อัพไซด์(เริ่ม)จำกัด
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกเพียง 8.75 จุด ปิด 1,236.78 จุด
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกเพียง 8.75 จุด ปิด 1,236.78 จุด
หากดูจากการเคลื่อนไหวของดัชนีระหว่างวันจะเห็นว่า กรอบขาขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด (ส่วนขาลงก็อาจจำกัดเช่นกัน)
และแม้วานนี้ตลาดหุ้นเอเชียจะเริ่มกลับมาเปิดเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ทว่า ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปยังคงปิดทำการอยู่
ก็อาจจะพอเป็นสาเหตุได้บ้างว่า ไม่มีตลาดหุ้นที่จะนำไปใช้อ้างอิงในการเทรด
ทำให้การซื้อขายเป็นไปด้วยความระมัดระวัง มูลค่าเทรดออกมาค่อนข้างน้อยไปซักหน่อยหรือ 49,474 ล้านบาท
หากย้อนหลังกลับไป
หรือนับจากวันที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงหลุดระดับ 1 พันจุด แล้วลงไปแตะ 969.08 จุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 63 (วันนั้นปิด 1,128.91 จุด)
เมื่อนำมาดีดลูกคิดคำนวณกับดัชนีปิดวานนี้ (13 เมษายน 63 ) ( ครบ 1 เดือนพอดี)
จะพบว่า ดัชนีหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว 26-27%
ดัชนีที่วิ่งขึ้นมาค่อนข้างมากในรอบ 30 วัน หรือ 1 เดือน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงมองว่า การขึ้นของดัชนีนับจากนี้ไป จะเป็นไปอย่างจำกัดแล้วล่ะ
เพราะผลที่สุดแล้ว ทุกคนจะต้องไปรอดูงบการเงินไตรมาส 1/63 ว่าจะออกมาอย่างไร
ซึ่งตรงนี้แหละที่จะเป็นปัจจัยบอกว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปได้มากน้อยอีกแค่ไหน
ไม่เพียงเท่านั้น
ปัญหาเรื่องไวรัสโควิด-19 แม้ตัวเลขจำนวนผู้ได้รับเชื้อจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง
ทว่า ก็ยังวางใจไม่ได้
เพราะแนวทางแก้ปัญหาที่สำคัญไม่ใช่การควบคุมการแพร่ระบาด
และไม่ใช่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แต่ละประเทศกำลังนำมาใช้ รวมถึงประเทศไทย
แต่กลับอยู่ที่ยา การค้นพบยาที่จะนำมาใช้ในการรักษา
หรือถ้าจะให้ดีเลย ก็คือ “วัคซีน” ป้องกันโควิด-19 นั่นแหละ
ผู้จัดการกองทุนให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า ทั้งยารักษา และวัคซีน จะเป็นตัวบ่งบอกว่า เศรษฐกิจข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และตลาดหุ้นจะไปข้างหน้าได้แค่ไหน
ส่วนตลาดหุ้นที่วิ่งขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมานั้น
หลัก ๆ มาจาก ราคาหุ้นหลายตัวได้วิ่งลงมามากเกินไป
หรือสะท้อนปัจจัยลบไปค่อนข้างมากแล้ว ทำให้เกิดการซื้อกลับ หลังจากฝุ่นเริ่มหายตลบ และนักลงทุนมาดูว่าหุ้นตัวไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบหนัก ปานกลาง เบา
รวมถึงหุ้นตัวไหนที่ได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาด
ขณะเดียวกัน มีการเข้ามาไล่ซื้อหุ้นที่กำลังจะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล
เพราะพบว่า มีหุ้นหลายตัวมาก ๆ ที่ราคาหุ้นปรับลงมา ทำให้มีผลตอบแทนเงินปันผลจากราคาปัจจุบันค่อนข้างสูงมาก
หุ้นบางตัวให้ผลตอบแทนเกิน 12%
และอีกหลาย ๆ ตัวให้ผลตอบแทนระหว่าง 8-10%
จากภาวการณ์นี้ ทำให้คาดกันไปว่า หลังหมดเทศกาลขึ้น XD จ่ายเงินปันผล
ดัชนีน่าจะปรับลงมา
และโดยปกติในทุก ๆ ปีก็จะปรับลงมาอยู่แล้ว
ส่วนปีนี้อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ว่า มีปัจจัยลบกดดันอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้นักวิเคราะห์บางคนมองว่า มีโอกาสที่ดัชนีจะร่วงลงแรงอีกครั้งได้ (กรณียังแก้ปัญหาโควิด ไม่สะเด็ดน้ำ)
ขณะเดียวกัน หลังสิ้นงบไตรมาส 1/63
โบรกฯ หลายแห่ง ก็น่าจะมีการปรับตัวเลข EPS ของปี 2563 ลงมาด้วย
เพราะ “บจ.” ส่วนใหญ่ งบการเงินคงไม่ได้สวยอะไรมาก
กำไรน่าจะวูบลงหนัก
เช่นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มน้ำมัน ท่องเที่ยว และอาจรวมถึงกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
ดัชนีที่วิ่งขึ้นมาบริเวณ 1,200-1,250 จุด
ทำให้ต่างมองว่าอัพไซด์เริ่มจำกัดแล้วล่ะ