ดันสุดฤทธิ์
*ในเมื่อทุกคนกำลังพยายามหาทางฟื้นฟูให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีดังเดิมกันอย่างสุดฤทธิ์ “โมนิก้า” เลยขอเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยรังสรรค์สิ่งดี ๆ คืนแก่สังคมให้ได้มากสุด และเป็นเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนหยุดแฉเรื่องผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นเป็นการชั่วคราว เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เลย แถมยังเป็นการสร้างเรื่องรกสมองให้แฟนคลับโดยไม่จำเป็นอีกด้วย จึงขอให้ทุกคนเข้าใจจุดยืนตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในเมื่อทุกคนกำลังพยายามหาทางฟื้นฟูให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีดังเดิมกันอย่างสุดฤทธิ์ “โมนิก้า” เลยขอเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยรังสรรค์สิ่งดี ๆ คืนแก่สังคมให้ได้มากสุด และเป็นเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนหยุดแฉเรื่องผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นเป็นการชั่วคราว เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เลย แถมยังเป็นการสร้างเรื่องรกสมองให้แฟนคลับโดยไม่จำเป็นอีกด้วย จึงขอให้ทุกคนเข้าใจจุดยืนตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องยืนยันคำเดิมอีกครั้งว่า การขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,250 จุดคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว! แต่การวิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ จนทะลุแนวต้านอีกแนวบริเวณ 1,300 จุดกลับกลายเป็นเรื่องที่ยากกว่า! เดี๊ยนถึงมั่นใจเหลือเกินว่าดัชนีน่าจะแกว่งตัวไปมาในกรอบดังกล่าวอีกพักใหญ่ ๆ เพราะองค์ประกอบหลายอย่างยังไม่เอื้อให้วิ่งแบบแรลลี่พะยะค่ะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่บริเวณ 1,272.53 จุด บวกไป 10.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.92 หมื่นล้านบาท โดยระหว่างวันเหวี่ยงตัวไปมาแบบคาดเดาทิศทางไม่ได้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นเข้าใจเป็นอย่างดี และพร้อมจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ออกมาทั้ง “ด้านบวก” และ “ด้านลบ” อย่างเต็มใจ เพราะประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศแล้วพบว่าไม่น่าจะมีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วไงล่ะคะ
*ส่วนประเด็นอุ้มหุ้นกู้ที่กำลังกลายเป็นดราม่าในขณะนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความเข้าใจคลาดเคลื่อนมากกว่า เพราะที่ผ่านมาผู้คนในวงการต่างรู้ดีว่า หุ้นกู้ที่ต่ำกว่าระดับ BBB มันไม่ใช่ระดับที่ผู้จัดการกองทุนสามารถลงทุนได้ หรือเรียกให้เข้าใจอีกอย่างก็คือ หุ้นกู้ขยะ! ส่งผลให้คนซื้อต้องแบกความเสี่ยงกันเอาเอง ขณะเดียวกันหากเป็นหุ้นกู้ที่มากกว่าระดับ BBB ก็ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า ความเสี่ยงต่ำ และผู้จัดการกองทุนนิยมเก็บเข้าพอร์ตนะนายจ๋า!
*วันนี้ถึงอยากบอกให้ทุกคนเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องเหลื่อมล้ำอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่เป็น กฎ กติกา มารยาท ที่ผู้คนในตลาดเงินตลาดทุนรับรู้กันมาเป็นเวลานาน ส่วนเรื่องเจ้าสัวเบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทยจะลงมือควักเงินในกระเป๋ามารับซื้อหุ้นกู้บางส่วนไว้ก่อน ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละเจ้าสัว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แยกแยะประเด็นหลักในเที่ยวนี้มันเป็นเรื่อง “ของดี” กับ “ของห่วย” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องสองมาตรฐาน (ขนาดอเมริกายังช่วยคนเสียภาษีก่อน ต่อจากนั้นให้คนที่ไม่อยู่ในระบบ กรอกข้อมูลขอความช่วยเหลือทีหลัง) นะคะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากให้นักเล่นมองไปที่หุ้น PTTEP เพื่อช่วยทำการแยกแยะสาเหตุที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 76 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.67 พันล้านบาท มันเกิดจากประเด็นไหนกันแน่ ? เพราะมองในมุมของผลงานต่อจากนี้ คงออกไปในแนวไม่เริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอน แต่ถ้ามองในมุมของกองทุนกระโจนเข้ามาดันสุดซอย ก็ต้องดูกันยาว ๆ เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของน้องแบม BAM กระชากขึ้นแล้ว กระชากขึ้นอีก จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 24 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.53 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของกองทุนเข้าลุย หุ้นถึงไปค่อนข้างแรง แต่รอบนี้จะฝ่าด่านหินบริเวณ 25 บาทขึ้นไปได้หรือเปล่า ? เดี๊ยนคงแนะนำได้แค่ว่า บรรดาแฟนคลับต้องติดตามดูสถานการณ์เอาเองนะคะ
*คล้ายกับประเด็นของพ่อดอกมะลิ JAS ทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติด ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 4.02 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 880 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นขาประจำยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง เพราะเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้เป็นนัยว่ากำลังวิ่งกลับไปหาฐานเก่าบริเวณราคา 5 บาทอีกรอบ แต่ในระหว่างทางต้องแวะสร้างฐานแถว 4 บาทให้แน่นเสียก่อน..กราฟเทคนิคมันบอกไว้อย่างนั้นนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่มาด้วยสตอรี่ใหม่เอี่ยมอ่องอรทัยอย่าง JMART กลายเป็นช็อตที่ทำให้ขาลุยแตกฮือกันยกใหญ่ พร้อมกับกระโจนใส่กันหนุบหนับ จนวานนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 12.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่น่าสนใจสำหรับนักเล่นหุ้นต่ำสิบ เพราะเกมเที่ยวนี้สามารถมองไปถึงฐานเก่าบริเวณราคา 9 บาท..ส่วนจะสำเร็จเหมือนกับที่เม้าท์กันไหม ? ต้องดูกันต่อไปเจ้าค่ะ