สถานการณ์เผาจริง
“ปีหนู” ดูท่าจะเฮี้ยนได้ใจจริง ๆ เปิดศักราชใหม่มา ไม่ทันจะครบเดือนดี ก็มีพายุเศรษฐกิจเข้ามาถึง 4-5 ลูกซ้อน ๆ...ภัยแล้ง ค่าเงินบาท ฝุ่นผง PM2.5 ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรนา และซ้ำเติมด้วยงบประมาณ ฉบับเสียบบัตรแทนกัน
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
“ปีหนู” ดูท่าจะเฮี้ยนได้ใจจริง ๆ เปิดศักราชใหม่มา ไม่ทันจะครบเดือนดี ก็มีพายุเศรษฐกิจเข้ามาถึง 4-5 ลูกซ้อน ๆ…ภัยแล้ง ค่าเงินบาท ฝุ่นผง PM2.5 ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรนา และซ้ำเติมด้วยงบประมาณ ฉบับเสียบบัตรแทนกัน
แล้วอีก 11 เดือนที่เหลือจะต้องพบเจออะไรร้าย ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหนักหน่วงอีกก็ยังไม่รู้เลย
ไวรัสสายพันธุ์โรคซาร์ส ที่แพร่ระบาดจากจีนเมื่อ 16-17 ปีก่อน ใช้เวลา 3 เดือนก็พิชิตโรคร้ายหายสำเร็จ ประเทศจีนได้รับการยกย่องชมเชยจากประชาคมนานาชาติอย่างมากมาย ที่ใช้ความเด็ดขาดกล้าหาญ แก้ปัญหาซาร์สได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ส่วนประเทศไทยก็มีบทบาทเด่นไม่แพ้กัน ออกรับหน้าเป็นเจ้าภาพจัดงาน “ซาร์ส ซัมมิท” เพื่อระดมความร่วมมือจากนานาชาติ และยกระดับให้เป็น “วาระโลก” ที่ปัญหามิได้จำกัดแค่ในระดับภูมิภาคเอเชียเท่านั้น
มีมหาอำนาจโลกเข้าร่วมประชุมครั้งนั้นโดยพร้อมเพรียงทั้งพญาอินทรี มังกร หมีขาว ญี่ปุ่น ผู้นำชาติชั้นนำในประชาคมยุโรป เอเชีย และอาเซียน เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียง
แต่การแก้ปัญหาโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่วันนี้ ดูจะไม่ทะมัดทะแมงเท่าหวัดสายพันธุ์เก่าวันนั้นเอาเสียเลย ทั้งเงอะงะในการปฏิบัติการและปล่อยให้นายกรัฐมนตรี “ปล่อยไก่” ซ้ำซาก ความมาแตกเอาตอนบอกว่าไทยเตรียมพร้อมเอาเครื่องบินไปรับคนไทยมาเป็นเดือนแล้ว แต่จีนยังไม่ตอบอนุญาตกลับมา
ไม่ทันข้ามวันดีก็ได้เห็นเครื่องบินสหรัฐฯ และญี่ปุ่น บินปร๋อไปรับคนของเขากลับประเทศที่อู่ฮั่น ที่นายกฯ บอกว่าประเทศไทยเตรียมการแก้ปัญหามาเป็นเดือนแล้ว ก็ดูจะเกินเลยความจริงไปมาก เพราะทางการจีนเพิ่งจะออกมาแถลงโรคหวัดโคโรนาเอาเมื่อ 8 ม.ค. ที่ผ่านมานี้เอง
เกรงจะเป็นโรคระบาดมาจาก “ทูตดอน” ที่เคยปูดข่าวทางการอเมริกันส่งข่าวให้กระทรวงต่างประเทศไทยทราบ ก่อนใช้โดรนถล่มนายพลอิหร่านในอิรักหรือเปล่า ก็ไม่รู้สิ! อย่างฮาเลยล่ะ
ปัญหา “โคโรนา” เชื้อไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ จะหยุดการแพร่ระบาดได้เมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าอธิษฐานได้ก็อยากให้ยุติโดยไว ยิ่งใช้เวลาเร็วกว่าหรือเท่ากับตอนโรคซาร์ส 3 เดือนได้ ก็ยิ่งดี เพราะหากช้าไปคือความเสียหายของเศรษฐกิจโลก
รวมทั้งเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งดูจะเป็นเครื่องจักรเครื่องเดียวที่ยังคงทำงานอยู่
ปัญหาภัยแล้ง คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากการขุดบ่อบาดาลแก้แล้งแต่เพียงอย่างเดียวไปจนกว่าฤดูฝนเดือนพ.ค.-มิ.ย.จะมาถึง
น่าเศร้าใจยิ่งนักที่ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีแต่ “ราคาคุย” หากแต่ปราศจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำโดยแท้จริง ถึงได้อับจนทางแก้ปัญหาภัยแล้งในวันนี้ โปรดได้นำแผนบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการมาลงมือปฏิบัติจริงเถอะ แม้เวลาจะล่วงผ่านมานานแล้วก็ตาม
ปัญหาพ.ร.บ.งบประมาณล่าช้ามา 4 เดือนแล้ว อันเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจให้เลวร้ายแสนสาหัส อันที่จริงก็เกิดจากสันดานนักการเมืองซีกฝ่ายรัฐบาล ที่ทำอะไรก็ไม่ผิดจนเกิดความย่ามใจ เสียบบัตรแทนกันแบบโจ๋งครึ่ม ทีแรกก็นึกว่าคน-สองคน แต่เอาไปเอามา ดูจะทำกันเป็นขบวนการมากขึ้นทุกที
ต้นตอก็คือการเป็น “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” นั่นแหละ ถึงได้กระทำการทุกวิถีทาง เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการเป็นฝ่ายข้างมากไว้ให้ได้ ยังไม่สามารถจะยุบพรรคฝ่ายตรงข้ามได้ ก็ใช้วิธีเสียบบัตรแทนกันมันนี่ล่ะวะจนถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปว่า จะใช้กระบวนการยุติธรรมช่วยแก้ปัญหาแบบศรีธนญชัย
หรือจะไปเริ่มต้นใหม่ โดยฝ่ายค้านให้ความร่วมมือแปรญัตติเต็มสภา เพื่อให้มีงบประมาณออกมาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจที่กำลังหายใจรวยริน
สัญญาณเศรษฐกิจเผาจริง เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นทุกทีในปีหนู