หุ้นรับเหมาฯ เก็งกำไรงบปี 63.!
ปี 2562 ถือเป็นปีกุนระกำของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจริง ๆ สะท้อนได้จากราคาหุ้นในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาที่ทรุดโทรมหนัก..!
สำนักข่าวรัชดา
ปี 2562 ถือเป็นปีกุนระกำของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจริง ๆ สะท้อนได้จากราคาหุ้นในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาที่ทรุดโทรมหนัก..!
ถ้าดูในกลุ่ม 3 บิ๊กรับเหมาฯ ที่ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
จะเห็นว่า STEC ชอกช้ำระกำใจสุด ในรอบ 1 ปีราคาทิ้งดิ่งลงมาถึง 43.66% ฟาก ITD ก็ไม่น้อยหน้า ราคาดิ่ง 43.62% ส่วน CK ก็ดิ่ง 31.58%
ขณะที่บริษัทรับเหมาขนาดกลางและเล็กก็มีชะตากรรมไม่แตกต่างกัน โดยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ราคาปรับลดลง 33.33% ส่วนบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR ยิ่งแย่ ราคาดิ่งเหวลดลง 79.06%
ส่วนกลุ่มฐานราก เสาเข็มเจาะ นี่ยิ่งไปกันใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ราคาดิ่ง 49.36% ฟาก บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ราคาดิ่ง 40.16%
ต้นตอที่ทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ซบเซาหนัก…เนื่องจากไม่มีสตอรี่ใหม่ หรือปัจจัยเชิงบวกมาหนุน จึงกลายเป็นหุ้นที่ถูกเมิน
นั่นเป็นเพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การลงทุนชะงักงัน บวกกับงานภาครัฐที่เงียบหายไป เนื่องจากความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 ทำให้หลังจากวันที่ 1 ต.ค. 2562 ก็ไม่มีงานภาครัฐออกมาอีกเลย
แต่ด้วยพ.ร.บ.ร่างงบประมาณปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ที่กำลังซักฟอกกันอย่างดุเดือดในสภาฯ จะทำให้เห็นความชัดเจนของงบฯ ด้านต่าง ๆ ซึ่งกลุ่มรับเหมาฯ จะเป็นกลุ่มแรกที่จะได้ประโยชน์
น่าสนใจในภาวะที่ตลาดหุ้นไม่รู้จะเป็นลูกผีหรือลูกคน…ดูเหมือนจะฟื้น แต่กลับฟุบหนักซะงั้น ยากจะคาดเดาจริง ๆ (นาทีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในมือทรัมป์กับอิหร่านว่าจะตูมตามกันอีกหรือไม่..? และสถานการณ์จะยืดเยื้อเพียงใด..?)
ในเชิงเก็งกำไร…หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ จะถูกหยิบยกขึ้นมาเก็งกำไรอีกรอบ หลังจากห่างหายไประยะหนึ่ง…
วานนี้จึงเห็นราคาหุ้นกลุ่มรับเหมากลับมาดี๊ด๊าอีกครั้ง โดยเฉพาะ STEC ที่ราคาพุ่งแรง ปิดตลาดที่ระดับ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 5.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 430 ล้านบาท
ส่วน CK ปิดตลาดที่ระดับ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท และ ITD ปิดตลาดที่ระดับ 1.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 2.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16 ล้านบาท
ด้าน UNIQ ปิดตลาดที่ระดับ 7.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 3.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11 ล้านบา
ฟาก SEAFCO ปิดตลาดที่ระดับ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 3.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท PYLON ปิดตลาดที่ระดับ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 1.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 ล้านบาท
เห็นจะมีแต่ NWR ที่ยังไม่ฟื้น ปิดตลาดที่ระดับ 0.45 บาท ลดลง 0.01 บาท หรือปรับลดลง 2.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 ล้านบาท
แต่ต้องย้ำอีกทีว่า หุ้นรับเหมาฯ มันเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น…เพราะฉะนั้นต้องท่องคาถา “เข้าเร็ว-ออกเร็ว” ให้ขึ้นใจ
จะได้ไม่ต้องไปยืนท้าลมหนาวอยู่บนยอดดอยสูง เพราะในสถานการณ์เช่นนี้น่าจะหาทางลงได้ยากนะ…
…อิ อิ อิ…