STARK สตาร์ทเทิร์นอะราวด์

สำนักข่าวรัชดา

จากเดิมเป็นบริษัทโนเนม ที่อยู่นอกตลาดฯสำหรับบริษัท ทีม เอ โฮลดิ้ง 2 จำกัด แต่พอ Backdoor Listing บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM เข้ามาสู่ตลาดฯ เมื่อปลายปี 2561 และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ก็กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาทันที..!!

STARK ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการปรับโครงสร้างองค์กร ตั้งแต่โครงสร้างผู้ถือหุ้นที่มี “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนกลุ่มเดิม

รวมทั้งโครงสร้างธุรกิจ…จากเดิม SMM มีธุรกิจหลัก คือ หนังสือการ์ตูน รายการทางโทรทัศน์และวิทยุ การซื้อขายสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และผ่านดาวเทียม เปลี่ยนมาเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าและสายเคเบิลไฟฟ้า พร้อมโรงงานหลอมและรีดทองแดง เป็นธุรกิจหลักแทน…

ซึ่งพอปรับโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นพัฒนาการของ STARK ต่อเนื่องหลายอย่าง…

โดยเฉพาะในแง่ของผลประกอบการที่เดิมประสบปัญหาขาดทุนเรื้อรัง…ปี 2559 ขาดทุนสุทธิ 158 ล้านบาท จากรายได้รวม 389 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 78 ล้านบาท จากรายได้รวม 450 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 183 ล้านบาท จากรายได้รวม 361 ล้านบาท

ล่าสุดปี 2562 พลิกมามีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท จากรายได้รวม 11,762 ล้านบาท

ถือว่าเป็นบริษัทที่เข้ามา Backdoor Listing แล้วสามารถเทิร์นอะราวด์ได้เร็วทีเดียว..!!

อีกไฮไลท์…อยู่ที่การเลื่อนชั้นขึ้นมารับงานจากเชฟรอน และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP โดยเป็นงานบริการด้านทรัพยากรบุคคล และบริการด้านวิศวกรรม มูลค่ารวมกว่า 4,330 ล้านบาท

ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันระดับโลกและระดับชาติอย่างนี้ ต้องถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว…

ขณะที่ก่อนหน้านี้ STARK ส่งบริษัทลูกอย่างบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) หรือ PDITL เข้าซื้อกิจการสายไฟฟ้าอันดับหนึ่งที่เวียดนาม (Thipa) มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท

แถมซื้อหุ้นบริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล (TCI) ผู้ผลิตสายไฟฟ้าขนาดเล็ก มูลค่ากว่า 540 ล้านบาท ในประเทศไทย อีกด้วย…

นั่นทำให้ผู้บริหาร STARK มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะโตเกินกว่า 100% แตะที่ระดับ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 11,762 ล้านบาท

โดยคาดว่า กลุ่มธุรกิจสายไฟฟ้าของ STARK จะติดอันดับ Top 10 ของโลกในไม่ช้านี้…

จัดว่าเป็นบริษัทที่มีดีอย่างที่คาดไม่ถึงจริง ๆ

STARK ถือเป็นตัวอย่างของบริษัทที่ทำ Backdoor Listing และทำให้ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์…

ขณะที่ในมุมของตลาดฯ ก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน…จากเดิม SMM มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่หลักร้อยล้านบาท ในแต่ละวันมีมูลค่าการซื้อขายน้อยมาก พอมาเป็น STARK สินค้าตัวนี้กลับดูมีราคา มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันมาร์เก็ตแคปทะลุ 50,000 ล้านบาทไปแล้ว…

ก็หวังว่า STARK จะไม่สะดุดยอดหญ้า หรือขาตัวเองไปซะก่อนหรอกนะ…

…อิ อิ อิ…