CBG ก้าวข้ามชูกำลัง.!

สำนักข่าวรัชดา

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เป็นหุ้นเครื่องดื่มชูกำลังที่ถูกตั้งความหวังไว้สูง…ทำให้ช่วงที่ผ่านมามักเห็นปรากฏการณ์หุ้น CBG วิ่งด้วยความร้อนแรง ประหนึ่งเป็นควายแดงตกมันเป็นระยะ ๆ

แต่หากผลงานไตรมาสไหนไม่เข้าตา…ควายตัวนี้ก็จะกลายสภาพเป็นควายติดโรคทันที

เห็นได้ชัดจากงบงวดปี 2562 ทั้ง ๆ ที่โชว์กำไรสุทธิสูงถึง 2,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,158 ล้านบาท แต่หุ้นกลับถูกเทขายแบบไม่ยั้งมือ เพียงเพราะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้…เลยไม่สบอารมณ์นักลงทุน

เนื่องจากกำไรที่พุ่งกระฉูด ไม่ได้มาจากยอดขายที่มากขึ้น เพราะรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.5% อยู่ที่ 14,933 ล้านบาทเท่านั้น

แต่เกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง…โดยค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารลดลง 16.4% อยู่ที่ 2,753 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายภายใต้การดำเนินงานของ ICUK สำหรับตลาดในประเทศอังกฤษลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 5,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 38.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 32%

นั่นเท่ากับว่า CBG โตจากการลดต้นทุนเพียงขาเดียว..!!

ที่จริงต้นทุนลดลงเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่…ถ้ายอดขายไม่โต กำไรก็จะนิ่ง ก็จะไม่เห็นการ Growth ในระยะต่อไป

ก็ไม่รู้ว่า CBG เห็นถึงข้อจำกัดของเครื่องดื่มชูกำลัง ที่อาจไม่ชูกำไรได้เหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า..?

จึงหันไปแตกไลน์สู่เครื่องดื่ม Functional Drinks ด้วยการทุ่มเงิน 200 ล้านบาท ตั้งบริษัทย่อย บริษัท เอเชียคาราบาวเวนเจอร์ จำกัด (ACV) ทำธุรกิจโฮลดิ้ง เพื่อเข้าลงทุนในบริษัท เอ วู้ดดี้ ดริงค์ จำกัด (AWD) ร่วมกับนายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ พิธีกรชื่อดัง…

การจับมือกับวู้ดดี้ ก็น่าจะมาช่วยเสริมเรื่องการตลาด เพราะอย่าลืมว่า วู้ดดี้ เคยสร้างปรากฏการณ์ขายกระทะโคเรียคิงให้โด่งดังมาแล้ว…ครั้งนี้ก็น่าจะช่วยสร้างสีสันในมุมการตลาดได้เช่นกัน..!!

นอกจากนี้ CBG ยังได้ตั้ง บริษัท เอเชีย แพ็คเกจจิ้ง แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เพื่อทำธุรกิจผลิต จำหน่าย รับจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์ทุกชนิดอีกด้วย

เท่ากับว่า จะทำให้ CBG มีไลน์การผลิตที่ครบวงจร หลังจากก่อนหน้านี้สร้างโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมไปแล้ว

ทำให้ CBG ไม่ต้องไปพึ่งพาบริษัทอื่นอีกต่อไป…ก็ถือเป็นการบริหารจัดการในเชิงต้นทุน…

แต่อาจทำให้ CBG ต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะลำพังจะอยู่แค่ตลาดในประเทศ ตลาด CLMV หรืออังกฤษ คงไม่ได้…ต้องหาลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน ไม่งั้นจะกลายเป็นเตี้ยอุ้มค่อมไป

เอ๊ะ…แสดงว่า CBG กำลังก้าวข้ามเครื่องดื่มชูกำลังไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ แล้วสินะ…

น่าจับตาว่า เครื่องดื่ม Functional Drinks และธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะช่วยหนุนการเติบโตของ CBG ได้มากน้อยแค่ไหน..?

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ หลังจากก่อนหน้านี้ CBG ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลถ้วยลีกคัพของอังกฤษ หรือ “คาราบาวคัพ” จนสร้างแบรนด์ในตลาดอังกฤษได้สำเร็จแล้ว

แต่ยังไม่เห็น CBG เข้าไปจับกีฬา Extreme เหมือนกรณีแบรนด์กระทิงแดง หรือ เรดบลู ที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันในสนามต่าง ๆ

นี่ถ้า “เจ้าสัวเสถียร เศรษฐสิทธิ์” คิดการใหญ่เดินตามรอยแบรนด์กระทิงแดง อาจช่วยให้ CBG เปล่งรัศมีได้มากโขเชียวละ…

…อิ อิ อิ…