‘พี่กอง’ แพนิก
วานนี้ คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตลาดหุ้น
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตลาดหุ้น
“พี่กอง” หรือกองทุนต่าง ๆ จะปรับพอร์ต เทหุ้นทิ้งออกมาแน่นอน
หรือไม่ก็สลับตัวเล่น หรือลงทุน
เช่น เทขายหุ้นที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ อิหร่าน แล้วเข้าไปลงทุนหุ้นในกลุ่มที่ปลอดภัย หรือไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
พอปิดตลาด ตัวเลขการซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มออกมา
กลุ่มนักลงทุนสถาบัน นำโดย พี่กอง ขายออกมากลุ่มเดียว หรือประมาณ 2,605 ล้านบาท
จะว่าไปแล้ว
ถือเป็นเรื่องปกติของการลงทุนของกองทุนต่าง ๆ ในประเทศไทยที่จะมีส่วนหนึ่งเป็นการซื้อ ๆ ขาย ๆ แบบระยะสั้น
หรืออาจเป็นแบบ Day Trade ด้วยซ้ำ
หลายกองทุนไม่ได้ถือหุ้นนานมากนัก
หากมีกำไรตามเป้าหมาย หรืออาจจะมีความเสี่ยงเกิดขึ้น
กองทุนจะขายหุ้นออกมาทันที
ค่อนข้างต่างจากกองทุน หรือนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ที่เมื่อเข้ามาลงทุนแล้ว ค่อนข้างจะถือยาวมากกว่า
ยกเว้น เป็นความเสี่ยงที่ค่อนข้างมาก ๆ จริง ๆ
ก็อาจจะมีการปรับพอร์ตโยกเงินไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ก่อน
วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อนะ
หรือกว่า 916 ล้านบาท
จะว่าอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ก็เป็นได้
เพราะส่วนตัวแล้ว ก็มองว่าต่างชาติขายแน่นอน เช่นเดียวกับบรรดานักวิเคราะห์ที่มองไว้ตั้งแต่เช้าว่า ต่างชาติน่าจะยังขายสุทธิต่อเนื่อง
ปรากฏว่าคาดการณ์กันผิดหมด
มีตัวเลขสัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติล่าสุด
หรือสิ้นสุดฯ สิ้นปี 2562 สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยราว ๆ 29.5%
ตัวเลขนี้ถือว่าต่ำสุดในรอบ 15 ปี
สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ที่เฝ้าติดตามการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยที่บอกว่า แรงขายน่าจะแผ่วลงแล้ว เพราะขายมาค่อนข้างมากแล้ว
ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็บอกแบบนี้เช่นกันว่า ต่างชาติไม่น่าจะขายมากเหมือนปี 2561
แน่นอนว่า นักลงทุน (รายย่อย) ต่างต้องการ วิสัชนา หรือ “คำตอบ” ว่า แล้วสถานการณ์ต่อไปเป็นอย่างไร
ส่วนตัวนั้นเชื่อว่า รายย่อยเขานะ “สู้อยู่แล้ว”
แต่รู้ว่าควรจะเข้า และออกจากหุ้นตัวไหน
อาจจะมีบางส่วนที่ “แพนิก” บ้าง
เท่าที่ดูความเห็นนักวิเคราะห์ต่างยังมองเชิงบวกว่าสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ
เพราะจะว่าไปแล้ว ไม่มีใครพร้อมที่จะทำสงคราม
ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นผลกระทบระยะสั้น
ทว่ายังไม่สามารถบอกได้ว่า สั้นแค่ไหน เช่น 1 เดือน หรือ 2-3 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น
ส่วนกองทุนเอง หลังขายหุ้นออกไปแล้ว น่าจะมีการถือเงินสดไว้ส่วนหนึ่ง
แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะถือได้นานมาก เพราะมีเกณฑ์เกี่ยวกับการถือเงินสดอยู่ว่าจะถือได้เท่าไหร่ กี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุน อะไรแบบนั้น
ส่วนดัชนีจะดีดกลับหรือไม่นั้น
ก็ต้องพึ่งพี่กองทุนเขานี่แหละ
ว่าจะหายแพนิกหรือยัง