ย่ำแล้วไป VS ย่ำแล้วลง
*ดูเหมือนบททดสอบของตลาดหุ้นไทยจะมีออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่มีให้เห็นเป็นระยะ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นเหมือนกับที่โม้ไว้ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจ ล้วนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยประสบกับภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เป็นเวลาเนิ่นนานหลายเดือนแล้วนะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนบททดสอบของตลาดหุ้นไทยจะมีออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่มีให้เห็นเป็นระยะ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นเหมือนกับที่โม้ไว้ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจ ล้วนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยประสบกับภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เป็นเวลาเนิ่นนานหลายเดือนแล้วนะจ๊ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองการเคลื่อนตัวของดัชนียังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เพราะท่าทีของนักเล่นกลุ่มหลักอย่าง “กองทุนตัวจี๊ด” กับ “ฝรั่งขี้นก” ยังเป็นลักษณะแทงกั๊กตลอดเวลา จนส่งผลให้แมงเม่าเกิดอาการดีใจเก้อนับครั้งไม่ถ้วน ผนวกกับตัวเลขยอดซื้อขายสุทธิวานนี้ชี้ชัดลงไปว่า นักเล่นรายแรกซื้อสุทธิไปแค่ 114 ล้านบาท ส่วนนักเล่นฝ่ายหลังเทหุ้นทิ้งอีก 1.07 พันล้านบาท ภาพของการลงทุนถึงดูไม่ดีเอาเสียเลยเจ้าค่ะ
*เนื่องจากอาการที่ดัชนีย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,607.27 จุด ลบไป 2.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.12 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนรู้ว่า ตลาดหุ้นกำลังเข้าสู่หัวโค้งสำคัญอีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้ตีความได้ทันทีว่า หากการย่ำฐานเที่ยวนี้มาพร้อมกับการทยอยเก็บหุ้นไปเรื่อย ๆ..ทิศทางสวยแน่นอน ในทางกลับกันหากเป็นการย่ำฐานที่มาพร้อมกับรินขายหุ้นออกมาเป็นระยะ..คงดูไม่จืดนะจะบอกให้
*ส่วนรายที่กลับมาสวย ๆ ต้องยกให้ CPF เพราะเที่ยวนี้เป็นการกลับมาพร้อมสตอรี่ราคา “ขายไก่ ขายหมู” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นตัวนี้สวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 27.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.84 พันล้านบาท เพราะราคายืนพื้นของหุ้นควรอยู่แถว ๆ 30 บาทมาตั้งนานแล้วนะตัวเอง
*เช่นเดียวกับในรายของ TMB ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.66 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ก็มองเป็นเรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว เพราะเมื่อมองดูจากพลังผนึกที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ราคาหุ้นก็ควรอยู่สูงกว่าราคาที่เห็นด้วยซ้ำไป เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นจับตาการเคาะขวาในช่วง 1-2 วันนี้ให้ดีเจ้าค่ะ
*ส่วนรายที่เซอร์ไพรส์เหลือเกิน “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้นสายการบินสีแดง AAV หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.34 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในช่วงขาลงของธุรกิจสายการบิน จึงขอตีความเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเทคนิเคิลรีบาวด์ไว้ก่อนในเบื้องต้น แต่เพื่อความสบายใจของทุกท่าน เดี๊ยนจะรีบไปหาคำตอบจากปากผู้รู้ว่า มันคืออีหยัง ?
*ส่วนรายที่มีปัญหาแน่ ๆ คงหนีไม่พ้น AMATA หลังหุ้นมีอาการเหี่ยวเฉาลงทุกวี่ทุกวัน แถมแรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละวันยังเป็นการเคาะเบา ๆ หุ้นเลยตกอยู่ในสถานการณ์ช้ำขึ้นทุกวันแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า หุ้นจะรักษาฐานเก่าได้ไม่นาน พร้อมกับมองราคาปิดที่ 23.60 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 346 ล้านบาท ถือเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องแบกรับกันเอาเองค่ะ
*คล้ายกับกรณีของ DTAC หุ้นที่แมงโม้เม้าท์กันให้แซ่ดว่า ไม่เคยดีสุดสักที และทุกครั้งที่ทำท่าจะไปสวย ๆ ก็จบลงอีหรอบเดิมเป็นประจำ ยิ่งวงรอบของหุ้นเที่ยวนี้เป็นการลงมาปิด 55.75 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 721 ล้านบาทเป็นครั้งที่ 2 เท่ากับเป็นเกมวัดใจอย่างแท้จริงว่า เที่ยวนี้จะเด้งกลับขึ้นไปหายอดเดิมที่บริเวณ 65 บาทได้อ๊ะป่าว ?..ห้ามกะพริบตานะคะ
*ส่วนอีกรายที่มีวงรอบวิ่งในกรอบเดิม ๆ เป็นเวลานานถึง 6 เดือน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GUNKUL เป็นลำดับแรกอีกเช่นกัน “จะขึ้น” หรือ “จะลง” คุณพี่ไม่เคยหลุดกรอบ 2.90-3.30 บาทเลยสักที “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการย่อตัวลงมาปิดที่ 3.06 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192 ล้านบาท ใช่จังหวะที่ต้องทยอยเก็บหรือเปล่า ?
*สำหรับรายที่ซัดกันโป้ง ๆ อย่างหุ้น CHAYO ถือเป็นช็อตที่มาพร้อมกับสตอรี่กำไรโต ธุรกิจตามเก็บหนี้กำลังอยู่ในช่วงเบ่งบาน แถมมีหนี้เสียให้ตามเก็บเยอะแยะไปหมดแบบนี้กระมัง! ราคาหุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาทแบบชิว ๆ ส่วนการวิ่งเที่ยวนี้จะไปจบตรงไหน ? เดี๊ยนคงพูดได้แค่ว่า ต้องติดตามดูกันต่อไป..อิอิอิ