เอาอะไรมาขึ้น!
*จริง ๆ “โมนิก้า” มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น “บวก” เสมอมา แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่หุ้นไทยจะสวนชาวโลกแบบบูรณาการ ในเมื่อเห็นกันทนโท่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบั่นทอนเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดกับการที่ดัชนีพยายามทะยานขึ้นในแดนบวก ทั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงแป๊ด..แป๊ด และถูกกระชากอารมณ์ด้วยการหัวทิ่มกลับลงมาปิดในแดนลบ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*จริง ๆ “โมนิก้า” มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น “บวก” เสมอมา แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่หุ้นไทยจะสวนชาวโลกแบบบูรณาการ ในเมื่อเห็นกันทนโท่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบั่นทอนเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดกับการที่ดัชนีพยายามทะยานขึ้นในแดนบวก ทั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงแป๊ด..แป๊ด และถูกกระชากอารมณ์ด้วยการหัวทิ่มกลับลงมาปิดในแดนลบ
*ผนวกกับเมื่อมองดูจากความเชื่อมั่นในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ประกอบการชะลอการลงทุนกันเป็นแถว “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกกังวลกับการแกว่งตัวของดัชนีแบบเลื่อนลอยไปวัน ๆ เพราะเมื่อแกะดูไส้ในของแรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละรอบ มันกลายเป็นแรงซื้อสั้น ๆ ที่เข้ามาเล่นรอบ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้การเดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานแนวรับอันแข็งแกร่งบริเวณ 1,600 จุดเต็มไปด้วยความลำบากนะจะบอกให้
*เนื่องจากไม่มีข้อมูลในส่วนไหนมาซัพพอร์ตการทะยานขึ้นสักอย่าง การที่ดัชนีลงมาปิดที่ 1,513.26 จุด ลบไป 10.89 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 6.71 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ “โมนิก้า” บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. ก็เต็มไปด้วยสารพันปัญหา ตั้งแต่ระเบิดตูมแรกที่อิหร่าน ปัญหา PM 2.5 ต่อจากนั้นงบประมาณไม่ผ่าน ล่าสุดเจอวิกฤติเชื้อไวรัสโคโรนา และน่าจะตามติดมาด้วยภัยแล้งในไม่ช้านะคะ
*ประเด็นทั้งหมดเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องนำไปพิจารณาถึง “โอกาส” และ “ความเสี่ยง” มีมากขนาดไหน ? รวมทั้งการเด้งกลับของหุ้นรายตัวในเที่ยวนี้เกิดจาก “พื้นฐาน” ที่แน่นปึ้ก หรือเป็นเรื่อง “เทคนิค” หลังลงมาเยอะ จึงต้องวิเคราะห์เป็นข้อ ๆ เพื่อป้องกันการหลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่น “โมนิก้า” ถึงพยายามย้ำกับแฟนคลับว่า วันนี้มีหน้าที่ทำกำไรอย่างเดียว หากเห็นจังหวะดี ๆ ก็ลุยโลดทันทีเจ้าค่ะ
*เหมือนกับการอ่อนตัวของเสือนอนกิน AOT จากผลกระทบข้างต้นที่เกริ่นให้ดู มันเป็นช็อตที่เกิดขึ้นแค่ระยะสั้น ๆ หรือกินเวลาเนิ่นนาน ล้วนเป็นเรื่องที่ชี้ชะตาหุ้นตัวนี้โดยตรง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหันไปดูค่า P/E 40 เท่า ในปัจจุบัน เทียบกับปีก่อนที่เทรดบน P/E 47 เท่า มันเป็นจุดของการทยอยสะสมหุ้นหรือยัง ? และราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 68 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.01 พันล้านบาท มันโดนใจจริงอ๊ะป่าว!
*คล้ายกับกรณีของ TOP เด้งขึ้นมาปิดที่ 51.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท มันเป็นผลที่มาจากราคาหุ้นต่ำบุ๊กใช่ไหม ? และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็ควรประเมินว่าราคาหุ้นควรขึ้นไปยืนจุดไหน ? เพราะวันนี้เดี๊ยนไม่มีข้อมูลแบ็กอัพให้หุ้นไปต่อยาว ๆ ได้เลยสักอย่าง จึงไม่อยากให้นักเล่นหลงระเริงเพียงเพราะเห็นแสงสีเขียว ๆ วิบ ๆ วับ ๆ เต็มกระดานหุ้นนะตัวเอง
*อีกรายที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคงให้น้ำหนักไปยังน้องสวย BEAUTY หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.22 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 584.33 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เล่นเร็วเกินไปหน่อย และมีโอกาสที่นักเล่นจะพลาดแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่าคนที่เข้ามาเล่นเก๋าเกมกันทั้งนั้น จึงไม่ขอคอมเมนต์อะไรมากไปกว่าที่เป็นอยู่นะจะบอกให้
*ส่วนรายที่คอมเมนต์ได้เต็มปากเต็มคำ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นนิคมอย่าง AMATA หลังบรรดาแมงเม้าท์นินทากันสนุกสนานว่า ในเมื่องบประมาณยังไม่ผ่าน ระบบบริหารจัดการยังไม่โอเค ภาครัฐเอาแต่คุยโม้ไปเรื่อยเปื่อย จึงไม่มีใครเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้นยาว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 16.70 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 248.42 ล้านบาท มันใช่ของจริงไหม ?
*เช่นเดียวกับในรายของ CPALL เด้งขึ้นจากบริเวณจุดนัดพบแถว ๆ 70 บาทระหว่างวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ 71.25 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.05 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่นักเล่นต้องมองให้ครบทุกด้านก่อนจะเข้าไปลงทุน เพราะประเด็นการเติบโตของกำไรถือเป็นเรื่องที่ใช้ประเมินหุ้นตัวนี้ได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้ขาลุยลองไปทำการบ้านตรงนี้มาหน่อยนะจ๊ะ
*ปิดท้ายที่ PTG เป็นอีกรายที่ดีดบวกกลับขึ้นมาแบบไม่เกรงใจใคร การที่หุ้นยืนปิดที่ 13.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 311.14 ล้านบาท สำหรับ “โมนิก้า” แล้วยังมองว่าเป็นจุดที่ยังไม่น่าไว้ใจหรือจะปล่อยให้อารมณ์เป็นไปตามแรงกระเพื่อม เหตุผลเป็นเพราะหุ้นยังต้องฝ่าอีกหลายแนวต้านถึงจะสามารถกลับลำเป็นขาขึ้น หากใครไม่พร้อมจะเสี่ยงแนะนำให้ดูอยู่ห่าง ๆ ไปก่อนจะดีกว่านะเจ้าคะ