สังคมข่าวหุ้น
*ลุ้นหุ้นไทยรีบาวด์
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
*ลุ้นหุ้นไทยรีบาวด์
*ตลาดหุ้นไทยปิดลบสวนตลาดหุ้นทั่วโลก ต่างชาติยังคงเทขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจาก MSCI ปรับพอร์ตเสร็จแล้วเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนวันนี้มีลุ้นรีบาวด์ จากข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กำลังจะสะเด็ดน้ำเร็ว ๆ นี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่ากำลังจะไปได้ดี แนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,615 จุด
*CPF ของตระกูลเจียรวนนท์มาแรง ธุรกิจขายหมูกำลังเป็นขาขึ้น หลังจากคู่แข่งสำคัญเวียดนามมีปัญหาโรคระบาด ขณะที่ราคาไก่ก็กำลังขยับตามมา ประกอบกับแรงกดดันจากมาตรฐานบัญชีใหม่ TAS 32 ถูกเลื่อนออกไปอีก 3 ปี ทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง
*รายการบิ๊กล็อต TMB ของเฮียปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราคามุ่งทำนิวไฮทุกวัน ยิ่งใกล้วันขึ้นเครื่องหมาย XD พรุ่งนี้ รับปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น นักลงทุนก็ยิ่งเข้ามาไล่เก็บกัน หลังจากที่การเพิ่มทุนราบรื่น ไม่มีสะดุด ไร้รอยต่อ ราคาเป้าหมายต่อไปทะลุ 1.70 บาท ส่วน TCAP ของเสี่ยสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทุนธนชาตก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นมา รอใส่เงินเพิ่มทุนทหารไทยต้นเดือนหน้า พอกระบวนการทั้งหมดเสร็จก็จะเข้าสู่การควบรวมกิจการของทั้งสองแบงก์ เป็นอันว่าดีลนี้เสร็จสิ้น ทุกฝ่ายวินวิน ใครที่ไม่เก็บก่อนหน้านี้ก็อย่าลังเลอาจได้ปันผลฟรีหลังขึ้น XD แต่ราคาไปต่อ
*KKP หุ้นแบงก์เล็กพริกขี้หนู ติดอันดับน่าลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากมีการขยายตัวของกำไรที่ดีทั้งจากธุรกิจธนาคารและธุรกิจตลาดทุน รวมทั้งจ่ายปันผลสูง คาดยีลด์ประมาณ 6% ต่อปี โดยจะจ่ายปีละ 2 ครั้ง บริษัทหลักทรัพย์ภัทรก็ขยันทำดีลใหญ่ทุกปี เป็นรายได้เสริมให้กับแม่ ปีนี้ก็ฟาดดีลใหญ่ ทั้งควบรวมกิจการทหารไทย และดีล DOHOME รวมทั้งดีลใหญ่อย่าง AWC ของเสี่ยเจริญ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเข้าคำนวณ SET50 รอบนี้ ที่จะประกาศกลางเดือน ธ.ค.
*SAWAD ของธิดา แก้วบุตตา เริ่มกลับมาใหม่หลังจาก MSCI ปรับพอร์ตลงทุนแล้ว SAWAD ในไตรมาส 4 กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดทำสถิติใหม่ หนุนโดยสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมที่โตขึ้น หลังจากเสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการควบคุมของธปท. คาดกำไรปีนี้จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 29% มาอยู่ที่ 3.94 พันล้านบาท และเติบโต 23% มาอยู่ที่ 4.85 ในปี 2563 ราคาเป้าหมาย 70-74 บาท
*THRE ของโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ ประกาศแผนธุรกิจระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2563-2565 เน้นรุกตลาดประกันภัยต่อส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ออกผลิตภัณฑ์และช่องทางใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มรูปแบบ ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยต่อสุทธิเพิ่มเป็น 3.8 พันล้านบาท จาก 3.6 พันล้านบาท ไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะกลับมามีกำไร และล้างขาดทุนสะสมได้ในปี 2564
*NVDR ซื้อ CBG ของพี่แอ๊ดคาราบาว เด้งหลังจากหลุด MSCI Global Small Cap รอบนี้เมื่อวันที่ 26 พ.ย. กูรูมองว่าผลประกอบการยังจะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ยอดขายในประเทศเพื่อนบ้านกลับมาฟื้นตัว
*กลุ่มสื่อสารทั้ง ADVANC ของสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส DTAC ของอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น และ TRUE ของเสี่ยศุภชัย ยังน่าลงทุน แม้ว่าจะมีการปรับฐานลงมาบ้างวานนี้ แต่ปัจจัยการเปิดประมูลคลื่น 5G จะทำให้หุ้นสื่อสารผันผวนระยะสั้น แต่หากไม่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามายื่นคุณสมบัติประมูลแข่งขัน และมีเพียง 3 รายใหญ่เท่าเดิม หุ้นกลุ่มสื่อสารจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
*บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ยืนยันที่ประชุมกกบ.มีมติผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) หรือหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ ที่มีการเสนอขายและได้รับชำระค่าหุ้นกู้นั้นก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของทุนต่อไปได้อีกไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป งานนี้ไม่ว่าจะเป็นรายไหนก็ได้ประโยชน์ทั้งหมด ล่าสุด บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ โดยนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้รวมส่วนสำรองการเสนอขายทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากนักลงทุนมั่นใจในความแข็งแกร่งของกิจการ พร้อมประกาศเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง