พักเอาแรง
*ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า การทรุดตัวของดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,609.38 จุด ลบไป 5.42 จุด ด้วยมูลค่า 8.8 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนพอจะเข้าใจ เพราะเมื่อไหร่ที่ดัชนีวิ่งขึ้นไปอย่างร้อนแรง มันต้องมีการขายทำกำไรออกมาเสมอ ในเมื่อปัจจัยบวกในประเทศยังไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นรูปธรรม จึงจะยังคงได้เห็นแรงยื้อยุดฉุดกระชากกันไปอีกพักใหญ่ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่เนิ่น ๆ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า การทรุดตัวของดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,609.38 จุด ลบไป 5.42 จุด ด้วยมูลค่า 8.8 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนพอจะเข้าใจ เพราะเมื่อไหร่ที่ดัชนีวิ่งขึ้นไปอย่างร้อนแรง มันต้องมีการขายทำกำไรออกมาเสมอ ในเมื่อปัจจัยบวกในประเทศยังไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นรูปธรรม จึงจะยังคงได้เห็นแรงยื้อยุดฉุดกระชากกันไปอีกพักใหญ่ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่เนิ่น ๆ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้การลงทุนช่วงนี้เป็นอะไรที่น่าอึดอัดใจอีกครั้ง เพราะดัชนีดันมีอาการ “ขึ้นวัน ลงวัน” พร้อมกับตีกรรเชียงออกด้านข้างไปเรื่อย ๆ แต่ยังคงรักษากรอบขึ้นลงใหญ่ไว้ได้แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ผู้คนเริ่มชะลอการซื้อหุ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายไม่คงเส้นคงวาแบบน่าประหลาดใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับบรรยากาศการลงทุนตึงเครียดขนาดไหนเจ้าค่ะ
*เมื่อทุกอย่างออกไปในรูปนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันว่า ดัชนีควรจะพักฐานอย่างจริงจังเสียที เพื่อเป็นการพิสูจน์แรงรับหุ้นยังรอที่จุดแนวรับสำคัญ และยังเป็นการประคองทรงหุ้นให้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่บรรดาเซียนหุ้นเข้าใจได้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองปรับมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนเที่ยวนี้ให้คล้อยตามกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่ะค่ะ
*พอมีข่าวดีเรื่องส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ขยายตัวรอบ 13 เดือน หุ้นจิ๋วอย่าง SMT ก็ดี๊ด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำในทันที แต่งานนี้เดี๊ยนอยากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ตรึกตรองให้ดีว่าที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.10 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 11.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.70 ล้านบาท มันเป็นการฟื้นตัวจริง ๆ หรือเป็นเพียงเกมหุ้นที่ฉวยจังหวะเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ก่อนจะสาดโครมออกมาแบบไม่ทันตั้งตัวยังไงล่ะจ๊ะ
*มาที่หุ้นแบงก์ TMB หลังจากปรับตัวลงรับประเด็นเพิ่มทุนมามากแล้ว!! ราคาหุ้นกลับมาทะยานขึ้นรอบใหม่ 3 วันติด!! โดยวานนี้วิ่งมาปิดที่ระดับ 1.53 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท แถมบรรดาเซียนหุ้นออกมาเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูให้ซื้อ เพราะภายหลังจากควบรวมกับ “ธนชาต” จะทำให้หุ้นมีราศีอีกเยอะ เพราะด้วยจุดแข็งของฝ่ายแรกอยู่ที่ฐานเงินฝากดอกเบี้ยต่ำ ส่วนฝ่ายหลังเด่นปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Synergy ให้ทั้ง 2 ธนาคารดูดีไม่มีที่ติ..บวกกับปลายสัปดาห์นี้มีปันผลพิเศษ 0.03 บาท XD 29 พ.ย. ยิ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นทะยานต่อ เพราะดูจากเป้าพื้นฐาน 1.70 บาท มีอัพไซด์ให้ได้เล่นอีกเยอะเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ JKN ยังไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 4.86 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 73.90 ล้านบาท สัญญาณเทคนิคเริ่มผงกหัวเป็นขาขึ้น “โมนิก้า” มองว่าหากราคาหุ้นสามารถทะลุ 5 บาทขึ้นมาได้เมื่อไหร่ จะถือเป็นจุดเปลี่ยน ยิ่งเหลือบไปเห็นราคาเป้าหมายแถว 9 บาท อัพไซด์ยังเหลือเพียบ! ยิ่งน่าตามไปดูต่อจริง ๆ เจ้าค่ะ
*แวะเวียนเข้ามาในสายตาเป็นประจำสำหรับ TFG คราวนี้กลับมาด้วยแรงขับเคลื่อนจากราคาหมูไก่เดือน พ.ย.ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า แถมยังส่งสัญญาณว่าจะไปต่อยาว ๆ ยันเทศกาลตรุษจีนปีหน้า เหล่าแฟนคลับถึงได้คึกคักรอรับอนาคตอันสดใส พร้อมขยับนิ้วเคาะขวาดันราคากระโจนขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.64 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123.98 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนไงเจ้าคะ
*ด้าน SABINA ที่ถือเป็นขวัญใจนักเล่นรอบกลับมาคึกคักด้วยการไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 28.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.59% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.27 ล้านบาท ทำให้เห็นภาพของการขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 29 บาท ดูไม่ใช่เรื่องยากเย็นสักเท่าไหร่ แถมผลงานที่ผ่านมาก็ไม่มีประวัติด่างพร้อย “โมนิก้า” มองว่าหากจะหาจังหวะสอยหุ้นติดพอร์ตไว้ก็ไม่เสียหายนะเจ้าคะ
*ส่วนรายที่ชัดเจนแน่ ๆ อย่างเช่น IVL กลายเป็นหุ้นไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเที่ยวนี้มากสุด เพราะมีปัญหาค้างคาใจกับทิศทางธุรกิจหลายเรื่อง แถมแต่ละเรื่องก็ส่งผลต่ออนาคตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้คนที่ถือหุ้นถอยร่นกันเป็นจำนวนมาก เดี๊ยนถึงบอกได้ทันทีว่า การวิ่งขึ้นมาปิดที่ 35 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.54 พันล้านบาท หากไม่เคลียร์ปัญหาให้เสร็จเร็ว ๆ หุ้นมีโอกาสซึมลงอีกนะคะ
*อีกรายที่ออกอาการเป๋ให้เห็นชัดเจน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้น KTB เป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน เพราะแรงเทขายที่พรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้หุ้นหลุดแนวรับสุดท้ายลงมาอย่างง่ายดาย และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 16.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.20% ด้วยมูลค่า 655 ล้านบาท มันทำให้จังหวะต่อจากนี้จะมีแรงเทขายไหลออกมาอีกเรื่อย ๆ ภาพของหุ้นในระยะสั้นถึงดูไม่ดีเอาเสียเลยจ้า