ดันไม่ไหว

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไปทีละสเต็ป จะเห็นว่ายังไม่มีตัวแปรใหม่ ๆ เข้ามาบิลต์อารมณ์นักเล่นให้เกิดอาการฮึกเหิมจนกระโจนเข้าไล่ราคาหุ้นกันอย่างเมามันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมยากสำหรับนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ เพราะมันกลายเป็นเกมที่เน้น “เล่นสั้น” มากกว่า “เล่นยาว” วันนี้ถึงเห็นหุ้นหลายตัวดิ่งลงแบบไม่มีเบรก และมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เด้งกลับได้ในเร็ววันพะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไปทีละสเต็ป จะเห็นว่ายังไม่มีตัวแปรใหม่ ๆ เข้ามาบิลต์อารมณ์นักเล่นให้เกิดอาการฮึกเหิมจนกระโจนเข้าไล่ราคาหุ้นกันอย่างเมามันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมยากสำหรับนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ เพราะมันกลายเป็นเกมที่เน้น “เล่นสั้น” มากกว่า “เล่นยาว” วันนี้ถึงเห็นหุ้นหลายตัวดิ่งลงแบบไม่มีเบรก และมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เด้งกลับได้ในเร็ววันพะยะค่ะ

*เมื่อสถานการณ์ออกมาในโทนแทงกั๊กเป็นส่วนมาก ก็ไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นบางตัวทะยานแบบไม่เหลียวหลัง เพราะนาทีนี้เป็นจังหวะของหุ้นที่มีข่าวดีซัพพอร์ต ส่งผลให้ภาพของการลงทุนมีทั้ง “ขึ้นยาว” และ “ลงยาว” เดี๊ยนถึงมองเหตุการณ์ทำนองนี้น่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงไม่ต้องคิดอะไรให้รกสมองมากไปกว่าเดิม เพราะนาทีนี้มองแค่หุ้นตัวไหนมีข่าวดีไม่ขาดสาย ก็รีบกระโจนใส่หุ้นตัวนั้นไปเลยเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,574.59 จุด ลบไป 0.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.29 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเหตุการณ์ปกติสำหรับตลาดหุ้นไทย ยิ่งเห็นกองทุนตัวแสบยังสาดหุ้นออกมาอีก 2.20 พันล้านบาท และเมื่อรวมเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวานนี้ทิ้งหุ้นไปทั้งสิ้น 1.12 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นนัยสำคัญที่ทำให้กูรูหลายท่านฟันธงว่า ไม่แน่ใจอย่าเคาะขวานะตัวเอง

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น TRUE โดนถล่มยับเยินเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ หลายคนฟันธงได้ทันทีว่ามันมาจากการเข้าประมูล 5G กำลังกลายเป็นแรงกดดันให้บริษัทต้องเพิ่มทุนอย่างเลี่ยงไม่ได้ บรรดานักเล่นก๊กก๊วนต่าง ๆ ถึงปล่อยหุ้นออกมาเรื่อย ๆ โดยไม่คิดจะซื้อกลับในระยะสั้น วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 3.88 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาทไงล่ะคะ

*อีกรายที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากไม่แพ้รายข้างต้น “โมนิก้า” คงให้พื้นที่เรื่องนี้กับหุ้น IRPC เป็นรายถัดมาในทันที เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยข่าวลบ จนบรรดากองทุนไม่อาจกัดฟันถือหุ้นได้อีกต่อไป และมีความจำเป็นต้องสาดหุ้นออกมาทุกราคา นี่ถึงเป็นอีกครั้งที่หุ้นไหลลงต่อ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 3.02 บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 774 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 5 ปี 1 เดือนนะจะบอกให้

*ส่วนในรายที่ทำท่าจะไปได้ดีอย่าง SPRC ก็เจอกับอาการจอดไม่ต้องแจวอีกครั้งเช่นกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งยืนเหนือไอพีโอที่ขายให้แมงเม่า 9 บาทมาหยก ๆ แต่วานนี้กลับลงมายืนปิดที่ 8.30 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 465 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่ไม่สู้ดีเอาเสียเลย และมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูง วันนี้ถึงต้องดูกันที่แนวรับเที่ยวก่อนบริเวณ 8 บาทยังทำงานดีไหม ? หากต้านไม่ไหวเจอกันที่จุดนัดพบใหม่ 7.40 บาทได้เลยเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองหุ้น AMATA หลังตีตั๋วลงยาวแบบไม่ให้ใครตั้งตัวทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างมากที่เห็นหุ้นเคยสตรองกลายเป็นหุ้นมะเขือเผา จนทำให้ราคาปิดที่ 17 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 7.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 471 ล้านบาท ไม่น่าใช่จุดต่ำสุดของการเล่นเที่ยวนี้ จึงขอเตือนคนที่คิดจะเคาะขวาให้ระวังมากเป็นพิเศษนะจ๊ะ

*เรื่องนี้โยงไปถึงยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง CK โดนกองทุนกดหนักแบบไม่มีเยื่อใย จนหุ้นไหลลงมายืนที่ระดับ 18.70 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 746 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่นักเล่นต้องเผื่อใจตั้งแต่เริ่มต้นว่า หากวันนี้หุ้นไม่เด้งกลับบริเวณแนวรับแรกแถว ๆ 18 บาท ก็ให้ไปรอรับอีกทีบริเวณแนวรับ 16 บาท ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำกว่าบุ๊กแวลู 10% แบบนี้..เซฟโซนสุด ๆ ไหมคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากมองไปที่หุ้น STA เพื่อชี้ให้เห็นอาการที่เด้งขึ้น 2 วันติด น่าจะเป็นมูฟเมนต์สำคัญสำหรับการเคาะขวายาว ๆ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาก็โยนหุ้นกันไปมาในกรอบ 9.50-11.50 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองการยืนปิดที่ 11.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 258 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อไหม ? และเที่ยวนี้มีโอกาสฝ่ากรอบไหม ?

 

Back to top button