ย่ำฐานต่อไป
*ดูเหมือนสถานการณ์หลายอย่างเริ่มนิ่งจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ผู้คนเริ่มมีหวังในการพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาดีดั่งเดิมในไม่ช้า “โมนิก้า” เลยรู้สึกยินดีกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นคุณประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะมันหมายถึงทุกคนกำลังเดินไปในเป้าหมายเดียวกัน (เมื่อทุกอย่างดีขึ้น เดี๋ยวก็กลับมาตีกันใหม่) จึงขอส่งอีกหนึ่งแรงใจเพื่อช่วยให้ประเทศไทยน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนสถานการณ์หลายอย่างเริ่มนิ่งจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ผู้คนเริ่มมีหวังในการพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาดีดั่งเดิมในไม่ช้า “โมนิก้า” เลยรู้สึกยินดีกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นคุณประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะมันหมายถึงทุกคนกำลังเดินไปในเป้าหมายเดียวกัน (เมื่อทุกอย่างดีขึ้น เดี๋ยวก็กลับมาตีกันใหม่) จึงขอส่งอีกหนึ่งแรงใจเพื่อช่วยให้ประเทศไทยน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมนะคะ
*เช่นเดียวกับการแกว่งตัวย่ำฐานไปมาของตลาดหุ้นไทยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าเอ็นจอยในภาวะการลงทุนที่ผันผวนเช่นนี้ เพราะเมื่อเข้าไปดูเนื้อในของเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ล้วนมีแต่เรื่องไม่สบายใจนำโด่งมาแต่ไกล เทียบกับเหตุการณ์ตอนนี้ ล้วนมีแต่เรื่องที่ทำให้รู้สึกโล่งใจได้เป็นระยะ จึงเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้งว่า ในร้ายก็มีดีอยู่เหมือนกันนะจ๊ะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,236.78 จุด บวกไป 8.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.94 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการเตรียมความพร้อมในการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,250 จุดในไม่ช้า โดยแรงหนุนในเที่ยวนี้จะต้องมาจากหุ้นหลายกลุ่มสลับกันขึ้นเป็นระยะ เพื่อเป็นการลดทอนอาการฮาร์ดแลนดิ้งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกแฮปปี้สุด ๆ เมื่อตรรกะที่เกริ่นนำไว้ก่อนหน้านี้ เริ่มปรากฏเป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้วน่ะซี
*เหมือนกับในรายของหุ้นขายไก่ CPF ถือเป็นหุ้นที่มีอัพไซด์เยอะสุดตัวหนึ่งของตลาดหุ้นไทย เพราะเมื่อเทียบกับราคาเป้าที่กูรูตลาดหุ้นไทยให้ไว้เกิน 30 บาท แต่ราคาหุ้นกลับยืนปิดแค่ระดับ 25.75 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท ย่อมเป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมีสตอรี่ดี ๆ ให้เม้าท์ได้ไม่หมดเลยเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TISCO เด่นด้วยเรื่องปันผลเป็นใบเบิกทาง ผสานกับมีการหาช่องทาง growth ในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงกลายเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์เป็นประจำเมื่อเห็นหุ้นตัวนำของตลาดเกิดอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ แถมเมื่อเหลือบมองดูค่า P/E อยู่แค่ระดับ 8.50 เท่า ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เดี๊ยนต้องตะโกนออกไปว่า เฮียสั่งลุย! เพราะราคาปิดที่ 79 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 953 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นค่ะ
*ช็อตนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเม้าท์ถึงหุ้นนิคมอุตสาหกรรม WHA ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊จูน” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาไล่ราคาหุ้นอีกรอบ จนวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 2.78 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 484 ล้านบาท ย่อมทำให้เดี๊ยนนึกถึงราคาเป้าหมายควรอยู่แถว 1.50 เท่าของบุ๊กแวลู 2 บาท ก็จะอยู่ราว ๆ 3 บาทไงล่ะคะ
*ส่วนรายที่แรงแบบไม่น่าเชื่ออย่างหุ้น THANI ถือเป็นช็อตที่พวกขาลุยห้ามกะพริบตาเป็นอันขาด เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 3.88 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 265 ล้านบาท ถือเป็นการขึ้นมาเยือนถิ่นเก่าอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งวันนี้จะเป็นการชี้ชะตาอีกครั้งหนึ่งว่า การลงหลักปักฐานบริเวณ 4 บาทจะสำเร็จหรือไม่ ? หากสำเร็จก็คงได้ลุ้นไปต่อยาว ๆ นะตัวเอง
*สำหรับรายที่วุ่นไม่เลิกอย่างเจ้าจำปี THAI ถูกกระหน่ำขายหนัก จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 5.55 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 12.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 347 ล้านบาท ล้วนมาจากการสยบข่าวลือที่ปะทุขึ้นมาเป็นระลอก เกมหุ้นเลยจบลงแบบตัวใครตัวมันนั้น “โมนิก้า” มองเป็นไทม์มิ่งของธุรกิจที่บีบรัดให้หาทางออก และสุดท้ายก็จะทำให้การเพิ่มทุนเพื่อต่อลมหายใจบรรลุเป้าอยู่ดี เพราะในอดีตก็ผ่านไปได้ด้วยดีทุกครั้งนะคะ
*ตรงนี้เองที่ทำให้ AOT ถูกคนที่ไม่เห็นด้วยกระทำชำเราตั้งแต่เปิดตลาด เพราะการควักเงินมาช่วยเหลือ “เจ้าจำปี” มันไม่ก่อประโยชน์อันใด หุ้นถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 55.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.10 พันล้านบาท และกลายเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องดูกันต่อไป แถมคนที่สั่งการตรงเที่ยวนี้มาจาก “คลัง” เลยไม่รู้ว่าคนจ่ายเงินจริง ๆ บ่ายเบี่ยงได้ไหมเจ้าค่ะ
*ป.ล.วันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่กองทุนสวมบทเป็นพระเอกแบบเต็มตัวด้วยการกวาดหุ้นเข้าพอร์ตไปมากถึง 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าตลาดหุ้นไทยต้องพึ่งพานักเล่นกลุ่มนี้มากกว่าปกติพะยะค่ะ