PK โอเว่อร์แวลู

ประเด็นของหุ้น PK ที่พูดกันอย่างหนาหูว่า “โอเว่อร์แวลู” หรือ “ไม่โอเว่อร์แวลู” ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนมีความเชื่อต่อตัวบริษัทจะทำกำไรได้ดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน และมองถึงโอกาสในการทำธุรกิจเป็นต่อคู่แข่งรายอื่นขนาดไหน หรือแม้กระทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ช่วยสร้างแวลูให้กับตัวบริษัทขนาดไหน ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญนะครับ


สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย

 

คุณอมร จากทุ่งครุ กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น PK หรือ บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) มีประเด็นหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกค้างคาใจอย่างแรง และแต่ละเรื่องก็เกี่ยวข้องกับหุ้นตัวนี้โดยตรง จึงอยากให้อาจารย์วิเคราะห์ให้ตรงประเด็นไปเลยว่า หุ้นตัวนี้มีราคาเกินระดับเหมาะสมไปหรือยัง? เพราะข้อมูลที่ผมได้รับในเที่ยวนี้มีแต่การพูดในลักษณะที่ว่า หากหุ้นขึ้นมาแตะระดับนี้ ก็จะไต่ระดับขึ้นไปหาอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นคำแนะนำที่บอกให้รู้ว่า การเข้าเล่นเที่ยวนี้ต้องอาศัยความไวเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ยังอยากให้อาจารย์เล่าเรื่องต่างๆ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับนักลงทุนที่คิดจะลงทุนในหุ้นร้อนตัวนี้ด้วยครับ

 

ประเด็นของหุ้น PK หรือ บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) ที่พูดกันอย่างหนาหูว่า “โอเว่อร์แวลู” หรือ “ไม่โอเว่อร์แวลู” ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนมีความเชื่อต่อตัวบริษัทจะทำกำไรได้ดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน และมองถึงโอกาสในการทำธุรกิจเป็นต่อคู่แข่งรายอื่นขนาดไหน หรือแม้กระทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ช่วยสร้างแวลูให้กับตัวบริษัทขนาดไหน ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญนะครับ

ด้วยเหตุนี้ถึงมองสิ่งที่เกิดขึ้นกับ PK ได้ทั้งบวกและลบ และต้องดูด้วยว่า ความเชื่อของนักลงส่วนใหญ่ไปในทางไหน หากนักเล่นส่วนใหญ่มองว่า การลงทุนเที่ยวนี้อิงกับสัญญาณเทคนิคเป็นหลัก ก็ควรเข้าใจว่า ความเสี่ยงในการลงทุนสูงกว่าการขึ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน เพราะเมื่อใดที่สัญญาณเทคนิคเริ่มเสียทรง แรงเทขายจะออกมาอย่างถล่มทลาย และจะฉุดราคาหุ้นลงอย่างรวดเร็ว

ในทางกลับกันหากมองการเคลื่อนตัวของราคาหุ้นอิงกับผลประกอบการปี 58 ที่คาดจะโตอย่างมีนัยสำคัญ ย่อมทำให้ราคาหุ้นบริเวณนี้ยังไม่สูงเกินไป และเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องเข้าเล่น เพราะค่า P/E ยังไม่ถึง 20 เท่า(เป็นระดับเดียวกับ P/E ของตลาด) ยกเว้นผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 58 เริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัวอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นบริเวณนี้ก็ถือว่าสูงเกินไปนะครับ

ที่สำคัญเมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 58 ที่มีกำไร 16.39 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.04 บาท บวกกับภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 58 ไม่น่าจะออกมาดีสักเท่าไหร่ และทำให้ PK เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง แต่การที่หุ้นไม่โดน Cash Balance ย่อมเป็นทางเลือกที่นักเก็งกำไรเข้าเล่นเป็นลำดับแรกๆ ก็เท่านั้นเอง

 

  ปี 54    ปี55      ปี 56      ปี 57 ไตรมาส 1 ปี 58
รายได้รวม 3,801.87   3,639.27   4,292.13   4,139.71   874.66  
กำไรสุทธิ 945.63   351.05   -82.63   229.55   16.39  
กำไรต่อหุ้น (บาท) 2.78   0.85   -0.20   0.56   0.04

(หน่วย: ล้านบาท)

 

ประเด็นของหุ้น PK ถึงไม่เกี่ยวกับเรื่องโอเว่อร์แวลู แต่เป็นเรื่องของสตอรี่ที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาเล่นกันอย่างคึกคักต่างหาก!

 

pk20150808

Back to top button