ขู่ล็อกดาวน์ ?
ประยุทธ์ขู่ใช้ยาแรง ถ้ามาตรการสกัดกั้นโควิด-19 ยังไม่ได้ผล ถ้าคนยังไม่ลดการเดินทาง ก็จะหยุดให้บริการขนส่งสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ประยุทธ์ขู่ใช้ยาแรง ถ้ามาตรการสกัดกั้นโควิด-19 ยังไม่ได้ผล ถ้าคนยังไม่ลดการเดินทาง ก็จะหยุดให้บริการขนส่งสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า
อ้าว ข้ามขั้นไปหรือเปล่า เพราะถ้ายังไม่สั่งหยุดงาน สั่งห้ามคนออกจากบ้าน ประชาชนก็ยังต้องทำมาหากิน ลูกจ้างก็ยังต้องไปทำงาน ไม่ใช่ทุกคนมีรถส่วนตัว จะหยุดรถเมล์รถไฟฟ้าได้อย่างไร
รัฐบาลส่งทหารไปนั่งนับ ว่าประชาชนลดการเดินทาง 40% ยังไม่พอใจ อยากให้ลด 90% ทำราวกับคนไทยยังดื้อ ยังเดินทางท่องเที่ยว เที่ยวไหนไม่ทราบ ผับห้างก็ปิดหมด ที่ออกจากบ้านก็เพราะต้องทำงาน เสาร์อาทิตย์ก็ไปซื้อของไปทำธุระจำเป็น
ทุกคนกลัวทั้งนั้น แต่ไม่ได้กลัวอำนาจท่าน กลัวโควิด
บนความกลัวนี้ รัฐบาล หรือผู้ว่าฯ จังหวัดต่าง ๆ ก็เลยงัดสารพัดมาตรการ ที่ไม่รู้จัดการโควิดได้ไหม แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค้าน เช่น นนทบุรีประกาศเคอร์ฟิว ห้าทุ่มถึงตีห้า ก็ไม่กระทบคนส่วนใหญ่เพราะไม่มีใครออกจากบ้าน ที่จริงวิษณุเคยบอก ถ้าจะเคอร์ฟิวต้องห้ามทั้งวัน ฉะนั้น ถามว่าเคอร์ฟิวกลางคืนได้ผลอะไร ในการกำจัดโควิด ก็มีคนบอกเพราะยังมีวัยรุ่นมั่วสุม กินเหล้ากินเบียร์ บางจังหวัดเลยห้ามขายเหล้าเบียร์ กระทบคนเป็นแสน ๆ นอนเซ็งอยู่บ้าน
ถ้าจะทำมากกว่านี้ ก็เหลือแต่มาตรการ “ล็อกดาวน์” ห้ามออกจากบ้าน เว้นแต่ไปซื้ออาหารซื้อยา ซึ่งมีหลายคนออกมาชง เช่น สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้า ปชป.เสนอล็อกดาวน์ 14 วัน ใครออกจากบ้านโดยไม่ขออนุญาต ลงโทษทันที เพราะยังมีคน “ทำได้ตามใจคือไทยแท้”
น่าจะได้ผล คือตรวจพบเชื้อแค่ห้าพันคน แต่คงจับคนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้เป็นแสน
ถ้ามันจำเป็น ก็ไม่ว่ากันนะครับ แต่ต้องตัดสินใจด้วยความรู้ความเข้าใจทางสาธารณสุข ผ่านการปรึกษาหารือ ประเมินอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เอาตามกระแสวิตกกังวล ซึ่งหลายคนชอบอ้าง “เจ็บแต่จบ” อย่างจีน
สถานการณ์ของจีนรุนแรงกว่าเรา และโควิด-19 ก็ไม่มีคำว่าจบจริง ๆ คือไม่ใช่คิดว่าปราบมันให้เรียบภายในวันที่ 30 เม.ย. แล้วเราจะกลับมาหลั่นล้า เข้าผับดูหนังฟังเพลง ชาบูปิ้งย่าง กว่าจะถึงวันนั้น อาจใช้เวลา 2 ปี
เป้าหมายทางสาธารณสุขขณะนี้ คือต้องหยุดการแพร่ระบาดต่อเนื่องจากสนามมวย, ผับ, คนเดินทางจากต่างประเทศ โดยหลังจากนั้น เราอาจยังพบผู้ติดเชื้อประปราย แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ยังต้องล้างมือ ใส่หน้ากากในพื้นที่เสี่ยง ขึ้นรถไฟฟ้า ดูหนัง ต้องนั่งห่าง ๆ จนกว่าจะมีการค้นพบวัคซีน หรือจนกว่ามันจะหายไป เพราะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
มาตรการทางสาธารณสุขวันนี้ ยังอยู่ในขั้นควบคุมการแพร่ระบาดชั้นที่ 2 จากผู้ใกล้ชิดคนติดเชื้อรอบแรก โดยปิดพื้นที่ กักตัว ติดตาม ฯลฯ แม้ยังพบวันละ 100 กว่าคน แต่ก็ยังไม่พบการติดเชื้อแบบไม่มีที่มาที่ไปในวงกว้าง ยังมีเวลาประเมินอีก 7-10 วัน ถ้าไม่ตื่นตูมกับกราฟ Scenario แบบต่าง ๆ จนเกินไป
ในทางตรงข้าม ถามว่าการล็อกสนิททำได้ไหม ต่อให้ขายเฉพาะอาหาร ก็ยังมีคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก สั่งปิดราชการโรงงานบริษัท ก็ยังมีบางส่วนต้องให้บริการ เช่น ธนาคาร มือถือ กิจการอุปโภคบริโภค ส่วนที่ขายไม่ได้ เขาก็หยุดไปเองแล้วเช่น ประกอบรถยนต์
ล็อกดาวน์ตอนนี้ จึงร้อนรนเร็วกว่าเหตุ ควรรอสาธารณสุขประเมินผล อย่าร้อนรนเพราะคิดว่ามีอำนาจแล้วไม่ได้ใช้