในดัชนีเป็นหลังวันที่ 5 ม.ค. 63

เป็นที่น่าจับตาว่าการขายหุ้นไอพีโอ Saudi Aramco ในฐานะบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ากิจการเกือบ 60 ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่าหลักทรัพย์รวมของตลาดหุ้นไทยกว่า 3 เท่าตัว และใหญ่กว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัทพลังงานแห่งชาติของไทยกว่า 40 เท่าตัวนั้น..จะมีผลเชิงลบ-เชิงบวกต่อหุ้นพลังงานมากน้อยเพียงใด..!!?

จึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังปรากฏการณ์แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อเตรียมปรับพอร์ต (Rebalance) หุ้นกลุ่มพลังงานของไทยที่อยู่ดัชนี MSCI ช่วงปลายเดือนนี้นั่นคือ..

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP,บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)หรือ IRPC

ปรากฏการณ์สอดรับประเด็นดังกล่าวคือนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา พบว่า ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ปรับขึ้นเฉลี่ยไม่ถึง 1% น้อยกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วค่อนข้างมาก เนื่องจากกองทุนต่างประเทศ อยู่ระหว่างการเตรียมเงินบางส่วนเพื่อการลงทุนหุ้นไอพีโอ Saudi Aramco และรับมือสัดส่วนดัชนี MSCI ที่จะเปลี่ยนไป

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย และพอทำให้เห็นภาพเกี่ยวกับเรื่องนี้..นั่นก็คือกรณีบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC หุ้นไอพีโอใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ที่เปิดขายหุ้นไอพีโอมูลค่า 185,742 ล้านบาท ช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้หุ้น AWC เข้าคำนวณใน SET50 ทันทีหลังเข้าเทรดวันแรก (10 ต.ค. 62)

ส่งผลให้บรรดากองทุนต่าง ๆ ต้องมีการปรับพอร์ต (Rebalance) หุ้นอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่คำนวณในดัชนี SET50 จนเกิดปรากฏการณ์เทขายหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เพื่อนำเงินไปลงทุนหุ้นไอพีโอ AWC จนเกิดแรงแพนิกหุ้นอสังหาริมทรัพย์ไทยมาแล้ว

ทว่า..ผลกระทบเชิงลบหรืออาฟเตอร์ช็อกจากหุ้น Saudi Aramco ที่มีผลต่อราคาหุ้นพลังงานไทย อาจไม่รุนแรงมากนัก ด้วยมูลค่าตลาด (Market Cap) ที่แตกต่างกันกว่า 40 เท่าตัว แต่ใน “เซนติเมนต์เชิงลบระยะสั้น” ถือเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้..!!!

Back to top button