น้ำมันกับแบงก์

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ้นในกลุ่มน้ำมัน และธนาคาร

หากทั้งสองกลุ่มนี้

ราคายังไม่ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างจริงจัง

ก็คงยากที่จะให้ดัชนีวิ่งขึ้นไปต่อได้ โดยเฉพาะการฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด

จะว่าไปแล้ว

ปี 2562 ราคาน้ำมันดิบวิ่งขึ้นมา 14%

ส่วนแนวโน้มปีนี้ เท่าที่ฟังความเห็นจากบรรดานักวิเคราะห์

ต่างบอกว่า ราคาน้ำมันดิบจะขึ้นจากปีก่อนหน้าได้อีก

ทว่า ยังมีตัวแปรอีกหลายปัจจัยพอสมควร ที่จะเข้ามาเบรกทิศทางราคาน้ำมันดิบไม่ให้ทะยานขึ้นไป

หรือในทางกลับกัน

อาจร่วงจากปีก่อน หรือ 2562 ก็ได้

หุ้น “พี่ปอ” PTT เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม ราคาหุ้นอยู่บริเวณ 42.00 บาท

เกือบหลุด 40.00 บาท ไปแบบใจหายใจคว่ำ

แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ประกอบกับได้แรงหนุนจากปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ–อิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันดิบถีบตัวสูงขึ้น

แน่นอนว่า ราคาหุ้นพี่ปอ กระโดดตาม

แต่ไปไหนได้ไม่ไกล มาติดแนวต้านสำคัญ 47.50 บาท

และหลาย ๆ ครั้งที่ราคาหุ้น PTT มาจอดอยู่แถว ๆ นี้ แล้วก็ร่วงไปต่อ ไม่รู้ว่าใครมาติดยันต์ห้ามผ่านหรือเปล่า

แม้ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาได้ 11-12% ในช่วงเดือนกว่า นับจากต้นธันวาคม

หลังจากนั้น เมื่อสถานการณ์สหรัฐฯ กับอิหร่าน ดูแล้วไม่น่ามีอะไรรุนแรง ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดความร้อนแรงลง

เช่นเดียวกับราคาหุ้น PTT ก็ร่วงเช่นกัน

ล่าสุดมาอยู่บริเวณ 45.50 บาท

เชื่อเลยว่า หากราคาหุ้นก็น่าจะแกว่งอยู่ในกรอบบริเวณนี้นี่แหละไปอีกพักใหญ่ จนกว่า จะพอรับทราบงบไตรมาส 4/62 ของพี่ปอ โดยวัดดูจากหุ้นอภิชาตบุตรอย่าง PTTEP

และรวมถึง PTTGC TOP ว่าจะออกมาสวยหรูแค่ไหน

ข้อมูลล่าสุด

ข่าวว่า PTTEP ยังคงแสดงความเป็นเทพ คือ งบสวย

ส่วน PTTGC ยังคงอ่อนแรงลงไป และไม่แน่ใจว่า งบ PTTEP ที่คาดว่าจะออกมางดงาม จะเข้ามาชดเชยของ PTTGC ได้มากน้อยแค่ไหน

ส่วน TOP หรือไทยออยล์ นักวิเคราะห์จิ้มลูกคิดออกมาว่า อาจจะไม่ดีเช่นกัน

ช่วงปลายปี 2562 ที่นักวิเคราะห์ประเมินกันว่า ธุรกิจปิโตรเคมี  ในปี 2563 จะฟื้นตัวได้

เลยยังไม่แน่ใจว่า จะเป็นไปตามคาดการณ์กันไว้หรือไม่

เพราะปัจจัย และความเคลื่อนไหวเหล่านี้ส่งผลต่อราคาหุ้น PTT โดยตรง

หันมาที่กลุ่มธนาคารกันบ้าง

TISCO กำไรออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์เล็กน้อย

แต่ไม่มีนัยสำคัญอะไรที่เป็นเชิงลบมากนัก เพราะตัวเลขสำคัญทางการเงินอื่น ๆ ออกมาดีหมด ทั้งเงินกองทุนฯ (22.5%) Coverage Ratio (178%) หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลงจาก 2.77% มาเหลือ 2.4%

ทำให้นักวิเคราะห์ต่างยังคงแนะนำลงทุนหุ้น TISCO

TISCO ยังมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่า 7% ด้วย

ส่วนวันศุกร์นี้ ย้ำอีกครั้งว่า SCB ไทยพาณิชย์ แจ้งงบเป็นแบงก์ถัดมา รวมถึง KKP ด้วย

และสัปดาห์หน้า หุ้นแบงก์ทุกตัวจะทยอยแจ้งงบไตรมาส 4/62 กันมาครบทุกแห่ง

ลองย้อนกลับไปดูกราฟราคาหุ้น 4 แบงก์ใหญ่

ทั้ง BBL KBANK SCB และ KTB แล้วอยากกุมขมับ

เพราะราคาร่วงลงมาโดยตลอด แม้ว่าโบรกฯ ไทย โบรกฯ ตปท. จะบอกว่า ราคาหุ้นแบงก์เหล่านี้ “ถูก” เกินไป และตอบรับกับปัจจัยลบไปแล้ว

แต่ราคายังไม่ฟื้นตัวมากนัก

เรื่องหุ้นแบงก์นี่ หากจะลุ้นไปวิ่งขึ้นมา

ต้องรอพี่กอง และพี่หรั่ง กลับเข้ามาซื้ออย่างจริงจังนั่นแหละ

ไม่ใช่ 3 วัน ซื้อ 4 วันขาย

อย่างที่ผ่านมา