1,600 จุด โลกสวย

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ทันทีที่ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้านทางจิตวิทยา 1,600 จุดขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,614.80 จุด บวกไป 17.08 จุด อย่างรวดเร็ว ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะหยิบฉวยอะไรก็ได้กำไรไปหมด จนชาวหุ้นเกิดความฮึกเหิมว่า เป้าหมายที่เคยตั้งกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1,700 จุด ไม่ไกลเกินเอื้อม ยิ่งมีเรื่องของ MSCI เข้ามาเกี่ยวข้อง ความคาดหวังเม็ดเงินต่างชาติจึงกลับมาอีกครั้ง ทำให้เชื่อว่าต่อจากนี้จะได้เห็นนักลงทุนหลายประเภทสามัคคีกันดันหุ้นให้อยู่ขาขึ้นไปอีกนาน

*ด้วยเหตุนี้ถึงมีความจำเป็นต้องถามถึงตัวแปรที่จะทำให้ดัชนีวิ่งแบบหูดับตับไหม้ เพราะแค่มองถึงองค์ประกอบเรื่องทางเทคนิคเท่านั้นไม่เพียงพอ จึงต้องเสริมด้วยความมั่นใจให้นักลงทุนพร้อมจะเข้าไปต่อยอดดัชนี เพื่อให้ขึ้นไปถึงจุดที่คาดหวังไว้ก่อนสิ้นปี 2562 ซึ่งเป็นแนวความคิดที่มีหลายองค์ประกอบสนับสนุนให้เป็นเช่นนั้นเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนอ่านเกมรอบนี้ให้ดี ๆ เจ้าค่ะ

*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะข้อมูลในอดีตฟ้องว่าเมื่อหุ้นไม่ทำผลตอบแทนได้เท่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ ในช่วงท้ายปีมักจะได้เห็น Window dressing เข้ามาไล่ซื้อหุ้นอีกครั้งเมื่อใกล้ปิดงวดไตรมาสเป็นประจำแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนกล้าได้กล้าเสียกันสักหน่อย เพราะตลาดหุ้นในช่วงขาขึ้นอะไรก็ดีไปหมดทุกอย่าง จึงอยากให้ทำตัวตามน้ำเหมือนพวกโลกสวยทำกันจะดีกว่าเจ้าค่ะ

*ประเด็นนี้เห็นได้ชัดจากในรายของ ERW หลายคนยังไม่กล้าเข้าไปยุ่งนักจึงยังเล่นกันแบบแทงกั๊ก เพราะถือเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับภาวะเศรษฐกิจ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น วานนี้เลยเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.59% มูลค่าการซื้อขาย 117.08 ล้านบาท “โมนิก้า” ฟันธงได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องฟลุกอย่างแน่นอน แต่เป็นเรื่องตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาฟื้นตัว หุ้นเลยวิ่งแบบไร้ขีดจำกัดเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ PORT ราคาพุ่งก่อนฤกษ์ดีย้ายเข้าเทรด SET ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.38 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 13.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.01 ล้านบาท ฟากนักวิเคราะห์หลายสถาบันต่างแนะนำ “เพิ่มน้ำหนักลงทุน” แถมตอกย้ำความมั่นใจด้วยการทยอยเข้าเก็บหุ้นของหัวเรือใหญ่ งานนี้เมื่อจังหวะได้หุ้นจะวิ่งไกลก็ไม่แปลกใช่ไหมเจ้าคะ ?

*ในรายของ HANA หลังจากผลงานไตรมาส 3 บอบช้ำ แต่ด้วยพื้นฐานที่ยังแข็งปั้ก! รวมถึงการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ราคาหุ้นวานนี้ไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 32.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 187.36 ล้านบาท ทุบสถิติทำ “นิวไฮ” ในรอบเกือบ 7 เดือน ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่ “เดี๊ยน” มองว่ามีติดพอร์ตเอาไว้ไม่เสียหาย เพราะเมื่อไหร่ที่ภาวะเป็นใจหุ้นจะกลับมาสร้างสีสันแน่นอนเจ้าค่ะ

*ด้าน SPRC หนึ่งในหุ้นที่ถูกคัดเข้าคำนวณดัชนี MSCI ราคาถึงได้ขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 4.62% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 449.51 ล้านบาท แต่ “โมนิก้า” อยากให้พวกโลกสวยลองหันไปดูพื้นฐานก่อนที่จะรีบกระโจนเข้าใส่ เพราะอย่าลืมว่ายังมีแรงกดดันจากการคาดคะเนผลงานไตรมาส 4 ที่อาจจะไม่สวยหรูสักเท่าไหร่ การจะเข้ารอบนี้จึงเหมาะกับพวก “เข้าไวออกไว” เท่านั้น

*ในจังหวะที่หุ้นหลายตัวไต่ระดับขึ้นมาได้อีกครั้งแต่ในรายของ BTS กลับทำตัวเป็นชาวสวน หลังจากวานนี้หุ้นทรงตัวที่ 14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 472.87 ล้านบาท เมื่อย้อนกลับมาดูสาเหตุที่ทำให้หุ้นไม่เคลื่อนไหวตามชาวบ้าน เป็นเพราะก่อนหน้านี้มีการไล่ระดับราคามาเป็นเวลานานตั้งแต่ราคาหุ้นยังไม่ถึง 10 บาท แต่หากมองด้วยสัญญาณเทคนิคจะเห็นว่าหุ้นยังมีโอกาสไปต่อ หากใครกลัวเสียเที่ยว “โมนิก้า” แนะให้รีบเกาะขอบขบวนเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นที่ไม่ยอมออกจากวงจรเดิม ๆ เห็นทีจะเป็น ACE ล่าสุดราคาลงมาปิดที่ระดับ 4.46 บาท ปรับตัวลดลง 0.02 บาท หรือ 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 207.72 ล้านบาท สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะการตั้งราคา IPO ดูเหมือนจะสูงไปหน่อย ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกอยู่รอบด้าน แต่เป็นปัจจัยที่สะท้อนออกมาในรูปราคาหุ้นแล้ว หากยังไม่มีข่าวดีเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนใหม่ มันหมายถึงทุกคนพร้อมเทขายหุ้นในพอร์ตออกมายังไงล่ะเจ้าคะ

*ปิดท้ายที่หุ้น KCE ห่างหายกระดาน Most Active ไปนาน วานนี้พุ่งมาปิดที่ระดับ 19.70 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 7.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 570.15 ล้านบาท นิวไฮในรอบ 6 เดือน หลังเจอมรสุมสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ล่าสุดดูเหมือนมีสัญญาณดี โดยเฉพาะสินค้าคอมพิวเตอร์ที่กลับมาขยายตัวในรอบ 13 เดือน แถมสัญญาณเทคนิครอบนี้ยังเป็นใจให้ไปต่อ หากราคาวิ่งทะลุเป้า 20 บาทไปได้ คาดหุ้นจะเป็นขาขึ้นรอบใหม่เต็มตัวอีกครั้งเจ้าค่ะ