BWG อัพแวลูขยะ.!

ถ้าพูดถึงหุ้นขยะ หลายคนจะนึกถึงบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับฉายา “หุ้นขยะทองคำ”


สำนักข่าวรัชดา

ถ้าพูดถึงหุ้นขยะ หลายคนจะนึกถึงบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับฉายา “หุ้นขยะทองคำ”

แต่ปัจจุบันทองเริ่มกร่อนไปแล้ว กลายเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมเฉพาะบรรดานักเก็งกำไรเท่านั้น

ที่จริงในแง่ปัจจัยพื้นฐาน BWG ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร ช่วงที่ผ่านมาโชว์รายได้ระดับ 2,000 ล้านบาท และกำไรที่ระดับ 200 ล้านบาททุกปี โดยมีธุรกิจรับจ้างกำจัดขยะอุตสาหกรรมแบบครบวงจรเป็นธุรกิจหลัก

รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม เป็นอีกเรือธงที่ BWG หวังช่วยหนุนพอร์ตรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่ง

ล่าสุด BWG ก็ได้ฤกษ์งามยามดี Spin-Off  บริษัทลูกบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC เพื่อเปิดเกมรุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอย่างเต็มตัว

ETC ฟังเผิน ๆ ไม่ใช่วงดนตรีชื่อดังที่หลายคนรู้จักหรอกนะ…แต่ ETC ในที่นี้เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วจำนวน 3 แห่ง รวมกำลังการผลิต 20.40 เมกะวัตต์ โดยเป้าหมายไม่ได้เน้นเฉพาะใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่จะรุกไปสู่พลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ

ดังนั้น เมื่อดูจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (2561-2580) หรือ PDP โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนยังมีอีกเยอะ ก็จะเป็นโอกาสในอนาคตของ ETC ที่จะเติบโต

ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินของ ETC

ก็ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ แตก…เพื่อโต นั่นเอง..!

แน่นอนว่า สิ่งที่ BWG จะได้กลับมาจากการ Spin-Off บริษัทลูกครั้งนี้ 1) เป็นการเอื้อต่อธุรกิจเดิม สามารถนำขยะอุตสาหกรรมไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น

และ 2) จะมีมูลค่าเพิ่มในเม็ดเงินลงทุนที่ BWG ลงทุนใน ETC

เนื่องจาก ETC ยังคงสถานะเป็นบริษัทลูกของ BWG จากการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม

ฟาก ETC ก็จะมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจาก BWG เนื่องจากมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น ทั้งจากการออกหุ้นกู้ การเพิ่มทุน หรือกู้เงินจากแบงก์

นั่นเท่ากับว่า ETC มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ผลตอบแทนที่จะกลับมาสู่ BWG ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในรูปของเงินปันผลก็จะมากขึ้น จากกำไรที่มากขึ้นเช่นกัน

แต่ต้องแอบเสียวเมื่อเห็นงบงวด 9 เดือนปี 2562 ของ BWG กำไรสุทธิลดฮวบเหลือแค่ 2 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,408 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 0.20%

ทำให้สุ่มเสี่ยงว่า ปี 2562 อาจพลิกมาขาดทุน..!

จึงน่าสนใจว่า ETC จะมาพลิกฟื้นหุ้นทองคำเปลวตัวนี้ ให้กลับมาเป็นทองคำรูปพรรณอีกครั้งได้หรือเปล่า..?

ก็เอาใจช่วยละกัน…นักลงทุนรายย่อยที่ติดหุ้น BWG อยู่ 13,784 ราย จะได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ซะที…

แต่ถ้ามองว่า เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อรอรับเงินปันผลที่มียีลด์อยู่ที่ 3.97%

ก็คงพอกล้อมแกล้มอยู่นะ…

…อิ อิ อิ…

 

Back to top button