สังคมข่าวหุ้น
*…ใกล้ถึงจุดฟื้นตัวแล้วหรือยัง…
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
*…ใกล้ถึงจุดฟื้นตัวแล้วหรือยัง…
*…หุ้นไทยวานนี้เทคนิเคิลรีบาวด์ ขณะที่กูรูมองดัชนีหุ้นไทยใกล้ฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโคโรนามาระดับหนึ่ง จากสถิติตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา เกิดกรณี SET ย่ำฐานในระดับเส้นค่าเฉลี่ย 75 เดือน 1,524-1,500 จุด เกิดขึ้น 3 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งฟื้นตัวต่อเนื่องที่แนวรับนี้ ขณะที่ปี 2551 เป็นครั้งเดียวที่รีบาวด์และไหลลงต่อ ขณะที่ปัจจุบันดัชนีกำลังลงมาทดสอบแนวรับค่าเฉลี่ยที่ PER 15.9 เท่า เป็นจุดบ่งชี้ทั้งพื้นฐานและเทคนิคว่าใกล้จุดของการฟื้นตัวแล้ว อย่างไรก็ตามกรณีแย่สุดจะมีแนวรับ 1,460-1,480 จุด ซึ่งในช่วง 10 ปีหลัง ระดับนี้จะรับความเสี่ยงได้ทุกรอบ แนวรับ 1,515 จุด แนวต้าน 1,535 จุด…
*…หุ้นกลุ่มสนามบินและกลุ่มพลังงานขยับ หลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีนยืนยันกับนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าจีนมีความสามารถควบคุมไวรัสโคโรนาได้ ทำให้ตลาดฯ มีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นหลายตัวที่ได้รับผลกระทบไปก่อนหน้านี้ฟื้นขึ้น ทั้ง AOT, PTTEP, TOP, CPN จากแรงซื้อกลับของนักลงทุน…
*…KBANK ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้แบบระมัดระวังเหมือนแบงก์ใหญ่รายอื่น เพราะตั้งแต่ต้นปีก็มีปัญหาเข้ามารุมเร้าหลายเรื่อง ทั้งโรคระบาดโคโรนา และวิกฤตงบประมาณปี 2563 ดังนั้นผู้บริหารจึงไม่กล้าตั้งความหวังสูง ทำแบบพอเพียงไว้ก่อน ปีนี้เลยตั้งเป้าแค่เพิ่มขึ้น 4-6% โดยเน้นไปที่สินเชื่อรายย่อย และพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากปัญหาที่กล่าวมาคลี่คลายเร็ว โอกาสที่จะกลับมาโตกว่าที่คาดไว้ก็มีมาก…
*…นายแบงก์ใจดี สารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ล่าสุดออกมาตรการพิเศษช่วยเหลือภาคธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยเบื้องต้นธนาคารจะช่วยผ่อนคลายผลกระทบระยะสั้นผ่านมาตรการพักชำระเงินต้น (Grace Period) นานสูงสุด 6 เดือน และหากยื้ดเยื้อหรือรุนแรงมากกว่านี้ ไทยพาณิชย์ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพิ่มเติม สมเป็นแบงก์ที่อยู่เคียงข้างประชาชนมาอย่างยาวนานจริง ๆ…
*…SCC ปันผลในอัตรา 7.00 บาท งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 เม.ย.นี้ กำไรปี 2562 ลดลงแต่ก็ดีกว่านักวิเคราะห์คาดฯ ทำให้เงินปันผลน้อยลงตามไปด้วย เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ แต่ราคาช่วงนี้ลดลงมามากแล้ว จังหวะเข้าทยอยซื้อสะสมกินปันผลก็ถือว่าไม่เลว ถ้าเทียบกับเงินฝากธนาคารหรือพันธบัตรรัฐบาล…
*…เลขาฯ ก.ล.ต. “รื่นวดี” เตรียมคุมเข้มการออกตราสารหนี้ ภายในไตรมาสแรกนี้ หลังพบว่ากลุ่มตราสารหนี้ non-investment grade และตราสารหนี้ unrated มีสัดส่วน 6% ของตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด โดยจำกัดผู้เสนอขายวงแคบไม่เกิน 10 ราย ส่งงบทุกครึ่งปี จากเดิมปีละครั้ง และต้องรีบรายงานการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อย…
*…บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เงินสดในมือเหลือ เข้าซื้อกิจการของบริษัท คาลพิส โอสถสภา จำกัด (CO) ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าที่ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่ 40% จาก Asahi Group Holdings Southeast Asia Pte. Ltd. (ASHSEA) หุ้นส่วนกิจการร่วมค้าที่ถือหุ้นสัดส่วน 60% ด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 270 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัท และที่ขาดไม่ได้คือ เพิ่มอัตรากำไรให้ OSP ในอนาคต เป้าหมายราคา 50 บาท…
*…“จรีพร” บอสใหญ่ WHA ประกาศเดินหน้าแผนธุรกิจประจำปี 2563 ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 15% และคาดว่าอัตราผลกำไร EBITDA จะอยู่ที่ 40% แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว พร้อมตั้งเป้าขายที่ดิน 1,400 ไร่ และการสร้างโครงการใหม่ ยอดเช่าพื้นที่โลจิสติกส์รวม 250,000 ตร.ม. รวมทั้งการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT 150,000 ตร.ม. คาดการณ์จะมีการใช้งบประมาณในการลงทุนช่วงปี 2563-2567 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท งานนี้น้องแมงเม่าเอาใจช่วยสุด ๆ…
*…ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และนายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง บล.บัวหลวง บล.ภัทร และ บล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายฯ อีก 2 บริษัท ได้แก่ บล.กรุงศรี และ บล.ไทยพาณิชย์ รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 1 บริษัท ได้แก่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) CRC จะเปิดให้จองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค.และ 3 ก.พ. 2563 นี้ ใครมีหุ้น ROBINS ก็สามารถเอาไปแลกเป็นหุ้น CRC ได้นะ…
*…ปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดแผนลงทุนใหม่ตั้งแต่ปี 2563-2566 ไม่น้อยกว่า 11 โครงการ เกาะแนวเส้นทางขนส่งมวลชนที่สำคัญอย่างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท