เคาะตามใจชอบ!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ถ้านับกันจริง ๆ จะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยก็แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ แบบนี้มาเป็นเวลานาน จึงต้องดูช็อตต่อไปว่าการขึ้นมาทำ double top ที่บริเวณ 1,550 จุด จะเป็นการ “ขึ้นเพื่อไป” หรือ “ขึ้นเพื่อลง” ซึ่งเป็นช็อตที่เกิดขึ้นวนเวียนมาแล้วหลายครั้ง เพียงแต่ในช่วงหลัง ๆ มีแนวโน้มไปในทางลบมากกว่า “โมนิก้า” ถึงอยากให้บรรดาแฟนคลับมองย้อนกลับไปถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้..เหมือนกับที่เดี๊ยนเม้าท์ให้ฟังไหมคะ

*โดยเฉพาะการซื้อกลับของกองทุนตัวแสบวานนี้ เทียบกับวันก่อนเพิ่งกระหน่ำขายทิ้งไปแบบแหม็บ ๆ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเกมที่ต้องใช้ความไวมากเป็นพิเศษ เพราะไม่สามารถใช้ทฤษฎีที่ร่ำเรียนมาอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เดี๊ยนถึงรู้สึกงงกับการถีบตัวขึ้นของหุ้นบางตัวในช่วงเวลานี้ และขอไหลตามน้ำไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองนะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ 1,539.84 จุด บวกไป 15.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.48 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นจุดที่คาดหวังได้ว่าวันนี้หุ้นน่าจะไปต่อ! อันเป็นผลมาจากโมเมนตัมหลายอย่างดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในมุมของการโหวตงบประมาณ กลายเป็นยาโด๊ปชั้นเซียนที่ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์เต็ม ๆ บรรยากาศการลงทุนถึงสุดสวิงริงโก้อีโต้บานเจ้าค่ะ

*เด่นเกินหน้าเกินตากว่าใคร “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยังแบงก์ตราใบโพธิ์ SCB เพื่อชี้ให้เห็นราคาหุ้นที่ต่ำกว่าบุ๊ก คือโอกาสของการเล่นรอบ และการที่หุ้นยืนปิดในระดับ 101 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.43 พันล้านบาท ย่อมเป็นจุดที่เย้ายวนใจมากเหลือเกิน เพราะเมื่อเทียบกับบุ๊กในระดับ 116 บาท มันไม่มีประเด็นที่ต้องวอร์รี่เลยจริงไหมคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ WHA เด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 3.42 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 425 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการ follow buy เพื่อเกาะกระแสหุ้นที่ได้รับผลดีจากการโหวตงบประมาณรอบใหม่ ผนวกกับหุ้นเพิ่งตีกลับแบบจริงจังได้เป็นวันแรก เดี๊ยนเลยคิดว่าน่าจะมีช็อตให้แฟนคลับได้เล่นต่ออีกระยะหนึ่งนะตัวเอง

*ประเด็นข้างต้นเหมือนกับการวิ่งขึ้นของหุ้นสุดเลิฟ EA เพราะเมื่อดูจากกำไรที่โตทุกปีเป็นฐานในการคำนวณ ทุกคนก็คงมองเหมือนกันว่า ราคาหุ้นควรไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน “โมนิก้า” เลยอยากให้แฟนคลับนำข้อมูลไปประเมินกันอีกทีว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 49.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.20 พันล้านบาท ยังมีโอกาสไปต่อแรงขนาดไหนนะจ๊ะ

*ขนาดหุ้น KCE เม้าท์กันให้แซ่ดถึงอาการโอเวอร์แวลูสุด ๆ วานนี้กลับเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 22.40 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 10.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาทแบบชิว ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่อยากแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ? เพราะในช่วงที่ผ่านมาก็มีข่าวแพร่งพรายออกมาไม่ขาดสายว่า ออเดอร์สินค้าเยอะขึ้น และมาร์จิ้นสินค้าดีขึ้น เลยเชื่อกันว่ากำไรปีนี้จะสวยสดงดงามนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีโอกาสทำผลงานได้เด็ดดวงในปีนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมหันไปมองดาวเด่นที่มีเรื่องของ “รส กลิ่น สี” อย่างหุ้น RBF เพื่อทำให้นักเล่นได้เห็นผู้ประกอบการหนึ่งเดียวของไทยที่แข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติได้แบบสบาย ๆ เดี๊ยนถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่บริเวณ 4.64 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 117 ล้านบาท ย่อมเป็นฐานใหม่ที่ทำให้หุ้นขึ้นไป new high ไงล่ะคะ

*ส่วนรายที่ขึ้นแรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอย่าง DOD กลายเป็นช็อตที่ทำให้แมงเม่าตกตะลึงอย่างหนักในห้วงเวลานี้ และพากันเช็กข่าวให้วุ่นว่า เกิดจากฝีมือก๊วนไหน ? “โมนิก้า” กลับมองเป็นเรื่องของความชอบของนักเล่นสายฮาร์ดคอร์ ไม่มีความจำเป็นต้องหาเหตุผลอื่นใดมาซัพพอร์ตความคิดของตัวเอง เพราะรู้แค่ว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ต่อจากนั้นจะเข้าใจถึงการขึ้นมาปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 14.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาทเจ้าค่ะ

*คล้ายกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น GL จนสุดท้ายขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 4.64 บาท บวกไป 0.62 บาท หรือขึ้นไป 15.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วกลางเดือนก่อน ต่อจากนั้นราคาหุ้นก็รูดลงมากองที่เดิม “โมนิก้า” จึงไม่สามารถสรรหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ เพราะมันไม่มีอะไรให้เม้าท์ถึงจริง ๆ นะคะ