ตายกันหมดก็ยังโง่
ประยุทธ์สั่งเด้งอธิบดีกรมการค้าภายในฉับพลัน ทั้งที่ตอนเช้ายังร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทั้งที่เพิ่งให้สัมภาษณ์ร่วมกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แต่ไม่ถึงชั่วโมงก็มีคำสั่งด่วน อ้างว่อสร้างความมั่นใจ เาเพื่พราะมี “ประเด็นทางสังคม” เกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัย
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ประยุทธ์สั่งเด้งอธิบดีกรมการค้าภายในฉับพลัน ทั้งที่ตอนเช้ายังร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทั้งที่เพิ่งให้สัมภาษณ์ร่วมกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ แต่ไม่ถึงชั่วโมงก็มีคำสั่งด่วน อ้างว่อสร้างความมั่นใจ เาเพื่พราะมี “ประเด็นทางสังคม” เกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัย
นี่จะสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือให้กับท่านผู้นำหรือไม่
ใช่เลย อธิบดีกรมการค้าภายในทำให้ประชาชนส่ายหน้า เพราะไปฟ้องโฆษกกรมศุลกากร ฐานแถลงตัวเลขส่งออกหน้ากากผิด แถมมีข่าวจะให้สมาคมร้านขายยาขอโทษ แม้ท่านปฏิเสธ
นั่นคือประชาชนเห็นว่าอธิบดีเอาแต่ปกป้องตัวเอง ปกป้องหน่วยงาน ทั้งที่การทำงานมีปัญหา กรมการค้าภายในเข้าไปควบคุมหน้ากาก ควบคุมอย่างไรไม่ทราบ โรงพยาบาลขาดแคลน ประชาชนหาซื้อไม่ได้ แต่มีการกักตุนจริงหรือไม่ เป็นความผิดอธิบดีหรือไม่ ก็ยังไม่ชัด
ในทางการเมืองจึงขำ ๆ เพราะก่อนหน้านี้เพจแหม่มโพธิ์ดำ แฉคนที่เกี่ยวโยงกับผู้ติดตาม “รัฐมนตรีแป้ง” โพสต์ขายหน้ากาก 200 ล้านชิ้น จน ส.ส.ปชป.ออกมากดดันให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล แต่รัฐมนตรีหาว่ามีการตัดต่อ และตำรวจก็แจ้งข้อหา “เสี่ยบอย คนซื่อ” แค่โพสต์ขี้โม้ แต่พอมีทนายคนดังกล่าวหาที่ปรึกษารัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับการกักตุน ก็ย้ายอธิบดีทันที
ความจริงเป็นอย่างไร เขาเล่นอะไรกัน ต้องติดตามต่อไป แต่ถามว่าย้ายอธิบดีแล้วเรียกความเชื่อมั่นให้ประยุทธ์หรือไม่ เห็นจะยังอีกไกล
ประชาชนไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้วางใจรัฐบาล มองเป็น “รัฐล้มเหลว” ไม่ใช่แค่ปัญหาหน้ากากอนามัย แต่เป็นปัญหาประสิทธิภาพ การตัดสินใจ การให้ข้อมูลข่าวสาร ในภาพรวมทั้งหมด
ที่คนไทย Panic แห่กักตุนข้าวสารอาหารแห้ง จนเกลี้ยงซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นเพราะเชื่อข้อความที่ส่งต่อกันทางไลน์ มากกว่าคำชี้แจงของรัฐ เชื่อว่ามีคนติดเชื้อมากกว่าที่แถลง และอาจถึงขั้น “ปิดเมือง”
ซึ่งก็โทษประชาชนไม่ได้ เพราะพอมีดารา เซียนมวย โพสต์ว่าติดโควิด-19 ผู้บริหารสาธารณสุขก็ติงว่าจะทำให้คนตื่นตระหนก แล้วเป็นไงล่ะ ติดเชื้อจริง เซียนมวยตัดพ้อ ติดมา 3 วัน กว่าจะประกาศชื่อ ชาวบ้านก็สงสัย ปิดข่าวหรือเปล่า
นี่คือความไม่ไว้วางใจ “รัฐเป็นบิดา” เพราะรัฐที่สืบทอดมาจาก คสช.ชอบทำตัวเป็น “คุณพ่อรู้ดี” ตัดสินแทนประชาชนว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ควรให้รู้ เดี๋ยวจะตื่นตระหนกเป็นเด็กอนุบาล
พอคนไม่เชื่อข่าวสารของรัฐก็หันไปเชื่อข่าวลือ แชร์กันด้วยความตื่นตระหนก มีคนติดเชื้อที่นั่นที่นี่ กระทรวงดีอีกับ ปอท.ก็ทำงานด้วยการไล่จับ
ปัญหาการสื่อสารไม่ต้องดูอะไรมาก ดูการแถลงข่าวของนายกฯ สิงคโปร์ นายกฯ ญี่ปุ่น รัฐมนตรีเกาหลี รัฐมนตรีไต้หวัน แล้วหันมาดูสารผู้นำไทย เวิ่นเว้อบ่นไปเรื่อย ตั้งแต่โควิด-19 ถึงภัยแล้ง ขอให้เชื่อมั่นรัฐบาล อย่าวิจารณ์ล้มเหลว ฯลฯ
จะไม่ล้มเหลวได้ไง ในเมื่อมีปัญหาแทบทุกจุด ระบบราชการก็รุงรัง อวดอำนาจทับกัน จนคนทำงานหมดกำลังใจ ผอ.สุวรรณภูมิขอลาออก รัฐบาลก็ตัดสินใจกลับไปกลับมา เดี๋ยวไล่ล่าผีน้อยไปกัก เดี๋ยวปิดศูนย์ให้กักตัวเอง เดี๋ยวแจกเงินสองพัน อ้าว โดนด่าก็กลับลำ
ส.ส.พลังประชารัฐเดือด โต้ #ผนงจตกม หันมาด่าประชาชนโง่เราจะตายกันหมด โทษคนไม่ดูแลตัวเองทำเชื้อระบาด พอโดนรุมด่าก็ปัดพัลวัน ทั้งพรรคทั้งเจ้าตัว อ้างว่าไปก๊อปของคนอื่นมา
ประชาชนมีทั้งฉลาดและโง่ แต่ไม่มีอำนาจ จึงไม่สามารถทำให้ตายหมด ผู้นำมีอำนาจออกมาตรการควบคุมป้องกัน รับมือสถานการณ์ ถ้าผู้นำโง่ จึงสามารถทำให้ตายกันหมด หรือบางที ประชาชนตายหมดแล้วผู้นำยังโง่อยู่เลย