กองทุนสุดจริง!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทะยานขึ้นของดัชนีในช่วงเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในช่วงขาลง ล้วนเป็นผลมาจากกองทุนในประเทศสวมบทป๋าดันอย่างเต็มตัว จนผู้เกี่ยวข้องต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า “สุดจัด ปลัดบอก” หลังดัชนีทะยานจากจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,072.92 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของภาคเช้าที่ระดับ 1,100.10 จุดอย่างไม่น่าเชื่อน่ะซี

*ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ทำให้ขาลุยฮึกเหิมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะจุดเหมาะสมของตลาดหุ้นไทยที่กองทุนระยะยาวมองไว้อยู่ที่บริเวณ 1,200 จุด ซึ่งมีแก๊ปให้นักเล่นกระโจนใส่อีกพักใหญ่เลยทีเดียว “โมนิก้า” ถึงอยากให้บรรดาแฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,091.96 จุด บวกไป 11.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.23 หมื่นล้านบาท เหมาะต่อการเล่นรอบขนาดไหน ? รวมทั้งหุ้นดาวเด่นที่จะสวมบทพระเอกมีอะไรบ้าง ? นักเล่นต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ

*ประกอบกับวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์พอดี โดยทุกครั้งจะมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาเป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจทิศทางตลาดหุ้นไทยจะออกมาในโทนไหน ? ซึ่งตอนนี้ได้แต่หวังว่า กองทุนจะตบเกียร์เดินหน้าเต็มสูบเหมือนวันก่อน ๆ เพื่อทำให้ดัชนีขึ้นมาสร้างฐานที่แข็งแกร่งเหนือระดับ 1,100 จุดเสียที ซึ่งจะเป็นเรื่องดีต่อใจสำหรับผู้กล้าที่ยังโลดแล่นบนสังเวียนกระดานหุ้นนะจะบอกให้

*โดยเฉพาะในรายของพี่เทพ PTTEP ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาไม่ว่างเว้น จนราคาหุ้นไต่เพดานสูงขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 67.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.73 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ถูกต้องสำหรับภาวะการลงทุนเช่นนี้ ก็ในเมื่อเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า บุ๊กแวลูอยู่สูงมาก ๆ หุ้นก็ควรวิ่งขึ้นไปหาระดับเหมาะสมเป็นที่แรกก็เท่านั้นเองพะยะค่ะ

*ส่วนรายที่ก้ำกึ่งอย่างบัตรเครดิต KTC อาจเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดมากหน่อย เพราะเมื่อมองดูจากรูปการณ์ของเศรษฐกิจในประเทศจะหดตัวลงมาถึง 5% “โมนิก้า” เลยมองไม่ออกเหมือนกันว่า หุ้นตัวนี้จะเอา growth ที่ไหนมาขับเคลื่อนราคาหุ้นในกระดาน จึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 25.25 บาท บวกไป 1.45 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการรีบาวด์ธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของน้องมิ้น MINT พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 15.80 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.54 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการเด้งกลับท่ามกลางความกังวลที่ว่า ปีนี้อาการหลังแอ่นจะปรากฏให้เห็นชัดสุด ซึ่งจะเป็นชนวนเหตุให้ผลงานของบริษัทขาดทุนบานเบอะ “โมนิก้า” เลยไม่สามารถนำบุ๊กแวลูที่ระดับ 16 บาทมาเป็นธงนำได้เหมือนกับหุ้นตัวอื่น ๆ เพราะคุณพี่ดันสร้างหนี้ไว้เพียบน่ะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องหนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันมามองหุ้น MTC เพื่อไขความกระจ่างกันสักหน่อย หลังเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 34.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 534 ล้านบาท มันก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า การดีดตัวท่ามกลางผลงานที่รู้แน่ ๆ ว่าไม่ปัง! ทำไมยังกล้าไล่แบบสุดซอยอีกแบบนี้ เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องถามหาเหตุผลที่แท้ทรูหรอกค่ะ

*ขนาดหุ้นที่ทุกคนลงความเห็นว่าได้อานิสงส์จากไวรัสมรณะอย่าง TU กลับโดนกระหน่ำขายทิ้งแบบไม่คิดชีวิต จนราคาหุ้นทรุดลงมาปิดที่ 13.50 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 11.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 875 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องไทม์มิ่งของการเล่นรอบมากกว่าประเด็นอื่น เลยเชื่อว่า เดี๋ยวก็กลับเข้ามาเล่นกันใหม่ เพราะเที่ยวก่อนก็ลงมาเซ็ตเกมแถวบริเวณ 13 บาทนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ BGRIM แกร่งทั่วแผ่นอย่างไร วันนี้ยังแกร่งเหมือนเดิม แถมยังมีเงินสดเต็มกระเป๋าอีกด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นหุ้นที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากสุด เพราะราคาเหมาะสมขั้นต่ำของหุ้นอยู่แถว 50 บาท จึงเป็นช็อตที่นักเล่นเคาะขวาได้สบาย ๆ หลังราคาหุ้นเพิ่งยืนปิดที่ 39 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 980 ล้านบาท เหมือนส่งสัญญาณให้รู้ว่า “เล่นสั้น” หรือ “เล่นยาว” ได้ทั้งนั้นเจ้าค่ะ

*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอชี้หน้าด่าคนบางจำพวกหน่อยเถอะว่า วันนี้ยังไม่เลิกทำตัวทุเรศสักทีนะคุณพี่! ทั้งที่วันก่อนเพิ่งโยงเรื่องไวรัสมรณะกับการแก้รัฐธรรมนูญไปหยก ๆ ล่าสุดหัวหน้าพรรคก้าวไปไกล (TEEN) ดันทำตัวอวดรู้สอนรัฐบาลต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้..มันไม่ใช่เวลาเลยนะพ่อคุณ! เดี๊ยนเลยขอแนะนำให้สงบปากสงบคำบ้างเหอะ เพราะที่มันยุ่งเหยิงก็มาจากคำอ้างที่ชอบพูดกันว่า “สิทธิเสรีภาพ” (ภาพนั่งก๊งเหล้าริมหาดยังติดตา) ทั้งนั้น..วันนี้จึงขอให้ทุกคนมองไปในแนวทางเดียวกันก่อน เพื่อต่อสู้กับโรคห่านี้ก่อนได้ไหมคะ..น้องโมขอร้อง!