ดีดกลับ 1,500 ยาก

วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงหลุด 1,500 จุดจนได้


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงหลุด 1,500 จุดจนได้

ช่วงเช้าดัชนีลงไปที่ระดับ 1,598 จุดก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้และยืนอยู่เหนือ 1,500 มาได้จนปิดตลาดเช้า

ส่วนบ่ายเปิดขึ้นมาทรงยังไม่ดี

หุ้นขนาดใหญ่มีแรงขายออกมาหลายไม้ต่อเนื่องและมาหนัก ๆ ในช่วงสี่โมงเย็นจนปิดตลาด

วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อนะ

แต่ไม่มากหรือเพียง 255 ล้านบาทเท่านั้น แทบจะไม่มีนัยสำคัญอะไร

ส่วนกองทุนซัดออกมาต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับพอร์ตโบรกเกอร์

คำถามคือดัชนีจะดีดกลับ 1,500 จุดได้หรือไม่

วิสัชนาก็ต้องถามกลับว่าจะเอาปัจจัยบวกอะไรมาช่วยดันดัชนีให้กลับขึ้นไปได้ล่ะ

เพราะมองไปรอบ ๆ ทั้งต่างประเทศในประเทศเรื่องลบ ๆ รุมเร้าเต็มไปหมด

อย่างไวรัสโคโรนา หากยังมียอดคนติดเชื้อเพิ่มอยู่

นั่นก็คงยังเป็นปัจจัยกดดันต่อไป

ข้อมูลล่าสุดอัตราการเสียชีวิตรวดเร็วแซงโรคซาร์สไปแล้ว

ปัจจัยลบแบบนี้กระทบเรื่องการท่องเที่ยวการใช้จ่ายของผู้คนแน่ ๆ และที่ตามมาคือเศรษฐกิจโดยรวมจะซบเซาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย

ทว่าจะกระทบไปทั่วโลก

อย่างวานนี้หุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ร่วงระเนระนาดนำโดย CPALL BJC MAKRO และ ROBINS

หุ้นกลุ่มส่งออกเกี่ยวกับอาหาร CPF นี่ก็ลงหนักจริง ๆ กว่า 6.67%

วานนี้คุยกับนักวิเคราะห์หลายคน

เสียงตอบกลับมาแบบเอื่อย ๆ มาก

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์แม้  KBANK จะมีปัจจัยหนุนจากซื้อหุ้นคืนและปันผล 4.50 บาท

แต่หากคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. ลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 1.25% มาเหลือ 1.00%

นี่ก็ไม่เป็นผลดีต่อแบงก์ขนาดใหญ่

เพราะจะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยหรือ NIM แคบลงไปอีกแม้จะมีนโยบายซื้อหุ้นคืนและจ่ายปันผลสูงก็เหอะ

นั่นแสดงว่า “ปัจจัยลบ” มีแรงกดดันมากกว่า “ปัจจัยบวก”

หุ้นแบงก์ตัวอื่น ๆ ก็ซึม ๆ ลงมาเช่นกัน

ทั้ง BBL SCB KTB และ TMB

SCB พอหลุด 100 บาทแล้ว นี่ทรงกราฟเสียไปเลย

หากจะให้ดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 100 บาทอีกครั้งน่าจะยังไม่ใช่เวลานี้

ส่วน TMB หลุดมาที่ 1.40 บาทเท่ากับราคาทีเอสอาร์พอดี

เห็นสภาพกลุ่มแบงก์แบบนี้แล้วก็คงยากที่ดัชนีจะดีดกลับไปที่ 1,500 จุด

แต่การที่ดอกเบี้ยลงมาก็ใช่ว่าจะเป็นปัจจัยลบไปทั้งหมด

ในภาพรวมอาจจะพอเป็นปัจจัยบวกได้บ้างกับหุ้นในหลายกลุ่มเช่นไฟแนนซ์ เพราะต้นทุนการเงินจะลดลงไปอีกหรือกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยลง

แต่อย่างว่าละก็คงต้องชั่งน้ำหนักกันดี ๆ ระหว่างปัจจัยบวกและลบปัจจัยไหนมีแรงมากกว่ากันกับหุ้นตัวนั้น ๆ

ส่วนผลประกอบการบจ.ไตรมาส 4/62

ราคาหุ้นหลายตัวค่อนข้างตอบรับไปแล้ว

เว้นแต่จะออกมาดีกว่าคาดการณ์เท่านั้นแหละที่จะทำให้หุ้นนั้น ๆ ดีดขึ้นไปได้อีก

สำหรับแนวโน้มตลาดวันนี้เผื่อว่าดัชนีน่าจะลงไปอีกตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และถัดไปอีกซัก 1-2 วันอาจจะดีดกลับทางเทคนิคได้บ้าง

ทางออกที่ดีคือส่องหุ้นเป็นตัว ๆ ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หาจังหวะเข้าออกดูสัญญาณเทคนิคกันไป

Back to top button