ปลดล็อกได้..หุ้นไปต่อ

*ในเมื่อนักเล่นทุกคนมองการขึ้นของตลาดหุ้นไทยมาจากใบสั่งของทางการที่ต้องการอุ้มหุ้นสุดชีวิต “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ดัชนีแกว่งตัวฉวัดเฉวียดจนแทบจะเป็นลม เพราะเมื่อดูตามองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เคยไล่เรียงให้ฟังทีละช็อต ย่อมตีความเรื่องดังกล่าวได้ทันทีว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเจ้าภาพต้องการให้งานเลี้ยงโต๊ะจีนเที่ยวนี้ยาวนานแค่ไหนพะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในเมื่อนักเล่นทุกคนมองการขึ้นของตลาดหุ้นไทยมาจากใบสั่งของทางการที่ต้องการอุ้มหุ้นสุดชีวิต “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ดัชนีแกว่งตัวฉวัดเฉวียดจนแทบจะเป็นลม เพราะเมื่อดูตามองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เคยไล่เรียงให้ฟังทีละช็อต ย่อมตีความเรื่องดังกล่าวได้ทันทีว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเจ้าภาพต้องการให้งานเลี้ยงโต๊ะจีนเที่ยวนี้ยาวนานแค่ไหนพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องมาไล่เรียงเหตุการณ์เมื่อวันวานให้มิตรรักแฟนเพลงได้เห็นเต็มลูกตาอีกครั้ง โดยประเด็นที่เดี๊ยนให้ความสนใจเป็นอันดับแรกของเรื่องนี้คือ กำไรต่อหุ้นทั้งตลาดในปี 2563 อยู่ในระดับเกิน 80 บาทใช่ไหม ? และหากเป็นเหมือนกับที่ประเมินกันไว้ข้างต้น ระดับเหมาะสมของดัชนีก็จะอยู่ในระดับ 1,200 จุดอัพ (พี/อี 15 เท่า) ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้กองทุนปั่นแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเจ้าค่ะ

*อันดับสองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่าทีของนักเล่นกลุ่มฝรั่งหัวทอง ยังคงเทขายหุ้นแบบไม่ลดราวาศอกเป็นเวลานาน เดี๊ยนถือเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้การขึ้นเที่ยวนี้เต็มไปด้วยความลำบาก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองย้อนกลับไปถึงประเด็นต้นทุนซื้อหุ้นสะสมของนักเล่นกลุ่มนี้อยู่ที่จุดไหน ? เพราะจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แฟนคลับมองเห็นโอกาสขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้เปิดกว้างขนาดไหนนะจ๊ะ

*สำหรับเรื่องสุดท้ายที่เป็นตัวกำหนดอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ? “โมนิก้า” คงมองไปที่การระบาดของไวรัสมรณะทั่วโลกจะยุติลงเมื่อไหร่ ? เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจไทยโดยตรง เดี๊ยนเลยพุ่งเป้าไปที่เรื่องความร่วมมือของคนทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันยับยั้งการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด และหวังในใจลึก ๆ ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในไม่ช้า จึงได้แต่นั่งสวดมนต์และภาวนาทุกค่ำคืนไงล่ะคะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิด 1,239.24 จุด บวกไป 39.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ต้องดูกันวันต่อวัน เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตลาดหุ้นไทยเจอด่านหินบริเวณ 1,250 จุดขวางกลางกบาล จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ หากดัชนีจะวิ่งทะลุขึ้นไปง่าย ๆ เดี๊ยนถึงเชียร์ให้แฟนคลับ “เล่นสั้น” เพื่อความคล่องตัว และช่วยลดความเสี่ยงในการกอดหุ้นไปนาน ๆ น่ะซี

*โดยเฉพาะในรายของพ่อดอก.. อุ๊ย..ดอกมะลิ JAS กลายเป็นหุ้นที่สร้างความผิดหวังให้กับบรรดากองเชียร์อย่างแสนสาหัส เพราะแทนที่หุ้นจะโหนกระแสไปกับภาวะตลาดหุ้นที่บวกเขียวปี๋ พ่อคุณดันเกิดอาการนกเขาไม่ขันเสียอย่างนั้น! แถมเมื่อดูจากเงินปันผลที่ให้รีเทิร์นสูงถึง 28% ยิ่งทำให้นักเล่นปวดใจกับการยืนบวกบาง ๆ ได้เพียง 4.94 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.47 พันล้านบาท ถึงแม้ดัชนีจะทะยานแรง มันเป็นการส่งสัญญาณไปถึง “พิชญ์” อีกครั้งว่า ไม่มีใครักอ๊ะป่าว!..อิอิอิ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ SAWAD ภายใต้การคุมเกมของแม่ทัพหญิง “ธิดา” กลับกลายเป็นหุ้นที่มีขาประจำเข้ามาไล่ราคาเป็นประจำ จนล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 51.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 7.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเที่ยวก่อนก็ซัดขึ้นไปถึงระดับ 57 บาท เลยเชื่อกันว่าเที่ยวนี้จะเล่นกันแบบนั้นอีกไงล่ะคะ

*อีกหนึ่งช็อตเด็ดที่น่าสนใจสำหรับการเคาะขวาเที่ยวนี้ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้นขายไก่ CPF เป็นธงนำสำหรับการเกาะกระแสเล่นรอบ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาชนแนวต้านสำคัญบริเวณ 27 บาทพอดิบพอดี ส่งผลให้กูรูฟันธงอย่างฉับไวว่า หากทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ รอบนี้คงมีลุ้นไปถึงระดับ 30 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 26.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท น่าสนไหมเอ่ย ?

*เช่นเดียวกับในรายของ GUNKUL ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ทะยานขึ้นช้า ๆ จนสุดท้ายขึ้นมายืนปิดที่ 2.58 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112.03 ล้านบาท ทั้งที่กลางเดือนก่อนยืนอยู่ที่บริเวณ 1.95 บาท บวกกับแรงซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” เลยอยากให้แฟนคลับชำเลืองตามองหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง เพราะระยะสั้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 2.70 บาทค่อนข้างสูงน่ะซี

*เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ และน่าจับตาคงโฟกัสไปยัง PRM หลังวิ่งขึ้นจากระดับ 3 บาทเมื่อกลางเดือนก่อน จนล่าสุดมายืนอยู่ที่ระดับ 5.80 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72.65 ล้านบาท ท่ามกลางความคาดหวังจะวิ่งขึ้นไปยืนแถว 7 บาทอีกรอบ จึงกลายเป็นช็อตที่ขาลุยห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะกระแสเล่นหุ้นต่ำสิบมาแรงไม่ใช่เล่น เลยอยากแนะนำให้ดูเท่านั้นเองจ้า!..ชอบ หรือ ไม่ชอบ ก็ตัดสินใจกันเอาเองนะคะ

Back to top button