พาราสาวะถี
วันศุกร์ที่ผ่านมา แวดวงการเมืองร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของ ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ที่ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่บ้านพักในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วยโรคชรา ในวัย 91 ปี 9 เดือน ก่อนจะล้มป่วยด้วยสังขารตามอายุขัย ปู่ชัยของส.ส.ที่เคารพนับถือและสื่อประจำสภา ได้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการประชุมระหว่างรอกระบวนการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยลีลาที่ยากจะหาใครเหมือน วลีสุดท้ายที่ทำให้คนจดจำคือการปรามส.ส.ฝ่ายค้านว่า “ที่นี่ไม่ใช่โรงละคร”
อรชุน
วันศุกร์ที่ผ่านมา แวดวงการเมืองร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของ ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ที่ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบที่บ้านพักในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วยโรคชรา ในวัย 91 ปี 9 เดือน ก่อนจะล้มป่วยด้วยสังขารตามอายุขัย ปู่ชัยของส.ส.ที่เคารพนับถือและสื่อประจำสภา ได้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการประชุมระหว่างรอกระบวนการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยลีลาที่ยากจะหาใครเหมือน วลีสุดท้ายที่ทำให้คนจดจำคือการปรามส.ส.ฝ่ายค้านว่า “ที่นี่ไม่ใช่โรงละคร”
ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวชิดชอบอย่างสุดซึ้ง แต่ว่ากันว่า การจากไปของปู่ชัยเป็นการจากไปด้วยหัวใจที่เป็นสุข เพราะลูกชายคนเล็ก ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ก้าวถึงบันไดความสำเร็จทางการเมืองอย่างสูงสุดของส.ส.บ้านนอกคนหนึ่งแล้วนั่นก็คือการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อันนำมาซึ่งความปลาบปลื้มให้กับผู้เป็นพ่อเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่กับบทบาทของการทำหน้าที่ประธานสภาฯ ถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับการยอมรับจากบรรดาส.ส.ด้วยลูกล่อลูกชนที่แพรวพราวสร้างรอยยิ้มมากกว่าความร้าวฉาน
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองและความเคลื่อนไหวของข่าวสารต่าง ๆ แม้จะเพิ่งเริ่มต้นปีมาไม่เท่าไหร่ ก็ร้อนระอุมีหลายปมปัญหาที่ทำให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจทำท่าว่าจะสะดุดกับเรื่องที่ไม่คาดฝันอยู่ไม่น้อย ปมปัญหาการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของส.ส.ภูมิใจไทย วันนี้เรื่องถึงมือศาลรัฐธรรมนูญแล้วกับคำร้องของส.ส.ทั้งซีกรัฐบาลและฝ่ายค้าน คาดหมายว่าภายในสัปดาห์นี้คงจะชัดเจนศาลจะประชุมเพื่อมีมติว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
คงต้องรับไว้แน่นอน ส่วนผลของคำวินิจฉัยจะออกมาแบบไหนอย่างไรนั้น คงต้องรอ ฟัง วิษณุ เครืองาม บอกว่ามีอยู่ 6-7 ทาง แต่หากยึดเอาแค่ปมว่าส.ส.เสียบบัตรแทนกันทำให้กระบวนการตรากฎหมายไม่ชอบ บทสรุปมันจะมีแค่ทางเดียวตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไปแล้วคือร่างกฎหมายเป็นโมฆะ สำหรับที่มีความพยายามจะบอกว่าตามรัฐธรรมนูญใหม่ มีทางรอดโดยมาตรา 143 นั้น มีบางเสียงก็บอกว่าไม่น่าจะถูกต้อง
เพราะตามมาตรา 143 นั้น ว่าด้วยเงื่อนเวลาการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรที่กำหนดกรอบไว้ 105 วัน และการพิจารณาของส.ว.หลังรับเรื่องจากสภาล่างแล้วต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน โดยทั้งสองกรณีหากไม่เสร็จตามกำหนดให้ถือว่าทั้งสองสภาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งปัญหาร่างกฎหมายงบประมาณปี 63 มันได้ผ่านกระบวนการตรงนั้นมาทั้งหมดแล้ว
สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณเสร็จตามกรอบเวลา แต่ติดปัญหาที่สภาผู้แทนราษฎรมีการเสียบบัตรแทน อันทำให้กระบวนการตราร่างกฎหมายมิชอบ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบ ก็ต้องไปตั้งต้นกันใหม่ไม่น่าจะใช้ร่างที่ครม.เสนอเข้าสภาได้เลย เพราะร่างที่ผ่านความเห็นชอบไปนั้นได้ผ่านกระบวนการปรับลดงบประมาณ ผ่านความเห็นชอบจากสภาตามขั้นตอนแล้ว แต่รอบนี้เรื่องที่ส.ส.เข้าชื่อเสนอไปนั้นได้ถามแนวทางการแก้ไขไปกับศาลรัฐธรรมนูญด้วย
ต้องดูว่าศาลจะมีการเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหามาด้วยหรือไม่ หากมีก็ถือว่าทำให้รัฐบาลสบายใจได้ เพราะความจริงปมที่มีคนยื่นร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ในคดีอิลลูมินาตินั้น ศาลก็ให้ความกรุณาชี้แนะไปที่กกต.ด้วยว่า กรณีข้อบังคับของพรรคที่ถูกร้องหากเห็นว่าบัญญัติไว้คลุมเครือ นายทะเบียนพรรคการเมืองอันหมายถึงเลขาธิการกกต. สามารถสั่งให้พรรคดังกล่าวปรับแก้เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสงสัยและนำไปสู่ความขัดแย้งได้
แต่หากอ่านสถานการณ์ผ่านบทสัมภาษณ์ที่ตอกย้ำสองหนติดของวิษณุผู้ได้ฉายาศรีธนญชัยลอดช่อง ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ได้หวาดกลัวว่าจะมีปัญหาจากกรณีนี้ แสดงความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างผ่านฉลุย ปัญหาเดียวที่จะเจอคือความล่าช้าของงบประมาณปี 63 ที่ต้องรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ซึ่งเนติบริกรประจำรัฐบาลก็ยืนยันว่าศาลคงจะเร่งดำเนินการ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาความเห็นของคนซีกรัฐบาลที่ฟังเหมือนจะเข้าท่าแต่ไม่เข้าทีคงเป็นรายของ “ซามูไรกฎหมาย” ไพบูลย์ นิติตะวัน ที่อ้างว่ากรณีการเสียบบัตรแทนกันเป็นเพียงคนส่วนน้อย และต้องให้ความเป็นธรรมกับเสียงส่วนใหญ่ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่ด้วย การกดบัตรแทนกันแม้จะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีเสียงเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงมติได้ หากจะวินิจฉัยให้ต้องตกไปก็ถือว่าไม่เป็นธรรมกับส.ส.ส่วนใหญ่ แล้วกรณีของฝ่ายตรงข้ามก่อนหน้านี้ไม่เห็นไพบูลย์พูดแบบนี้
ทำตัวเป็นซามูไรเสียหลัก(การ)ไปเสียฉิบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของขบวนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งพอจะเข้าใจได้ การลงทุนยุบพรรคที่ตัวเองตั้งมากับมือโดยไม่แยแสเรื่องอุดมการณ์ใด ๆ เพื่อเข้าไปสังฆกรรมกับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ย่อมเป็นตัวบ่งชี้ที่แจ่มแจ้งแล้วว่าคน ๆ นี้มีความแน่วแน่ในแง่ของการยึดผลประโยชน์ส่วนรวม ปกป้องผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ หรือแท้ที่จริงทำทุกอย่างเพื่อโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามด้วยอคติเท่านั้น
ที่ต้องชื่นชมอีกครั้งต่อการยึดมั่นในครรลองที่ถูกต้องก็คือ ชวน หลีกภัย แม้ฝ่ายขบวนการสืบทอดอำนาจพยายามที่จะหาช่องทางข้อกฎหมายมาอธิบายต่อการเสียบบัตรแทนกัน โดยเฉพาะกรณีของส.ส.พรรคสืบทอดอำนาจที่อ้างว่าอยู่ในที่ประชุมแต่ขอให้เพื่อนส.ส.เสียบบัตรและกดลงคะแนนให้ ซึ่งประธานสภาย้ำ ไม่ว่าจะเสียบแทนกันในกรณีใดก็ทำไม่ได้ แม้เครื่องลงคะแนนมีไม่พอก็ตาม ถือว่ามีความผิดทั้งสิ้น ท่าทีแบบนี้ทำเอาพวกเดียวกันค้อนขวับเลยทีเดียว
บอกไปวันก่อนปัญหาฝุ่นพีเอ็ม2.5 กับหน้ากากป้องกันของประชาชนรัฐบาลควรจะซื้อแจก ล่าสุดท่านผู้นำบอกประชาชนซื้อได้ก็ซื้อไปก่อนอย่ามารอรับแจกอย่างเดียว เพราะแบบนี้ไง ธนวัฒน์ วงศ์ไชย แกนนำกลุ่มจัดกิจกรรมไล่ลุงเลยสะกิดเตือน ไม่มีปัญหาแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นให้ประชาชนแต่เสนอหน้าจะไปแจกเงินให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นี่คือรัฐบาลเฮงซวยที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยมีมา แต่ไม่ว่าจะด่าแรงขนาดไหน ประเภทอย่างหนาเขาไม่สะทกสะท้านอยู่แล้ว