TFG อัพมูลค่าแอสเซท.!

สำนักข่าวรัชดา

บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เป็นหุ้นไก่ ๆ หมู ๆ ที่มีตำนานน่าสนใจ..! เมื่อปลายปี 58 เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป แล้วก็หลุดจองตั้งแต่วันแรก…กลายเป็นหุ้นไอพีโอสยองที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน

ในอดีตติดทำเนียบหุ้นผลงานย่ำแย่…ปี 2558 ขาดทุนสุทธิมากถึง 1,574 ล้านบาท จากรายได้รวม 17,508 ล้านบาท

กระทั่งได้นักการเงินมือทอง “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” มากอบกู้วิกฤติ..! ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ

จนปัจจุบันกลายเป็นหุ้นที่ทำผลงานโดดเด่น (แม้ไม่มีเชิดศักดิ์นำทัพแล้วก็ตาม)

ล่าสุดไตรมาส 3/62 โชว์กำไรสุทธิ 589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.08% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 526 ล้านบาท และมีรายได้รวม 7,534 ล้านบาท ลดลง 0.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,543 ล้านบาท

ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปีนี้ TFG ฟันกำไรสุทธิไปแล้ว 1,312 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 1,447 ล้านบาท และปี 2560 มีกำไรสุทธิ 1,516 ล้านบาท และมากกว่า 2 เท่าของกำไรสุทธิในปี 2561 ที่ 645 ล้านบาทเลยทีเดียว…

ดังนั้นถ้าจะบอกว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีทอง..! ของหุ้นลูกเจี๊ยบตัวนี้ก็คงไม่ผิดนัก

ปัจจัยหลักที่หนุนให้ TFG โตกระฉูด มาจากราคาไก่และหมูที่ปรับสูงขึ้น…

บวกกับปีนี้ TFG รับรู้รายได้จากบริษัท ฟูด เบลสซิ่ง (1988) จำกัด (เอฟบีซี) ทำธุรกิจขายซอสและเครื่องปรุงรส ซึ่ง TFG เพิ่งไปซื้อกิจการมาเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา จำนวน 85 ล้านบาท

นี่ไม่นับรวมกับกลยุทธ์ที่ TFG พยายามเดินเกมรุกสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่…

โดยก่อนหน้านี้ทุ่มงบลงทุนกว่า 330 ล้านบาท ลงนามสัญญาจ้างบริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) หรือ SR ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) บนพื้นที่โรงงานของกลุ่ม TFG เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในขนาด 13 เมกะวัตต์

แน่นอนว่า นอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับ TFG แล้ว ยังจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาในพอร์ตอีกด้วย

ล่าสุดไปจับมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทีเอฟ เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ TFG ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

ก็เป็นไปได้ว่า เบื้องต้น TFG อาจให้ EA ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เข้ามาทำโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงเลี้ยงไก่ และอาจมีเพิ่มเติมในรูปแบบอื่น ๆ

เป็นการแตกแขนงจากเดิมมีแค่โปรดักส์ไก่และหมูที่มีซีซั่นของธุรกิจ ราคาผันผวนไปตามฤดูกาล กลายเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจ

ถ้าโมเดลนี้ซักเซสจะทำให้ TFG มีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลายขึ้น ที่สำคัญจะมาช่วยชดเชยรายได้จากไก่และหมูที่หายไปในช่วงที่ราคาตกต่ำ…

นั่นเท่ากับว่า จะทำให้งบการเงินของ TFG ไม่สวิงจนเกินไป แต่จะโตแบบมีเสถียรภาพมากขึ้น

แหม๊…นี่ถ้า TFG สามารถทำผลงานโตต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ คงต้องยกตำแหน่งลูกเจี๊ยบทองคำให้ไปครองแล้วล่ะ…

…อิ อิ อิ…