หุ้นไฟฟ้ากระตุก

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้ “โมนิก้า” อยากดูเรื่องการลงทุนใน “ตลาดหุ้น” มากกว่าเรื่องของ “ชาวบ้าน” จึงขอเพลา ๆ อาการสอดรู้สอดเห็นไปสักระยะหนึ่ง (จริง ๆ ตอนนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับดีลเยอะมาก และยังมีเรื่องเกี่ยวกับเสียงบ่นของบมจ. เพื่อส่งตรงไปถึงตลท. เยอะเช่นกัน) จึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงอดใจรออีกสักนิด เพราะวันนี้ควรยึดเรื่องปัจจัยพื้นฐานเพื่อใช้เป็นธงนำในการชี้ให้นักเล่นมองเห็นโอกาสเคาะขวาไงล่ะคะ

*ตรงนี้เป็นเรื่องที่อยากทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษ เพราะตลาดหุ้นไทยไม่มีทางที่จะทะยานขึ้นไปได้เรื่อย ๆ โดยปราศจากสตอรี่ที่จับต้องได้เป็นตัวหนุน “โมนิก้า” ถึงเข้าใจเหตุผลการโยกหุ้นไปมาของบรรดากองทุนตัวแสบ เพราะหุ้นบางตัวถึงเวลาต้องพักฐานเพื่อรอข่าวดีซัพพอร์ต ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดช่องให้นักเล่นก๊วนใหม่เข้ามารับของ เพื่อเล่นหุ้นรอบใหม่ก็เท่านั้นเองจ้า!

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” เข้าใจอาการฉวัดเฉวียนของดัชนีได้เป็นอย่างดี และมองการยืนปิดที่ 1,535.79 จุด บวกไป 1.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.93 หมื่นล้านบาท ท่ามกลาง P/E 18.50 เท่า ยังเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องกลับไปคิดเป็นการบ้านอีกครั้งหนึ่งว่า เลเวลของตลาดในระดับนี้ยังมีแก๊ปให้วิ่งต่อไหม ? พร้อมกันนี้อย่าลืมว่าหุ้นไฟฟ้าโดนถล่มหนักในเที่ยวนี้ ก็มาจากรูปแบบการไล่ราคาที่เร็วไปหน่อย แต่ในอนาคตจะวิ่งกลับขึ้นมายืนจุดนี้อีกนะคะ

*โดยเฉพาะในรายของ GULF โดนสาดหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 187 บาท ลบไป 10 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.47 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะการโยกพอร์ตของนักเล่นกลุ่มสถาบัน ไม่มีประเด็นสลับซับซ้อนจนต้องนำไปคิดให้ปวดกบาล เพราะเมื่อมองดูจากค่า P/E 92 เท่า ก็กลายเป็นไฟต์บังคับที่ต้องขายออกไปก่อน และรอจังหวะซื้อใหม่ในช่วงใกล้ประกาศงบนะตัวเอง

*สตอรี่ดังกล่าวคล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหุ้น BGRIM เพราะเมื่อเหลือบมองดูจากค่า P/E 78 เท่า ก็มีเหตุผลมากเพียงพอที่ทำให้นักเล่นขายหุ้นเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกลำบากใจเมื่อเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ 57 บาท ลบไป 4.75 บาท หรือลงไป 7.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.63 พันล้านบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นคิวของพวกเคาะสั้น ๆ ไล่ราคาขึ้นมาแบบเนิบ ๆ แต่ตอนนี้เป็นคิวของพวกที่ถือหุ้นมานาน และเริ่มทำการ take profit เต็มตัว จึงเกิดเอฟเฟกต์รุนแรงเกินไปหน่อย..อิอิอิ

*ส่วนในรายของ GPSC อาจมีอาการหนักหนาสาหัสกว่ารายข้างต้นก็จริง แต่นั่นเป็นเพราะกองเชียร์ไม่เหนียวแน่นเหมือนกับ 2 รายข้างต้น “โมนิก้า” ถึงเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 76.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.14 พันล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เองที่สอนให้เดี๊ยนเข้าใจสัจธรรมที่ว่า แข่งเรือแข่งพายยังพอได้..แต่แข่งบุญแข่งวาสนาคงไม่ได้พะยะค่ะ

*อีกรายที่มีอาการไม่สู้ดีเหมือนกันคงโฟกัสไปที่ RATCH หลังจากมีอาการไหลลงจากระดับ 80 บาท พร้อมกับลงมาทำโลว์ที่บริเวณ 66 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปแถว ๆ 75 บาท ต่อจากนั้นก็ไหลลงอีกครั้ง จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 65 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 478 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตวัดใจพอสมควรสำหรับพวกร้อนวิชา เพราะมองดูจากสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ไหวจริง ๆ นะคะ

*เมื่อเป็นเช่นนี้อย่าได้แปลกใจที่หุ้น EGCO โดนพวกกองทุนรินหุ้นออกเป็นเวลา 2 เดือนกว่า เพราะมันไม่มีมุมที่ให้เล่นต่อจริง ๆ ผนวกกับหุ้นหมดรอบลงพอดี (เส้น 10 วัน 25 วัน 75 วัน และ 200 วัน หัวทิ่มกันเป็นแถว) “โมนิก้า” ถึงมองว่า ต้องเซ็ตเกมกันอีกนานกว่าหุ้นจะขึ้นรอบใหม่ วันนี้ถึงต้องปล่อยไปแล้วแต่เวรแต่กรรม (แมงเม่าไม่เดือดร้อน เพราะไม่ใช่ตัวหลักที่เล่น) และอยากให้มองการยืนปิดที่ 304 บาท ลบไป 8 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 575 ล้านบาท ไม่ใช่จุดต่ำสุดของเที่ยวนี้กระมัง!

*ส่วนรายที่เกี่ยวข้องกับพี่เม่าค่อนข้างชัดเจน “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่ TSE มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นหุ้นไฟฟ้าต่ำสิบที่รายย่อยเล่นกันเยอะมาก ผนวกกับหุ้นเพิ่งโดนทิ้งหนักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จึงเป็นเรื่องน่าคิดมาก ๆ ว่า วันนี้จะโดนทิ้งวันที่ 3 หรือเปล่า ? เพราะการลงมายืนปิดที่ 3.08 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 8.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 167 ล้านบาท มันเป็นวอลุ่มทิ้งที่เยอะกว่าวอลุ่มซื้อ..ส่วนจะเป็นจริงเหมือนที่เดี๊ยนคอมเมนต์ไหม ? วันนี้ได้เห็นดำเห็นแดงกันอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ