ศึก 2 อุดมการณ์

อย่าตื่นเต้นไป พลังนักเรียนนักศึกษายังล้มรัฐบาลไม่ได้หรอก นี่เป็นแค่ตอนแรกของหนังซีรีส์เรื่องยาว ซึ่งพอเปิดตัวพระเอกนางเอก ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีตัวโกงตัวร้ายนางอิจฉาออกมาขัดขวาง เช่น หาว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง วันหนึ่งก็ตำหนิ ทำไมไม่ใส่หน้ากาก อีกวันกลับจะอ้างโควิด-19 ยับยั้งการชุมนุม


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

อย่าตื่นเต้นไป พลังนักเรียนนักศึกษายังล้มรัฐบาลไม่ได้หรอก นี่เป็นแค่ตอนแรกของหนังซีรีส์เรื่องยาว ซึ่งพอเปิดตัวพระเอกนางเอก ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีตัวโกงตัวร้ายนางอิจฉาออกมาขัดขวาง เช่น หาว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง วันหนึ่งก็ตำหนิ ทำไมไม่ใส่หน้ากาก อีกวันกลับจะอ้างโควิด-19 ยับยั้งการชุมนุม

บ้างก็อ้างความปรารถนาดี พลังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้ใหญ่งี่เง่า เป่านกหวีดชัตดาวน์ เป็นเครื่องมือรัฐประหารจนบ้านเมืองฉิบหาย บ้างก็เตือนเด็กให้คิดถึงพ่อแม่ ออกมาม็อบจะถูกกาหัว จากมหาวิทยาลัย จากฝ่ายความมั่นคง เดี๋ยวก็ถูกตำรวจจับ เดี๋ยวก็ถูกทหารยิง เดี๋ยวก็มีมือที่สาม สร้างสถานการณ์ให้วุ่นวาย เรียนหนังสือให้จบก่อน ค่อยมาทำงานให้สังคม

ฟังแล้วขำกลิ้ง พูดกันอย่างนี้ตั้งแต่สมัยเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ยังเป็นหนุ่ม

พวกที่เชื่อว่านักเรียนนักศึกษาถูกหลอก มีเบื้องหลัง หรือเป็นแฟชั่น เดี๋ยวก็เลิก คือพวกปิดหูปิดตาไม่ยอมรับว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นจริง อย่างรุนแรง ระหว่างรัฐอนุรักษนิยมถอยหลัง กับอุดมการณ์เสรีของคนรุ่นใหม่

ปรากฏการณ์ที่นิกเกอิเอเชี่ยนรีวิว เรียกว่า Youthquake เกิดเพราะรัฐประหาร 2557 นำประเทศถอยหลัง อำนาจอนุรักษนิยมขยายตัว ครอบงำทุกด้าน ทั้งทางการเมือง วัฒนธรรม โครงสร้างอำนาจ เบ็ดเสร็จผูกขาด ซึ่งขัดกับความต้องการและวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่เติบโตมาอย่างปัจเจกชน ในโลกยุค 4G 5G สื่อสารออนไลน์

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นชัด แบบดราม่าออนไลน์ ผอ.ย้ายมาใหม่ โรงเรียนสั่งนักเรียนเข้าแถวกราบไหว้ต้อนรับ นี่ขัดแย้งรุนแรงกับวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใช่ไม่เคารพผู้ใหญ่ ถ้า ผอ.เก่ง ดี เป็นที่รัก ตอนย้ายไปก็จะมีนักเรียนร่ำไห้อาลัย แม้อาจไม่ก้มกราบ แต่ก็แสดงความเคารพรักในแบบของเขา

ยุค คสช.ที่ผ่านมา มีคนรุ่นใหม่เปรียบเปรยว่า เหมือนหัวหน้ายามมายึดอำนาจบริหารแทน ผอ. บริหารได้สุดยอดน้ำตาไหลพราก ๆ  ชอบพูดหน้าเสาธงให้โอวาททุกวัน น่าเบื่อ แต่เป็นคนเกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ เถียงไม่ได้ มีไม้เรียวกายสิทธิ์ กระนั้น บางคนก็ยังรักเทิดทูนโรงเรียนมาก ๆ ใครบ่นว่าห่วยไม่ได้ โดนข้อหา “ชังโรงเรียน”

ถ้าเทียบโรงเรียนเป็นประเทศ ยุค คสช.ได้ฟื้นรัฐราชการเป็นใหญ่ รัฐเป็นบิดา ออกกฎระเบียบจู้จี้จุกจิก สอนสั่ง คุณพ่อรู้ดี ให้ท่องค่านิยม 12 ประการ ตีกรอบความคิด ไม่เฉพาะทางการเมือง สังคม วัฒนธรรม ในทางเศรษฐกิจก็ รัฐจัดให้ แต่กลายเป็นทุนนิยมโดยรัฐ

ซ้ำร้าย รัฐราชการไทยยังไร้ประสิทธิภาพ เทอะทะ ปรับตัวไม่ทันความเปลี่ยนแปลง เจ้าขุนมูลนาย ยึดติดระเบียบ พิธีกรรม ไม่ใช่รัฐบริการแบบสิงคโปร์ หรือจีน ที่ยังมีประสิทธิภาพกว่า

คนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาเป็นปัจเจกชน ในโลกยุค Disruption ชีวิตไม่มีความมั่นคง ต้องปรับตัวอยู่ตลอด จึงมองว่าโครงสร้างรัฐและผู้นำอย่างนี้ จะทำให้พวกเขาไม่รอด #ผนงรจตกม จึงโดนใจเป็นไฟลามทุ่ง โดยการเกิดขึ้นและการยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นตัว catalyst

ม็อบนักเรียนนักศึกษาวันนี้คงยังล้มรัฐบาลไม่ได้ อาจถูกปิดกั้น ยับยั้ง ถูกทำลายด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ไม่จบแน่ นักเรียนแต่ละรุ่น ๆ ที่โตมา จะยิ่งเสริมเติมไฟ

ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังแย่หนัก ภาพลักษณ์รัฐบาลหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการกวาดต้อน ส.ส. ก็ตกต่ำ แก๊งก๊วนการเมืองกดดันให้ปรับ ครม.แย่งเก้าอี้ มรสุมจะรุมเร้าแทบทุกด้าน

การเมืองอย่างนี้ก็จะย้อนไปกดดันเศรษฐกิจ เพราะไม่มีใครมั่นใจ ว่าระบอบอำนาจนี้จะลงเอยอย่างไร ไม่มีใครมองออก ว่าพลังสองฝ่ายในสังคมจะหาจุดลงตัวได้แบบไหน

 

Back to top button