New Normal ใต้รัฐตู่

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือต่ำสิบ แต่ทุกคนอย่าการ์ดตก เราจะต้องใช้ชีวิตอย่าง New Normal


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือต่ำสิบ แต่ทุกคนอย่าการ์ดตก เราจะต้องใช้ชีวิตอย่าง New Normal

ศบค.ไม่ต้องย้ำมากหรอก ดูไปดูมา กลายเป็นภาคประชาชนภาคเอกชนพร้อมมากกว่า ที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบ New Normal รัฐบาลต่างหากที่ไม่พร้อม จนต้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว แม้ยอมผ่อนปรนให้ทำมาหากินบ้าง แต่ก็ยังจำกัดจำเขี่ยกว่าที่ควร

ยกตัวอย่าง ห้างค้าปลีกพร้อมแล้ว ที่จะเปิดบริการแบบ New Normal มีระบบจัดการไม่ให้คนแออัด แต่รัฐบาลต่างหากยังชะงัก ทั้งที่ธุรกิจค้าปลีกอุตส่าห์ศึกษาวิจัย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ กำหนดมาตรการมาอย่างละเอียดยิบ

แล้วถ้าย้อนไปดูข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข โดย 14 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ก็บอกว่าเปิดธุรกิจได้ แต่ต้องปรับตัวให้มีความเสี่ยงต่ำ จำกัดเวลาคนมาใช้สถานที่ เพิ่มการระบายอากาศ ขณะที่มาตรการพื้นฐาน วัดไข้ ใส่หน้ากาก ก็ทำกันอยู่แล้ว

ทุกวันนี้คนเดินห้าง ที่เปิดเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ก็ยังสงสัยว่าจะปิดแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องเขียน คอมพิวเตอร์ มือถือ ไว้หาหอกอันใด จะซื้อปากกาสักเล่มยังไม่ได้

อย่ากลัวไปเลย กรมควบคุมโรค เขาเตรียม handbook ไว้สำหรับธุรกิจทุกประเภทที่พอจะเปิดได้ ว่าเปิดแล้วควรปฏิบัติอย่างไร เว้นเสียแต่ความเสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนามการพนันรูปแบบต่าง ๆ (นี่ลอกมาคำต่อคำ ในข้อเสนอของ 14 ผู้เชี่ยวชาญ ให้สังเกตว่าเขาไม่ได้พูดถึงการห้ามร้านอาหารในห้าง แต่แน่นอนว่าต้องมีวิธีจัดการ)

ประชาชนต้องย้อนกลับไปอ่านข้อเสนอ 14 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แล้วจะเห็นว่า ไม่มีการแบ่งธุรกิจเป็น 4 สี ขาว เขียว เหลือง แดง นั่นสภาพัฒน์แบ่ง ไม่รู้เอามาจากไหน แล้วบอกว่าถ้าจะเปิด ก็ให้เปิดทีละสีพร้อมกันทั่วประเทศ ต่างจากข้อเสนอสาธารณสุขที่ให้เปิดตามลำดับจังหวัดปลอดภัย

ถ้าธุรกิจสีเหลืองต้องรอจนกว่าภูเก็ตจะติดเชื้อเหลือ 0 นาน 14 วัน คงตายกันหมด ทำไมกรุงเทพฯ อุดร เชียงใหม่ จะเปิดก่อนไม่ได้

กทม.บอกว่าร้านอาหารนอกห้างจะให้นั่งได้ แต่ต้องตั้งโต๊ะห่าง 1.5-2 เมตร รู้ไหมครับ ร้านแบบไหนน่าให้เปิดที่สุด ร้านข้าวต้มไง แต่เปิดไม่ได้เพราะเคอร์ฟิวสี่ทุ่ม สามทุ่มเก็บโต๊ะ จะทันขายไหม

ก็แบบเดียวกับเปิดห้าง ถ้าจัดคิวให้คนเข้า ไม่เกินพันคนไม่เกินหนึ่งชั่วโมง แต่ต้องปิดสองทุ่ม จะจัดการอย่างไร ทำไมไม่เปิดห้าทุ่มเที่ยงคืนให้คนทยอยใช้บริการ ที่ทำไม่ได้ เพราะสมองรัฐบาลเชื่อว่า โควิดออกหากินเวลากลางคืน

เช่นเดียวกับการเดินทางระหว่างจังหวัด จังหวัดใกล้ ๆ ที่ความเสี่ยงไม่ต่างกัน จังหวัดทั่วไป ที่ควบคุมผู้ติดเชื้อได้ ทำไมต้องห้าม เพราะมันส่งเสริมเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ กระทั่งการท่องเที่ยว ถ้าเปิดที่พักแบบรีสอร์ตแยกจากกัน ทำไมจะทำไม่ได้

ทั้งหมดนี้ ประชาชน ภาคเอกชน พร้อมหมดแล้วครับ กรมควบคุมโรคก็พร้อมให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติ จะกลับมาเดินหน้าแบบ New Normal อย่างไร รัฐราชการต่างหากยังไม่พร้อม

แล้วรัฐราชการนั่นแหละจะเป็นตัวขัดขวาง การกลับมาดำรงชีวิต การทำธุรกิจ ที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติได้ หรือพูดอีกอย่าง “มาตรการทางสังคม” จะเป็นผู้ควบคุม เหมือนคุณไม่ใส่หน้ากาก ก็เข้าไปที่ไหนไม่ได้ ขนาดจะซื้อหมูปิ้งข้างถนน แม่ค้ายังมองหน้า ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งผู้ว่าฯ บังคับจับขึ้นศาล

แต่เมื่อไหร่ที่เป็นระเบียบคำสั่ง เราก็จะเห็นรัฐราชการเข้ามาบังคับ จ้องจับผิด ใช้อำนาจเกินเลย เพราะรัฐราชการคิดว่าตนเองเป็น “บิดารู้ดี” อย่างนี้ทำได้ อย่างนี้ไม่ให้ทำ

ทั้งที่ทุกวันนี้ ภาคประชาชน ภาคเอกชน อาจจะรู้มากกว่า พร้อมกว่า ข้าราชการทหารตำรวจเสียด้วยซ้ำ

Back to top button