แบงก์อุ้มลูกหนี้ ฝ่าวิกฤติ ‘โควิด-19’

สำนักข่าวรัชดา

เชื้อไวรัสมรณะโควิด-19 นอกจากจะคร่าชีวิตคนแล้ว ยังลุกลามไปทำลายเศรษฐกิจโลกให้พังยับเยิน..!! ไม่เว้นแม้แต่เศรษฐกิจไทย ที่เกิดภาวะชะงักงัน การดำเนินธุรกิจสะดุด ผู้ประกอบการผลิตสินค้าไม่ได้ การขนส่งหยุดชะงัก ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ถดถอย ขณะที่หนี้ส่วนบุคคลก็เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ…

จากปรากฏการณ์ดังกล่าว แบงก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ เพื่อพยุงให้ลูกหนี้อยู่รอด…

เริ่มจากธนาคารกรุงเทพ ในส่วนลูกหนี้ธุรกิจ ธนาคารให้พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ขณะที่ลูกหนี้บัตรเครดิต จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 50% จากอัตราปกติ พร้อมทั้งลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกิน 10% และยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ เป็นต้น

ด้านธนาคารกสิกรไทย ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกิน 12 เดือนสำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ประเภทเงินกู้) พร้อมทั้งขยายวงเงินหมุนเวียน (ประเภทตั๋ว) ให้ครั้งละไม่เกิน 3 เดือน ส่วนลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยไม่เกิน 12 เดือน

ส่วนลูกหนี้รายย่อย ประเภทสินเชื่อบ้านและสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีหลักประกัน ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน, สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยถึงรอบบัญชี ธ.ค. 2563 และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 60% ระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน พร้อมทั้งขยายเวลาการผ่อนสูงสุด 7 เดือน รวมสัญญาล่าสุดต้องไม่เกิน 7 ปี

ฟากธนาคารไทยพาณิชย์ ให้พักชำระหนี้เงินต้นพร้อมทั้งขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน  และขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือนสำหรับลูกหนี้ธุรกิจ ส่วนลูกหนี้สินเชื่อบ้านและสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อยให้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน ขณะที่ลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ พักชำระค่างวดสูงสุด 6 เดือน และลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล พักชำระยอดขั้นต่ำสูงสุด 6 เดือน

ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ผ่อนปรนเงื่อนไขวงเงินกู้ระยะยาว สูงสุด 12 เดือน และผ่อนปรนเงื่อนไขวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน พร้อมลดดอกเบี้ยสูงสุด 2% จากอัตราปกติสูงสุด 6 เดือนสำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ส่วนลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย ให้พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และปรับลดเงินผ่อนชำระค่างวดลง

ธนาคารกรุงไทย ให้พักชำระหนี้เงินต้นตามระดับผลกระทบ ไม่เกิน 12 เดือน พร้อมขยายเวลาชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ธุรกิจ

ธนาคารทหารไทย สำหรับลูกหนี้ธุรกิจให้พักชำระเงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน และสามารถขยายเวลาผ่อนชำระออกไปได้อีก 6 เดือน กรณีมีวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% จากสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน

ส่วนลูกหนี้รายย่อย ประเภทสินเชื่อบ้านและสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้พักชำระหนี้ได้ไม่เกิน 3 เดือน สินเชื่อบัตรเครดิตให้พักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 3 รอบบัญชี ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล ให้พักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 3 รอบบัญชี และขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้เพิ่มขึ้นอีก 3 รอบบัญชี

ธนาคารธนชาต ในส่วนสินเชื่อ SME รายย่อยให้พักชำระเงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน กรณีมีวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% จากสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนสินเชื่อลูกหนี้รายใหญ่ ให้พักชำระเงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน และขยายเวลาผ่อนชำระออกไปได้อีก 6 เดือน

ขณะที่ลูกหนี้รายย่อย ประเภทสินเชื่อบ้าน พักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 3 รอบบัญชี, สินเชื่อบุคคล พักชำระหนี้ได้นานสูงสุด 3 รอบบัญชี ส่วนสินเชื่อรถยนต์ ลูกค้าที่ค้างชำระหนี้ไม่เกิน 60 วัน ขอพักชำระหนี้ได้เพิ่มสูงสุด 60 วัน และขยายเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 96 งวด

สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิตลดยอดชำระขั้นต่ำได้ จาก 10% เหลือ 5% ไม่เกิน 3 เดือน ส่วนลูกหนี้บัตรกดเงินสดให้ลดยอดชำระขั้นต่ำได้ จาก 3% เหลือ 1% นานสูงสุด 3 เดือน

ธนาคารยูโอบี ให้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือนสำหรับลูกหนี้ธุรกิจ และปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำของสินเชื่อบัตรเครดิต

ธนาคารทิสโก้ ให้ผ่อนปรนการชำระเงินต้นชั่วคราวไม่เกิน 6 เดือน ลดภาระการผ่อนชำระ และขยายระยะเวลาการชำระหนี้ รวมทั้งยกเว้นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องบางส่วน สำหรับลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจ

ขณะที่แบงก์รัฐ อย่างธนาคารออมสิน มีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ โดยให้สินเชื่อเพิ่มสูงสุด 5 หมื่นบาท ผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี พักหนี้ 6 งวดแรก แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งลดดอกเบี้ยให้สูงสุด 20% ระยะเวลา 1 ปี พักเงินต้นไม่เกิน 2 ปี อีกทั้งขยายเวลาชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอได้ใน 31 ธ.ค.นี้

ทว่ามาตรการเหล่านี้แค่ช่วยต่อลมหายใจเท่านั้น…ซึ่งไม่รู้ว่าจะซื้อเวลาไปได้นานแค่ไหน..?

เกรงว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป จะตายกันหมดนะสิ น่าห่วงจริง ๆ…

…อิ อิ อิ…