เริ่มมีหวัง!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจมากสุดวานนี้เป็นเรื่องปลดล็อกให้กับร้านอาหารที่เป็นแบบโอเพนแอร์ มันคือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ทุกคนได้รู้ว่า เงินในระบบของตลาดล่างมีการแพร่สะพัดขนาดไหน ? ซึ่งจะเป็นสัญญาณบอกไปถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยมีแววฟื้นตัวขนาดไหน ? มันเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก และน่าจะมีส่วนทำให้ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นไปได้อีกนะตัวเอง

*ก่อนจะวาดฝันไปถึงตรงนั้น! เดี๊ยนจำเป็นต้องย้ำหัวหมุดกับแฟนคลับอีกครั้งว่า ดัชนีจำเป็นต้องย่ำฐานบริเวณ 1,250 จุดให้แน่นเสียก่อน และต้องผ่านการทดสอบแรงขายอีกสักสองสามวัน หลังจากนั้นจะทำให้ฐานรับดังกล่าวแน่นเปรี๊ยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นอย่าบุ่มบ่ามในช่วงที่ทุกอย่างดูสวยงาม เพราะเอาเข้าจริง ๆ ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นควบคู่กันไปด้วยพะยะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนียื้อไปยื้อมาตลอดทั้งภาคเช้า ก่อนจะถีบตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย จนสุดท้ายดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,267.41 จุด บวกไป 8.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.95 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมไม่มีอะไรเคลือบแคลงใจแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นไทม์มิ่งที่ดีสำหรับการไล่ราคา เพราะบรรดานักเล่นชอบกระโจนใส่ตามกระแส แถมเมื่อเห็นเจ้าภาพลงมาเล่นเองด้วย..มันก็เลยบันเทิงอย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ

*เหมือนกับการวิ่งขึ้นของหุ้น CPALL จนขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 69.25 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.93 พันล้านบาท ล้วนเกิดจากพฤติกรรมของผู้คนหันมาพึ่งพิงร้านสะดวกซื้อแห่งนี้มากขึ้น ผนวกกับตัวธุรกิจรุกคืบเข้าไปในทุกภาคส่วนของชีวิตประจำวัน “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นคนเดียวโดด ๆ แบบไม่ต้องแคร์สายตาชาวโลก หลายคนเลยเชื่อว่า ไปยาวเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ CPN ออกอาการดี๊ด๊าแบบไม่เกรงใจใครทั้งนั้น คงเป็นผลมาจากความคาดหวังที่จะได้เปิดห้างในเร็ว ๆ นี้ บรรดากองทุนเลยเข้ามาไล่หุ้นกันอย่างสนุกสนาน วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 49.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 860 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่สองครั้งก่อนก็ไล่ราคากันแบบนี้ สุดท้ายราคาหุ้นก็จอดป้ายแถวบริเวณ 51 บาทนะจะบอกให้

*สำหรับรายที่พิลึกและแหวกแนวเหลือเกิน คงต้องยกให้น้องสวย BEAUTY มากกว่าหุ้นตัวไหน ๆ เพราะคุณเธอกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.86 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 975 ล้านบาทแบบไม่บอกกล่าวให้รู้ล่วงหน้า บรรดาแมงเม่าเลยเกิดอาการอึ้งกิมกี่ไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิงแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องสไตล์การเล่นของคนที่ชอบแบบดุดัน ไม่ต้องถามหาพื้นฐานให้เสียเวลานะนายจ๋า!

*ตรงกันข้ามกับในรายของ RBF อย่างลิบลับกันเลยทีเดียว เพราะรายนี้มีสตอรี่ที่เป็นเรื่องเป็นราวออกมาให้เห็นเรื่อย ๆ บวกกับตัวธุรกิจไม่โดนกระทบจากไวรัสมรณะอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.58 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาท เพราะเมื่อสองวันก่อนเพิ่งเล่นในกรอบราคา 4.40-4.70 บาทกันอยู่เลย!..ยกเว้นเที่ยวนี้ทะลุไปได้ น่าจะไปเจอกันอีกทีแถว ๆ 5 บาทกระมัง!..อิอิอิ

*อีกรายที่ “เคาะซ้าย เคาะขวา” ตลอดทั้งวัน ต้องยกให้ JMART หลังเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่าสตอรี่แบงก์เกาหลีทำเงินเข้าบริษัทเยอะจริง ๆ และยังมีของแถมติดปลายนวมให้อีกชุดใหญ่ “โมนิก้า” ถึงมองเป็นหุ้นที่น่าสนใจมากสุดตัวหนึ่งในปีนี้ บวกกับเป็นบริษัทที่มีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกรรมของโลกยุคใหม่ เลยทำให้ราคาปิดที่ 8.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาท น่าจะต่ำเกินไปนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ CHAYO ถูกดันขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.15 บาท บวกไป 0.80 บาท พร้อมกับขึ้นไปชนซิลลิ่ง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท ก็มาจากความเชื่อเกี่ยวกับผลงานของบริษัทจะดีขึ้นเป็นลำดับ (พลิกวิกฤติเป็นโอกาส) บรรดากองเชียร์ถึงกระโจนใส่กันหนุบหนับ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นจะขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณ 8 บาทในไม่ช้า เดี๊ยนย่อมมองเป็นเกมที่ต้องเกาะติดให้ดีนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น DOD เพื่อเปิดเป็นทางเลือกให้กับขาลุยสักหน่อย เพราะตั้งแต่วันที่เม้าท์ให้ฟังแบบจุใจ ราคาหุ้นยังขึ้นไม่หยุดสักที จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 6.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 9.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 67 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนมองฐานเก่าบริเวณราคา 8 บาทไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะเที่ยวนี้มีเรื่องขายเจลกระฉูดเป็นแบ็กอัพน่ะซี