ตลกร้าย IMF-เรือทร.
ยิ่งนับวันตัวตนของรัฐบาลประยุทธ์ ก็ยิ่งเผยธาตุแท้ล่อนจ้อนมากยิ่งขึ้นทุกที...กลวง ขาดภูมิความรู้ แต่ก็ทึกทักตัวเองเป็นคนเก่ง คนฉลาด อวดอ้างความดีตนเหนือกว่ารัฐบาลใดในอดีต เอาแต่โทษผู้อื่น แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลย
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
ยิ่งนับวันตัวตนของรัฐบาลประยุทธ์ ก็ยิ่งเผยธาตุแท้ล่อนจ้อนมากยิ่งขึ้นทุกที…กลวง ขาดภูมิความรู้ แต่ก็ทึกทักตัวเองเป็นคนเก่ง คนฉลาด อวดอ้างความดีตนเหนือกว่ารัฐบาลใดในอดีต เอาแต่โทษผู้อื่น แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลย
ตอนบ้านเมืองยังไม่เจอวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจก็ย่ำแย่หนักอยู่แล้ว จากสงครามการค้าและพิษสะสมจากการบริหารประเทศแบบผิดทิศผิดทาง พอมาเจอโควิดอาละวาดเข้า ก็ยิ่งซ้ำเติม วิกฤตหนักยิ่งกว่า “ต้มยำกุ้ง” ที่พานพบมาในอดีตไปแล้ว
ก็ดูเอาเถอะ โควิดระบาดมา 3 เดือนเต็ม ๆ แล้ว ท่ามกลางความขาดแคลนทั้งแอลกอฮอล์ หน้ากาก เครื่องมือปกป้องหมอ-พยาบาล แต่ครม.เพิ่งจะมีมติยกเว้นภาษีอากรนำเข้าหน้ากากอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ชุดตรวจหาไวรัสโควิด และยาเวชภัณฑ์ใช้รักษาเชื้อไวรัสโควิด
ต่อสู้กับโควิดด้วยความขาดแคลนมา 3 เดือนเต็ม ๆ นี่นะ เพิ่งจะมานึกออกได้ว่า ยังไม่ได้ปลดล็อกภาษีการนำเข้ายาเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็น มิน่าเล่า ทั้งของบริจาคต่างประเทศและเวชภัณฑ์ทั้งหลาย จึงยังคงค้างเติ่งอยู่ที่คลังพัสดุ ไม่ถึงมือหมอ-พยาบาลและประชาชนที่เฝ้ารอคอยสักที
การรับมือกับไวรัสโควิดได้ดีพอสมควรคราวนี้ ผมให้แต้มกับระบบการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มากกว่ารัฐบาลครับ รัฐบาลน่ะเหรอ เมาหมัดมาตั้งแต่ระฆังยกแรกจนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่หายสะเปะสะปะ
หน้ากากอนามัยเอย เจลล้างมือเอย น้ำยาตรวจหาเชื้อไวรัส ยารักษา กระทั่งไข่ เคยขาดแคลนยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังขาดแคลนอยู่ ยิ่งประกาศสินค้าควบคุม ก็ยิ่งขาดแคลน ไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องดีมานด์-ซัพพลายเอาเสียเลย
ตลกร้ายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เคยหลุดปากตอนไวรัสระบาดใหม่ ๆ ว่า มีหน้ากากอนามัยถึง 200 ล้านชิ้นในสต๊อก ไม่ต้องห่วงการขาดแคลน ผู้คนก็ถามหาเจ้า 200 ล้านหน้ากากดังว่านั้น รมต.จุรินทร์หายหน้าไป 2 เดือน ถึงกลับมาให้คำตอบว่า 200 ล้านชิ้นนั้นเป็นวัตถุดิบทำหน้ากาก หาใช่หน้ากากสำเร็จรูปอยู่แล้วแต่ประการใดไม่
ตลกไหม ตลกไหม!!!
เรื่องที่ไทยอาจจะเข้าโปรแกรมรับความช่วยเหลือจาก IMF หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ แม้จะมีการปฏิเสธไปแล้วจากรองนายกฯ ดร.สมคิด แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจไขว้เขวเช่นนั้น ก็มาจากปากของดร.สมคิดเองนั่นแหละ ที่ดันไปเอาคำแถลงของ IMF มาให้สัมภาษณ์นักข่าว
คำแถลงไอเอ็มเอฟ พูดเป็นการทั่วไป ไม่ได้ระบุจำเพาะเจาะจงว่าจะเข้ามาช่วยเหลือประเทศไทย และดร.สมคิดก็ไม่ได้ระบุว่าจะขอรับความช่วยเหลือด้วย
แต่ปัญหาก็คือ อยู่ ๆ ดร.สมคิดผ่าหมากมาพูดถึงไอเอ็มเอฟ ที่คนไทยยังขวัญร้ายกับโปรแกรมโหด “ให้ยาผิดซอง” ทำไม อีกทั้งก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของ IMF ด้วย เนื่องจากปัญหาของประเทศไทยตอนนี้ ไม่มีวิกฤตในด้านอัตราแลกเปลี่ยนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ก็มีล้นเกินไปเสียด้วยซ้ำ
ไม่ได้มีปัญหาเงินทุนไหลออกเหมือนเมื่อตอน “ต้มยำกุ้ง” แต่อย่างใด จึงเป็นที่เคลือบแคลงว่า เกิดจากการสำคัญผิดของรองฯ สมคิด หรือเผอเรอ “ปากพาไป” อะไรยังไง
แต่ก็เสียมวยอยู่นะ
ตลกร้ายล่าสุด ก็คือการ “ถอนเผือกร้อน” เรื่องขออนุมัติซื้อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกของกองทัพเรือมูลค่า 6.1 พันล้านบาท ออกจากวาระประชุมครม.อย่างฉุกละหุกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพราะไม่เข้ากับบรรยากาศคนตกงาน ธุรกิจเจ๊งคาตา เศรษฐกิจพังพินาศในเวลานี้เอาเสียเลย
“ไม่รู้กาลเทศะ” ขืนปล่อยตามน้ำออกไป คนจะก่นด่ากันทั้งประเทศ เรตติ้งรัฐบาลรวมทั้งบรรดาลุงทั้งหลาย จะตกวูบ ติดลบหนักเข้าไปอีก
เจ้าเรือลำนี้ มันก็เป็นแพ็กเกจคู่กับเรือดำน้ำ 3 ลำ ลำละ 1.2 หมื่นล้านบาทนั่นแหละ ยังไม่รู้จะต้องซื้อเพิ่มอีก 2 ลำให้ครบชุดต่อไปอีกหรือเปล่า
อย่าตลกนักเลย คนดูไม่ขำด้วย บ้านเมืองออกจะเศร้าสร้อยปานนี้