Ice Men (บุรุษน้ำแข็ง)

*ลักษณะการเคลื่อนตัวของดัชนีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปตามที่ “โมนิก้า” บอกเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลชุดเดิม ๆ ที่ได้เจอกันมาตลอดแต่ยังเป็นสถานการณ์ที่ใช้ได้ดี ดังนั้นอย่าแปลกใจเมื่อเห็นหุ้นขึ้นไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ปฏิบัติการขายก็เกิดขึ้นให้เห็น มันเป็นเรื่องที่รายย่อยทำได้ถูกที่ถูกเวลา ในเมื่อสถานการณ์โลกยังปั่นป่วนก็ไม่รู้จะกอดหุ้นไว้ทำไมจริงไหมเจ้าคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ลักษณะการเคลื่อนตัวของดัชนีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปตามที่ “โมนิก้า” บอกเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลชุดเดิม ๆ ที่ได้เจอกันมาตลอดแต่ยังเป็นสถานการณ์ที่ใช้ได้ดี ดังนั้นอย่าแปลกใจเมื่อเห็นหุ้นขึ้นไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ปฏิบัติการขายก็เกิดขึ้นให้เห็น มันเป็นเรื่องที่รายย่อยทำได้ถูกที่ถูกเวลา ในเมื่อสถานการณ์โลกยังปั่นป่วนก็ไม่รู้จะกอดหุ้นไว้ทำไมจริงไหมเจ้าคะ

*เนื่องจากอาการที่ดัชนีเด้งขึ้นสู่แดนบวก ต่อจากนั้นทรุดฮวบลงแดนลบ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,594.97 จุด ลบไป 0.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.13 หมื่นล้านบาท มันเป็นอาการที่บอกให้รู้ว่า นักเล่นเกิดความไม่เชื่อมั่นในระยะยาว การเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในยามนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่อง ๆ เพื่อความชัดเจนในการลงทุนเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นสิ่งที่นักเล่นพึงจดจำให้ขึ้นใจเป็นเรื่องของการลงทุนเที่ยวนี้ ว่าจะต้องพลิกแนวต้าน 1,600 จุด เป็นแนวรับแข็งแกร่งให้ได้เสียก่อน เพราะหากยังไม่สามารถทำได้ ตลาดหุ้นคงยังวนลูปไปอีกพักใหญ่ วินาทีนี้ต้องถามใจนักลงทุนรายย่อยว่าทำการบ้านมาดีพอแล้วหรือยัง ? เพราะข้อมูลที่ปรากฏล่าสุดทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการกระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุด และแพตเทิร์นลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว ไล่เรียงจากการเปิดกระชากทะลุ 1,600 จุด แต่สุดท้ายกลับโดนทิ้งท้ายตลาดเท่านั้นเองนะจ๊ะ

*ในรายของ SCC แว่วมาว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 ยังดูไม่ค่อยสดใส จากสถานการณ์ธุรกิจปิโตรเคมียังอ่อนแอ หนำซ้ำล่าสุดโบรกฯ หลายสำนักทยอยหั่นราคาเป้าหมายกันยกใหญ่ การที่ได้เห็นราคาหุ้นปูนใหญ่ไหลลงมาปิดที่ระดับ 385 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 1.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ CMAN ของมันเห็น ๆ กันอยู่แล้วว่าผลงานยังวิกฤต โอกาสฟื้นตัวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยยังยาก ฉะนั้นการกระเด้งกระดอนขึ้นมาปิดที่ 1.56 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.10 ล้านบาท มองในมุมของนักเล่นบอกได้ทันทีว่า สงครามวันเดียว! ผนวกกับราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาชนแนวต้านแบบพอดิบพอดี “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการวิ่งหนีเต็มสปีดมากกว่าลุยสุดตัวนะคะ

*ส่วนรายที่เชียร์แล้วไม่ผิดหวังกลับเป็น PTG ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาปิดที่ 17.40 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท แถมข่าวแว่ว ๆ ที่พรายกระซิบแอบได้ยินมานั้น เขาบอกว่าไตรมาส 4 ผลงานน่าจะออกมาประทับใจจอร์จนะจะบอกให้ และเป้าหมายที่ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างขวางก็คือ 20 บาทเป็นอย่างต่ำเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AMA ทุกคนต่างรู้ดีว่าปัจจัยพื้นฐานไตรมาส 4/2562 ยังดูดี บวกกับหุ้นยืนปักหลักเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันจนได้ ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดปิดที่ 5.70 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.93 ล้านบาท มันจึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะวิ่งต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ต้องดูด้วยว่า แรงซื้อจะมากพอที่ดันหุ้นวิ่งต่อไหม เพราะธรรมชาติของหุ้นตัวนี้ซื้อขายไม่คึกคักน่ะซิ!

*ด้าน BEAUTY ยังคงถูกไล่ซื้อต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.00 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 497.62 ล้านบาท รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้น “โมนิก้า” แอบได้ยินมาว่าผลงานไตรมาส 4/2562 จะโดดเด่นหลังแผนคุมค่าใช้จ่ายดูเหมือนจะรุ่ง บวกกับยอดขายในประเทศสดใสช่วง High Season ยิ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นวิ่งยาว งานนี้โอกาสจะวิ่งไปอยู่แถว ๆ เป้า 2.20 บาทไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ

*มาปิดท้ายกันที่เรื่องเสียว ๆ เกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งโป๊กขึ้นมาในช่วงส่งท้าย “ปีหมู” แบบปัจจุบันทันด่วน ประหนึ่งโด๊ปถั่งเช่าทองคำมาอย่างไรก็อย่างนั้น ล่าสุด “บิ๊กตู่” ถึงขั้นต้องออกโรงชี้แจงแถลงไข ว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการเสถียรภาพระบบการเงินเรียบร้อยแล้ว พร้อมกำชับให้เร่งหามาตรการใหม่เข้าแก้ไขสถานการณ์ รวมถึงสั่งให้บอร์ดใหม่ชุดนี้กับแบงก์ชาติไปทบทวนดูมาตรการเดิม ๆ ว่ายังใช้ได้อยู่หรือไม่ด้วย

*เรื่องนี้คนธรรมดาอย่าง “โมนิก้า” และมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายฟังดูแล้ว ก็คงไม่กระไรนัก ถือเป็นแอ็กชั่นทั่วไปที่คนระดับนายกฯ ต้องออกมาพูดสักหน่อย ประเดี๋ยวจะไม่อินเทรนด์!! แต่สำหรับคนไม่ธรรมดาอย่าง “ฯพณฯ อุตตม” คงจะนั่งไม่ติด เพราะอยู่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการที่มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรง ซึ่งภายหลังออกให้สัมภาษณ์สื่อฯ แสดงถึงความใจเย็นประดุจภูเขาน้ำแข็ง โดยยืนยันจะไม่แทรกแซงแบงก์ชาติ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้อย่างมีชั้นเชิงด้วยว่า “บาทแข็ง” ไม่ใช่เรื่องแย่ซะทีเดียวนะจ๊ะ บอกให้!!

*เพราะแม้ภาคการส่งออกจะเหนื่อย แต่ถือเป็นยาชูกำลังสำหรับภาคการลงทุน ยกตัวอย่างการซื้อเครื่องจักร หรือวัตถุดิบเมืองนอก ก็จะมีราคาค่างวดถูกลง…“บิ๊กตู่” ได้ยินเช่นนี้แล้ว ใจชื้นขึ้นบ้างไหมจ๊ะนายจ๋า ที่แน่ ๆ เดี๊ยนว่าต้องลองซาวเสียงพวกเจ้าของโรงงานดูว่าเป็นจริงตามที่รัฐมนตรีอุตตมพูดหรือไม่ ? เพราะ “โมนิก้า” ล่ะกลั๊วกลัว กลัวใจว่ามันจะตึงโป๊ะ! ตรงที่ว่า “บาทแข็งจริง แต่จริงมากกว่านั้น คือไม่มีหอยเบี้ยจะไปซื้อเพิ่ม” น่ะซี่

*จากนี้ คงต้องจับตาท่าทีของ “ฯพณฯ อุตตม” รวมถึงอีกหนึ่งหนุ่มใหญ่ผู้มีรูปหน้าค่าตาหล่อเหลา น่ากระแซะ อุ้ย! กระเซ้าไม่แพ้กัน นั่นคือผู้ว่าวิรไท หรือ “ก้อ พระราม 8” ซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่าสุขุม นุ่ม และลึก จนหลายครั้งผู้พบเจอ แยกไม่ถูกว่านี่ “ใจเย็น” หรือ “ความรู้สึกช้า” แต่ที่แน่ยิ่งกว่าแน่ ณ เพลานี้ คือ บรรดาผู้ส่งออก ที่เหมือนจะกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งเพราะเทรดวอร์เริ่มคลายตัว กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่กำลังเคลิบเคลิ้มในช่วงไฮซีซั่น คงกลับไปเป็นโรคซึมเศร้าอีกคราหนึ่ง หากทั้งรัฐมนตรีและผู้ว่าฯ ยังคงสภาพการเป็น “บุรุษน้ำแข็ง” เยี่ยงนี้ต่อไปอย่างไรล่ะพะยะค่ะ

Back to top button