พาราสาวะถี

อรชุน

ธรรมชาติการเมือง ธรรมชาตินักการเมือง และธรรมชาติพรรคการเมืองที่ยังไร้การปฏิรูปตามวาทกรรมลวงโลกของเผด็จการสืบทอดอำนาจ สะท้อนผ่านการเสียบบัตรและกดลงคะแนนแทนกัน ทั้งที่รับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐานอย่างส.ส.พรรคภูมิใจไทย และทำท่าว่าจะจนแต้มด้วยหลักฐานอันเด่นชัดจากสื่อมวลชนเหมือนกันคือ ภาพของส.ส.หญิงพรรคสืบทอดอำนาจที่กดบัตรแทนกันเหมือนกัน นี่คือบทพิสูจน์ลำพังเลี้ยงกล้วยให้ลิงเชื่องและซื้องูเห่าแล้วยังไม่พอ ต้องใช้วิชาสามานย์เข้าช่วยด้วย

ศักดิ์ศรีที่ประกาศอยู่ปาว ๆ ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่าการเมืองยุคใหม่ต้องไม่กลับไปเหมือนเดิม ดูจากสิ่งที่ปรากฏทำท่าว่าจะหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป เมื่อเป้าหมายคือกระเตงขบวนการสืบทอดอำนาจให้มีเสถียรภาพ อยู่ได้ยาวนานที่สุดโดยไม่แยแสว่าจะใช้วิธีการใด ในเมื่อยุทธวิธีที่ใช้เลือกรบแบบกองโจร หากเป็นการต่อสู้ซึ่งหน้าก็อาศัยลูกตุกติกเอาเปรียบคู่ต่อสู้ทุกประตู เช่นนี้แล้วความสง่างามมันอยู่ตรงไหน

บอกมาโดยตลอดหลังจากที่ผู้นำเผด็จการเลิกพูดคำว่าอย่าเลือกแบบเดิมแล้วจะได้แบบเดิม มันก็เป็นสัญญาณอันเด่นชัดว่า การเมืองยังคงเป็นรูปแบบน้ำเน่า โสมมเหมือนเดิม การตั้งพรรคขึ้นมาใหม่เพื่อเป้าหมายการสืบทอดอำนาจ โดยไม่ได้สร้างทางเลือกใหม่และสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับประชาชน กลับไปใช้การดูดด้วยสารพัดวิธี มันจึงไม่หนีการเมืองชั่วการเมืองเลว ทั้งที่ตัวเองถ่มถุยดูถูกทุกกากเดนการเมืองทุกเมื่อเชื่อวันหลังยึดอำนาจหมาด ๆ

งานนี้ คนทั่วไปไม่มีใครเชื่อหรอกว่าไม่มีการเสียบบัตรแทนกัน เวลานี้มองกันไปถึงประเด็นที่ว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จะเกิดการใช้อภินิหารอย่างไรเพื่อให้รอดคมหอกคมดาบของการตีความจากองค์กรอิสระที่มีอำนาจ คำอธิบายจาก วิษณุ เครืองาม ที่ว่าแค่ล่าช้าออกไป ก็เหมือนการส่งซิกว่าแม้จะเกิดกรณีเช่นนี้ แต่ร่างกฎหมายจะไม่เดินซ้ำรอยกรณีร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างแน่นอน

ทำไมถึงมองเช่นนั้น ความเป็นไปได้มันก็มีที่ว่างต่างกรรมต่างวาระ แม้จะเป็นการกดบัตรแทนกันเหมือนกันก็ตาม อาจจะมีเหตุผลอื่นที่ยกมาประกอบ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ก็ต้องอธิบายให้ชัดว่าทำไมการกระทำผิดเหมือนกันแต่ผลลัพธ์แห่งการรับผิดจึงต่างกัน เพื่อสังคมจะไม่ได้กังขา และไม่ได้เป็นการบั่นทอนความเชื่อถือเชื่อมั่นขององค์กรที่ทำหน้าที่ชี้ขาด อย่าลืมเป็นอันขาดว่าผลแห่งการตีตกร่างกฎหมายกู้เงินครั้งนั้น ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนต้องเผชิญชะตากรรมตามมาอีกหลายประการ

ไม่ว่าจะเป็นการถูกป.ป.ช.ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอาผิดทางอาญา ตามมาด้วยการถูกสนช.ที่ตั้งขึ้นจากอำนาจปลายกระบอกปืนถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วย หนนี้ก็จะเป็นบทพิสูจน์องค์กรอิสระอย่างป.ป.ช.ด้วยว่าจะมีบรรทัดฐานเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่นเดียวกับส.ว.ที่เห็นหลายรายพยายามอุ้มร่างพ.ร.บ.งบประมาณกันสุดฤทธิ์ จะดำเนินการกับส.ส.ที่กระทำความผิดด้วยหรือไม่

สุดท้ายสิ่งที่วิษณุเคยเตือนเมื่อคราวผุดวาทกรรมรัฐบาลเรือเหล็ก “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” เริ่มส่งผลให้เห็นแล้ว นี่เพียงแค่น้ำจิ้มของคนในซีกนิติบัญญัติที่อยู่ในฝั่งรัฐบาล ยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่าแล้วฝ่ายบริหาร ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติซักฟอกในวันที่ 29 มกราคมนี้ มีใครที่สันหลังหวะ ปิดแผลที่จะถูกเปิดได้มิดชิดหรือไม่ หากฝ่ายค้านตีตรงเป้าเข้าตรงจุด ขุดหลักฐานมาประจานให้สังคมเห็น บางทีรัฐบาลสืบทอดอำนาจที่มั่นอกมั่นใจว่าแข็งแกร่งทั่วแผ่น อาจจะคางเปราะถูกน็อกเอาได้ง่าย ๆ เหมือนกัน

ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 สภาผู้แทนราษฎรเกิดภาพสมานฉันท์เมื่อฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างเสนอญัตติเพื่อให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าวที่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมีกรรมาธิการจำนวน 49 คน ใช้เวลาศึกษา 120 วัน สำคัญมากไปกว่านั้นคือเรื่องเฉพาะหน้านอกจากบอกให้ประชาชนช่วยตัวเองไปก่อนระหว่างรอมาตรการจากภาครัฐที่จะดำเนินการ ถามว่าแล้วมีการทำอะไรเบื้องต้นที่ช่วยทุเลาเบาบางปัญหาให้ประชาชนบ้างหรือไม่

เข้าใจกับสิ่งที่พยายามอธิบายว่ามันเป็นธรรมชาติ แต่มันมากเกินไปจนกระทั่งต้องสั่งปิดโรงเรียนหนีฝุ่นพิษ สิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเรื่องปัญหาเกิดจากรถควันดำกว่าร้อยละ 70 การเผาร้อยละ 15 โรงงานอุตสาหกรรมร้อยละ 5 และอื่น ๆ รวมทั้งระบุกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องระวัง มันก็เหมือนเด็กท่องตำราเพื่อที่จะไปสอบ แต่ผลในทางปฏิบัติไม่เห็นมีอะไรจับต้องได้ ยิ่งอ้างว่าถ้าใช้ยาแรงก็จะสร้างปัญหาให้กับประชาชน คนก็อยากเห็นว่ายาแรงดังว่าคืออะไร

ไม่ต้องรอถึงขนาดนั้น วันนี้ท่านผู้นำไม่ลองควงรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกซักฟอก ไปเดินตามท้องถนน ขึ้นรถเมล์ไปทำงานเพื่อสัมผัสสภาพปัญหาที่แท้จริงดูบ้าง จะได้รู้ว่าประชาชนคนทั่วไปควรจะต้องรับมือกันอย่างไร งบที่ใช้แจกหาเสียงกันเป็นว่าเล่นนั้น ควรที่จะเจียดมาซื้อหน้ากากป้องกันควันพิษแจกให้ประชาชนได้ครบทุกคน ทุกครัวเรือนดีกว่าไหม อย่าคิดเอาง่าย ๆ ว่า ใครก็ซื้อได้ เพราะเงินในกระเป๋ามีมากน้อยต่างกัน

เรื่องแค่นี้ถ้าจะสร้างภาพรับรองได้เลยว่าไม่มีใครด่าแม้แต่คนเดียว จะมีแต่เสียงสรรเสริญเสียด้วยซ้ำไป พอไม่ได้ขยับอะไร แล้วเที่ยวอ้างไปเรื่อย ทำตัวเป็นผู้นำที่คิดว่าข้าเก่ง ข้าแน่ ข้ารู้ทุกเรื่องทั้งที่หลายเรื่องก็ไปเสิร์ชข้อมูลมาจากกูเกิลเหมือนกันและยังชอบบอกว่าใกล้ชิดประชาชน แต่เรื่องที่เห็นกันชัดและควรจะต้องขยันสร้างภาพ กลับไปกล่าวหาฝ่ายที่โจมตีว่าจ้องแต่จับผิด คิดอยู่เท่านี้มันจึงมีแต่พวกเขาพวกเรา และเห็นแต่ภาพความขัดแย้งอยู่ร่ำไป

ประเด็น ปารีณา ไกรคุปต์ กับปมที่ดิน ไม่ว่าจะถูกลอยแพหรือพรรคต้นสังกัดจะหาทางช่วยเหลืออย่างไร การใช้แนวทางรอการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่น่าจะสร้างความน่าเชื่อถือใด ๆ ในเมื่อผิดก็ต้องว่ากันตามนั้น ถ้าจะต้องพ้นจากความเป็นส.ส.แล้วเลือกตั้งใหม่ก็ให้เป็นไป ดีเสียอีกที่จะมีโอกาสได้ส.ส.น้ำดีเข้ามาทำงานกับพรรครัฐบาล เพราะเลือกตั้งใหม่ยังไงเสียเขตนั้นของปารีณาพรรคสืบทอดอำนาจก็ชนะอยู่ดี