ต้อง ‘จำกัด’ นักท่องเที่ยว
วานนี้ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มฟื้นตัว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มฟื้นตัว
ตลาดหุ้นในเอเชียหลายแห่ง ก็เริ่มฟื้นตัวเช่นกัน
ส่วนของตลาดหุ้นไทย นักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ เริ่มกลับมาซื้อ (2,747 ล้านบาท) เช่นเดียวกับพอร์ตโบรกฯ และรายย่อย ที่ต่างซื้อสุทธิเช่นกัน
ส่วนต่างชาติยังขายต่อเนื่องอีกกว่า 4,300 ล้านบาท
ต่างชาตินี่ก็คงต้องปล่อยเขาไป
ทว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทย ยังคงกังวลกับไวรัสโควิด-19 อยู่ค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะจำนวนตัวเลขผู้ป่วยในประเทศที่ขยับเพิ่ม
แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการควบคุมบุคคลที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง 7-8 ประเทศ และเมื่อกลับเข้าประเทศจะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
แต่เป็นลักษณะการขอความร่วมมือมากกว่า
มากกว่าที่จะบังคับใช้กฎหมาย
มีประเด็นที่เป็นคำถามเกิดขึ้นในวงกว้าง
นั่นคือ คนไทยที่เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง และต้องกักตัวเองเมื่อกลับเข้ามานั้น
กฎเกณฑ์นี้กลับไม่นำมาใช้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะมีการตรวจเพียงแค่ตรงจุดคัดกรองยังสนามบินต่าง ๆ เท่านั้น
คำถามคือว่า ทำไมถึงไม่มีนโยบาย หรือออกกฎไปเลยว่า บุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศนั้น ๆ หรือคนไทย
ทุกคนจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ดำเนินการอยู่ในตอนนี้
เข้าใจว่า รัฐบาลเองเกรงว่าจะกระทบกับรายได้จากการท่องเที่ยว
และส่งผลไปยังตัวเลขจีดีพี ที่อาจจะวูบหนักกว่าที่ประเมินเอาไว้
เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของจีดีพีในประเทศไทย
ประเด็นนี้รัฐบาลจะต้องดีดลูกคิดคำนวณความเสียหายให้ดี ๆ ว่า ระหว่างยอมเจ็บในระยะเวลาสั้น ๆ หรือว่าเลือกที่จะเสี่ยงดวงเอาว่ามีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อไวรัสฯ แล้วหลุดรอดเข้ามา แล้วกลับมาสร้างความเสียหายในระยะยาว
แบบไหนควรที่จะเหมาะมากกว่ากัน
หากดูจากกระแสของสังคม ตามโซเชียลต่าง ๆ แล้ว
ต้องยอมรับว่า ทุกคนต้องการให้รัฐบาล “บล็อก” นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
แต่เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะว่าไปแล้ว ตอนนี้ ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว
ทั้งโรงแรม และร้านอาหารต่าง ๆ
จากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก
ล่าสุด แบงก์ชาติ จับมือแบงก์พาณิชย์ ให้ยืดการพักชำระหนี้ หรือยืดการชำระหนี้ออกไปอีก
หรือลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
และกำหนดเป็นมาตรการชั่วคราวระยะเวลา 2 ปี
ในด้านของผู้ประกอบการ หากได้รับการช่วยเหลือแบบนี้ ก็น่าจะพอช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้บ้าง
ส่วนของ (รายได้) ภาครัฐเองก็ต้อง หาวิธีบริหารจัดการกันดู ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มเติม
ทั้งการปรับลดภาษีอะไรต่าง ๆ รวมทั้งแวต
ไม่ใช่มามัวแต่ “งกเงิน” จากการท่องเที่ยว
รัฐบาลต้องยอมเจ็บเพื่อที่จะจบนั่นแหละ
หรือที่ยังปล่อยให้นักท่องเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามาเดินเฉิดฉายได้อยู่เวลานี้
มีนัยเพื่อต้องการอุ้มหรือประคองธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว (รายใหญ่) หรือเปล่า